ประเทศไทย ประกาศเจตนารมณ์ร่วมกับประเทศต่างๆ ลดการเจ็บป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคจากมลพิษทางอากาศของประชาชนทั่วโลก ยกประเด็นมลพิษทางอากาศและสุขภาพเป็นวาระสำคัญระดับชาติ ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในปี 2573
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้เป็นผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมประชุม First Global Conference on Air Pollution and Health โดยมีอธิบดีกรมควบคุมมลพิษเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย เมื่อวันที่ 30 ต.ค.-1 พ.ย.61 ที่สำนักงานใหญ่องค์การอนามัยโลก นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และระดมความคิดเห็นต่อมาตรการและกำหนดข้อตกลงเชิงนโยบายร่วมกัน ระหว่างประเทศสมาชิก องค์การอนามัยโลก และหน่วยงานภาคี เพื่อเป้าหมายอากาศบริสุทธิ์และสุขภาพที่ดีขึ้นของประชาชนทั่วโลก
โดยในการประชุมครั้งนี้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงร่วมพิธีเปิดการประชุม ทรงมีพระดำรัสถึงประเด็นมลพิษทางอากาศ ที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตทั่วโลกถึง 8 ล้านคนต่อปี และอาจส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งทั่วโลกเพิ่มขึ้น ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจในหลายประเทศ เป็นอุปสรรคต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน อย่างไรก็ดี การเจ็บป่วยและเสียชีวิตเหล่านี้ สามารถหลีกเลี่ยงได้ และมีความสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องกำหนดเป็นวาระสำคัญระดับโลกที่ทุกประเทศ ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน เพื่อการคุ้มครอง ดูแลสุขภาพประชาชนจากมลพิษทางอากาศ
พญ.พรรณพิมล กล่าวต่อว่า องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้ประเด็นมลพิษทางอากาศและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็น 1 ใน 5 ประเด็นขับเคลื่อนที่สำคัญในปี 2019-2023 ซึ่งประเทศไทย โดยกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนนโยบายในระดับภูมิภาค ในฐานะประธานร่วมของคณะทำงานวิชาการด้านคุณภาพอากาศ ภายใต้กรอบความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก เพื่อให้เกิดการคุ้มครอง ป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากมลพิษทางอากาศ ในบรรยากาศ อาคารบ้านเรือน รวมไปถึงมลพิษข้ามพรมแดน
ส่วนในระดับประเทศ ได้ร่วมกันขับเคลื่อนภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนยุทธศาสตร์อนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ โดยมีนโยบายให้โรงพยาบาลและหน่วยงานในสังกัด ดำเนินงานโครงการ GREEN & CLEAN Hospital เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจว่าประเทศไทยได้ทำตามที่แสดงเจตนารมณ์ความมุ่งมั่นร่วมกับนานาชาติ เพื่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
"การประชุมในครั้งนี้ ประเทศไทยให้คำยืนยันว่าจะมุ่งมั่นดำเนินการเรื่องมลพิษทางอากาศและสุขภาพให้เป็นวาระสำคัญระดับชาติ เพื่อลดการเจ็บป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคไม่ติดต่อที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศร้อยละ 25 ภายใน พ.ศ.2573 โดยบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนให้เกิดการจัดการคุณภาพอากาศที่ดี ลดมลพิษ มีมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ และสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายระบบ เฝ้าระวังติดตามคุณภาพอากาศและการสื่อสารเตือนภัยด้านสุขภาพแก่ประชาชน คำนึงถึงกลุ่มเสี่ยง เด็กเล็ก และผู้สูงอายุให้ความสำคัญต่อการพัฒนาขีดความสามารถภาคสาธารณสุขและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อบรรลุเป้าหมายวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนในปี พ.ศ.2573" อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี