nn...แม้ทางการเมือง จะเริ่มร้อนแรงใกล้จะมีการเลือกตั้งในต้นปีหน้า แต่มีเรื่องน่ายินดีกับ “บังซุป” ศุกชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยเมื่อเร็วๆนี้ลูกสาวคนเดียวคนเก่งสุดเลิฟ “น้องมะปราง” น.ส.พธูทิพย์ ใจสมุทร ดีกรีจบปริญญาโท เกียรตินิยมนิติศาสตรมหาบัณฑิตจาก 2 มหาวิทยาลัยคือมหาวิทยาลัย University College London (UCL)และ มหาวิทยาลัย London School of Economics and Political Science (LSE) มหานครลอนดอน และ ปริญญาตรีนิติศาสตร เกียรตินิยม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทำงานเป็นที่ปรึกษากฎหมายในสำนักกฎหมายระหว่างประเทศ ในกรุงเทพฯ เข้าพิธีมงคลสมรสตามหลักศาสนาอิสลาม(นิกะห์) ที่บ้านหยงสตาร์ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง กับ “เซแนน สจ๊วต” เจ้าบ่าว ดีกรีจบปริญญาโทเกียรตินิยมอันดับ 1 มหาวิทยาลัย Oxford ทำงานเป็น เจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทยักษ์ใหญ่ในลอนดอนและเป็นบุตรชายคนเดียวของ“นิโคลัส สจ๊วต”อดีตผู้พิพากษาศาลกรุงลอนดอน..บรรยากาศในงานเป็นไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ ตามหลักการศาสนาอิสลามอันเรียบง่ายและงดงามตามประเพณีท้องถิ่นดั้งเดิม ท่ามกลางหมู่ญาติ คนใกล้ชิดของเจ้าบ่าวเจ้าสาวเท่านั้น “ผมตั้งใจให้พิธีการเป็นไปด้วยความเรียบง่ายและเฉพาะในหมู่ญาติที่บ้านเกิด” มิน่าถึงไม่มีใครทราบข่าวกันเลย จนได้มาเห็นโพสต์ภาพงานบนเฟซบุ๊คส่วนตัว...งานนี้บังซุปก็ฝากขออภัยท่านที่เคารพทุกท่าน ที่ไม่ได้เรียนเชิญเข้าร่วมงานด้วย ไม่อยากรบกวน ผมขอเพียงท่านได้ตั้งจิตอธิษฐานอวยพรให้ “คู่บ่าวสาว” มีชีวิตครอบครัวที่เป็นสุขก็เพียงพอและเป็นพระคุณยิ่งแล้วครับ...แหมเป็นคุณพ่อที่น่ารักและเป็นปลื้มมีความสุขที่สุดที่เห็นลูกสาวมีคู่ครองที่ดี...ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ...nn

nn...ต้องยกให้เป็นนายตำรวจหนุ่มไฟแรง ที่เข้ามานั่งรักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจราจร (รรท.ผบก.จร.) หมาดๆก็ลุยผลักดันโครงการดีๆออกมารายวัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน สำหรับ “พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์” หรือผู้การปิ่นตั้งแต่โครงการจัดจราจรแว้น “ส่งน้องถึงโรงเรียน” เพื่อบรรเทาปัญหาจราจรที่หนักหน่วงช่วงเปิดเทอม โดยจัดเจ้าหน้าที่ในสังกัด พร้อมรถจักรยานยนต์ไว้คอยเป็นสารถีรับ-ส่งนักเรียน กรณีรถติดสาหัสผู้ปกครองประเมินแล้วว่าไปส่งลูกๆหลานๆไม่ทันเข้าเรียนแน่ โทรไปขอความช่วยเหลือ บก.จร.ผ่านสายด่วนจราจร 1197 โดยแจ้งจุดที่รถติดทะเบียนรถ เจ้าหน้าที่จะได้ไปรับลูกหลานของท่านส่งให้ถึงโรงเรียน ทันเคารพธงชาติ แถมปลอดภัยแน่นอน

เบื้องแรก จัดเตรียมจุดอำนวยความสะดวกไว้ 18 จุด รัศมีไม่เกิน10 กิโล กระจายไปทั่วกทม. เน้นจุดลงทางด่วนเพลินจิต สีลม อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พระรามสี่ ซึ่งเป็นเส้นทางการจราจรสาหัสสากรรจ์ นอกจากนี้ยังวางกำลังบริเวณโรงเรียน-สถาบันการศึกษาอีก 13 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โรงเรียนราชวินิตมัธยม โรงเรียนละอออุทิศ โรงเรียน
ราชินีบน โรงเรียนเซนต์คาเบรียล โรงเรียนอำนวยศิลป์ โรงเรียนพญาไท โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย โรงเรียนมาแตร์เดอี โรงเรียนเซนต์ดอมินิก และโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย...ที่สำคัญคือ บริการนี้จากบก.จร.ไม่มีค่าใช้จ่าย แถมรับประกันความปลอดภัยในการเดินทาง ผู้ปกครอบมั่นใจได้พันเปอร์เซ็นต์ เพียงแต่มาตรการนี้ บก.จร.จะให้บริการเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อปรับสภาพการเดินทาง หลังระบบการจราจรเข้าที่เข้าทางแล้วก็จะยกเลิกโครงการ...งานนี้ เรียกเสียงตอบรับชื่นชมจากพ่อแม่ผู้ปกครองได้โข แม้เป็นเพียงระยะสั้น...nn

nn...ต่อมาไม่นาน ผู้การปิ่นก็ผุดโครงการตามมาเป็น “มาตรการป้องกันการลืมเด็กไว้ในรถ” ซึ่งมักมีข่าวคราวสลดตามสื่อต่างๆ นำไปสู่ความสูญเสีย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยบก.จร.จึงมีคำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง พนักงานขับรถ และครูพี่เลี้ยงประจำรถ ผ่านโครงการ “คุณอาคะ..กรุณาอย่าลืมหนูไว้ในรถนะคะ”มีแนวทางปฏิบัติ 3 ข้อ ให้ทั้งผู้ปกครอง พนักงานขับรถ และครูพี่เลี้ยงประจำรถ จำไว้เตือนใจตัวเองคือ “นับ ตรวจตรา อย่าประมาท”...“นับ”คือ นับจำนวนเด็กก่อนขึ้นและหลังลงจากรถทุกครั้ง“ตรวจตรา”คือ ก่อนล็อกประตูรถ ตรวจดูให้ทั่วรถ และ“อย่าประมาท”คือ อย่าทิ้งเด็กไว้ลำพังแม้จะช่วงสั้นๆก็ตาม หรือถ้าไปพบเด็กถูกลืมไว้ในรถ ให้ติดตามหาเจ้าของรถมาเปิดรถโดยเร็ว หรือแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ ผ่านสายด่วน 1197 หรือ 191 ...อีกหนึ่งแนวทาง ที่บิ๊กปิ่นแนะนำคือ การสอนให้ลูกหลานรู้จักวิธีการเอาตัวรอดเมื่ออยู่ในรถ…หากถึงเวลาเกิดเหตุจะได้ไม่ตื่นตระหนกตกใจมากนัก...ส่วนโครงการต่อไปจะเป็นอะไร ก็ต้องติดตามกันดู แต่ทั้งหมดทั้งมวลเป็นไปตามสโลแกนประจำตัวของผู้การปิ่นที่ว่า “...ตำรวจจราจรยุคใหม่ทำทันที ทำดีที่สุด ทำเพื่อประชาชน...”...คร้าบพี่น้อง...nn