ยายพิการตาบอด วัย 87 ปี ยืนยันไม่เคยรู้ว่าเงินมีเท่าไหร่ แต่ยอมรับเบิกเงินจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่ดูแลเป็นประจำ ด้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคืนเงินที่เหลือ80,000 บาท พร้อมยกเลิกใบมอบอำนาจทางการเงิน รับจะดูแลทุกข์สุขของยายแต่ไม่เกี่ยวข้องเรื่องเงิน
8 พ.ย.61 หลังเพจชื่อดังโพสต์เรื่องราวหญิงอายุ 44 ปี ในอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ต้องโทษในเรือนจำ ขอให้ช่วยเหลือนางสี แสนสำอาง อายุ 87 ปี แม่ผู้พิการตาบอด และอยู่คนเดียวเพียงลำพัง หลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ทางโลกโซเชียล ปรากฏว่ามีคนโอนเงินบริจาคเข้าบัญชีของนางสีเกือบ 250,000 บาท แต่เมื่อจิตอาสาเข้าไปตรวจสอบบัญชีธนาคาร ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา มียอดเงินคงเหลือเพียง 888 บาท จึงทำให้นางวิไลวรรณ พันธุ์นาม อายุ 43 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ตำบลบ้านฉาง อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ที่เป็นผู้ดูแลเงินบริจาคและเป็นคนเก็บสมุดบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็ม กลายเป็นจำเลยสังคมถูกตำหนิ ต่อว่าในโลกโซเชียล จนต้องออกมาแถลงและชี้แจงรายรับ-จ่าย จำนวนเงินบริจาคในบัญชีของนางสี เพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์ของตนเอง
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ นางวิไลวรรณ พันธุ์นาม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ได้นำเงินสดที่เหลืออยู่จำนวน 80,000 บาท พร้อมหลักฐานในการ ดูแลยายภายใน 3 เดือน ใช้จ่ายหมดไป 78,000 บาท แยกเป็นส่วนที่ใช้เงินสดไปเป็นจำนวนเงิน 52,660 บาท จากในแต่ละครั้งที่ยายมาเอาเงิน ครั้งละ 1-2 พัน บางครั้ง 5,000 บาท และอีก 25,400 บาท เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆช่วงที่ยายรักษาตัวอยู๋ในโรงพยาบาล การมอบเงินต่อหน้ากำนันและผู้ใหญ่บ้าน
นางวิไลวรรณ กล่าวว่า ขอวิงวอนสังคมว่าอย่าด่าหรือประนามเธอกับครอบครัวอีกเลย เพราะที่ผ่านมาทำดีที่สุดแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแลยาย ตนเองดูแลมาตลอด นับจากนี้ไปจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเงินของยายอีก แต่เรื่องอื่นๆจะดูแลเหมือนเดิมเหมือนที่เคยดูแลมา ส่วนเรื่องที่สังคมถามว่าทำไมต้องเอาเงินยายไปให้ลูกหลานยายใช้ด้วย เพราะยายบอกว่าเงินของกูเอามาและลูกหลานยายก็มาเอาจึงต้องจ่ายไป โดยไม่คิดว่าจะเกิดปัญหา เพราะเห็นว่าเป็นเงินของครอบครัวยาย อยากฝากขอโทษต่อสังคมด้วยที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์
ขณะที่นางสี แสนสำอาง อายุ 87 ปี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาไม่เคยทราบว่ามีเงินอยู่ในบัญชีเท่าไหร่ รู้แต่เพียงว่ามีนางวิไลวรรณ พันธุ์นาม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน คอยดูแล จึงได้เบิกเงินจากนางวิไลวรรณ มาใช้อยู่เสมอ อีกทั้งยามป่วยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านก็เป็นคนจ่ายเงินให้ รวมถึงอาหารในแต่ละวันอีกด้วย ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้น เป็นการพูดของชาวบ้านต่างๆนาๆ และไม่เคยถือโทษโกรธนางวิไลวรรณ พันธุ์นาม ซึ่งเป็นเสมือนลูกหลานของตนเองจึงไม่คิดจะแจ้งความด้วย
ด้านนายสำราญ สนั่นดัง กำนันตำบลบ้านฉาง ซึ่งได้มาเป็นพยานในการรับเงินจำนวน 80,000บาท กล่าวว่า ต่อไปยายจะไม่มีคนมาคอยดูแล จัดการเรื่องเงินให้เพราะนางวิไลวรรณ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ที่เคยได้รับมอบหมายให้ดูแล ตัดสินใจถอนตัว จึงต้องเตรียมหาลูกหลานของยายให้มารับช่วงดูแลต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ยายสี ได้รับเงินสดจำนวน 80,000 บาทแล้ว ได้เดินทางไปที่ธนาคาร กรุงไทย สาขาบ้านฉาง เปิดบัญชีออมทรัพย์นำเงินเข้าฝาก จำนวน75,000 เหลือใว้ใช่ 5,000 บาท หลังจากนี้ยายจะเดินทางมาเบิกเงินด้วยตัวเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี