กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดกิจกรรมนำสื่อมวลชนเยี่ยมชมหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว (Press Tour) โดย เส้นทางที่ 1 : อารยธรรมล้านนา ระหว่างวันที่ 6 - 8 พฤศจิกายน 2561 โดยจะเริ่มต้นที่หมู่บ้านป่าซางวิวัฒน์ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย “ป่าไม้อุดมดี สตรีสวยสด สับปะรดหวานฉ่ำ วัฒนธรรมล้านนา สองศาสนารวมกัน” คำขวัญประจำหมู่บ้านป่าซางวิวัฒน์ ชาวบ้านมีอาชีพทำการเกษตร และที่ขึ้นชื่อคือ"สับปะรดนางแล" ที่กลายเป็นที่รู้จักกันทั้งคนไทยและต่างชาติที่ไม่เหมือนสับปะรดอื่นใดในโลก
โดยสัปปะรดป่าซางวิวัฒน์ เริ่มขยายพื้นที่ปลูกที่กว้างออกไปและสามารถปลูกได้4,000ต้น ให้ผลผลิตประมาณ2,800-3,000 ลูก/ไร่ กระทั่งการปกครองส่วนท้องถิ่นโดยองค์การบริหารส่วนตำบลนางแล(ปัจจุบันเทศบาล ต.นางแล)ได้เข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนผลไม้และของดีในชุมชน จึงได้เปลี่ยนชื่อ"สับปะรดป่าซางวิวัฒน์"เป็น"สับปะรดนางแล"ตราบจนปัจจุบัน
จากนั้นเราได้ไปสักการะวัดป่าปฐมพุทธาราม หรือ สำนักสงฆ์ปฐมพุทธาราม ตั้งอยู่ที่ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย โดยมีหลวงพ่อสมบูรณ์ สุขวฑฺฒโน ท่านอยู่ประจำที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ โดยหมู่บ้านปางขอน ตั้งอยู่ในบนดอยสูงในพื้นที่ต.ห้วยชมภู อ.เมือง จ.เชียงราย เป็นชุมชนชนเผ่าอาข่า มีประเพณีการต้อนรับด้วยการคล้องไข่ต้มย้อมสีแดงร้อยด้วยไหมพรหมให้เป็นสร้อยนำมาคล้องคอแขกผู้มาเยือน ห่างจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 40 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางเดียวกับน้ำตกขุนกรณ์
ยังมีอีกอีกหนึ่งเสน่ห์ของที่นี่เก็คือไร่กาแฟ มีโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านปางขอน แหล่งที่มีดอกนางพญาเสือโคร่งให้ชมกันในเดือนมกราคมจะแตกดอกผลิบานเป็นสีชมพู กระจายไปทั่วบริเวณดอยบ้านปางขอน โดยชุมชนร่วมกลุ่มกันเป็นวิสาหกิจชุมชนกาแฟ มีพื้นที่ปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้า 2,000 ไร่ (กาแฟกะลา) ถือได้ว่าเป็นกลุ่มกาแฟกลุ่มใหม่อีกกลุ่มหนึ่งที่ผู้บริโภคกาแฟรู้จักในรสชาติที่คงที่และเข้มข้นได้มาตรฐาน จะบอกว่ากาแฟปางขอนเริ่มขึ้นพร้อมๆกับกาแฟดอยช้าง ในปี 2526
จากนั้นเดินทางไปยังหมู่บ้านสันป่าม่วง อ.เมืองพะเยา ที่นี่ยังคงความเป็นชุมชนชนบทอยู่ เป็นหมู่บ้านแห่งการทำผลิตภัณฑ์จากผักตบชวา "ผักตบชวา" ที่กลายมาเป็นสิ่งมีค่าสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับชาวบ้าน ซึ่งรวมกลุ่มกันผลิตงานหัตถกรรมจากผักตบชวาหลังว่างจากงานเกษตรกรรมด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานราชการต่าง ๆ ในจังหวัดพะเยา ยังได้พิจารณาคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้านอุตสาหกรรมชนบทเพื่อการท่องเที่ยว ปัจจุบันได้มีการพัฒนารูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย มีความคงทน สวยงาม เช่น หมวก กระเป๋า จานรองแก้ว ไปจนถึงของประดับตกแต่งบ้าน
หากมาที่นี่อย่าลืมแวะมาสักการะ วัดอนาลโยทิพยาราม บนดอยบุษราคัมและม่อนพระนอน สถานที่ปฏิบัติธรรมที่ร่มรื่นและยังเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของจังหวัดพะเยา ที่ตั้งอยู่บนดอยอย่างชัดเจน ภายในบริเวณวัด ประกอบด้วยพระพุทธรูปศิลปสุโขทัย พระพุทธรูปปางต่างๆ สร้างด้วยความประณีตสวยงามแบบศิลปไทย รัตนเจดีย์ เป็นศิลปะแบบอินเดียพุทธคยา เก๋งจีนประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม หอพระแก้วมรกตจำลอง และจากยอดเขาสามารถชมทัศนียภาพ ของกว๊านพะเยา และเมืองพะเยาได้อย่างชัดเจน
จากนั้นเราได้เดินทางไปสักการะ วัดพระธาตุลำปางหลวง ตั้งอยู่ในเขตต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง อยู่ห่างจากตัวเมืองลำปาง ไปทางทิศตะวันตก เฉียงใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณ ตามตำนานกล่าวว่า มีมา ตั้งแต่สมัย พระนางจามเทวี ในราวพุทธศตวรรษที่ 20 ตอนปลายเป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุด แห่งหนึ่งของไทย งดงามด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ มากมายพระธาตุลำปางหลวง เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของ คนปีฉลู ด้วย โดยเริ่มสร้างในปีฉลูและแล้วเสร็จในปีฉลู เช่นกัน
ที่บ้านหลุกใต้ ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง สุดยอดหมู่บ้านหัตถกรรมแกะสลักไม้ ลำปางหนึ่งในหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยวของลำปาง คำว่า “หลุก” มีคำเรียกที่เพี้ยนมาจาก คำว่า “หลุบ” ซึ่งมีลักษณะคล้ายกังหันน้ำในปัจจุบัน เนื่องจากแต่เดิมลักษณะภูมิประเทศของหมู่บ้าน เป็นที่ราบสูง มีแม่น้ำอยู่ต่ำกว่าหมู่บ้าน การจะนำน้ำมาใช้จึงเป็นการยากลำบาก จึงมีการคิดนำหลุบมาใช้สำหรับวิดน้ำในชีวิตประจำวัน คนในหมู่บ้านสวนใหญ่มีอาชีพแกะสลักซึ่งเป็นความงามแห่งอัตลักษณ์ชุมชน การดำเนินวิถีชีวิตแบบพอเพียง จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ขึ้นชื่อ
ที่หมู่บ้านต้นเปา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ "มหัศจรรย์แห่งการสร้างสรรค์กระดาษสาบ้านต้นเปา"ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านน้อยคนที่จะไม่รู้จักหรือไม่เคยเห็นกระดาษสา เนื่องจากกระดาษสาเป็นภูมิปัญญาที่มีการทำมาช้านาน แต่บ้านต้นเปาเป็นแหล่งผลิตกระดาษสาที่มีชื่อเสียงของเชียงใหม่และทำมานานกว่า 100 ปี สืบทอดมาจากชนเผ่าไทยเขิน ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวต้นเปาที่อพยพมาจากสิบสองปันนา เชียงตุง และเชียงรุ้ง เมื่อสมัยก่อตั้งอาณาจักรล้านนา ในอดีตหมู่บ้านต้นเปาแห่งนี้ในอดีต ไม่เคยมีต้นปอสาวัตถุดิบหลักของการทำแผ่นกระดาษอยู่ในหมู่บ้านเลย เพราะต้นปอสานั้นมักจะอยู่ในป่าตามธรรมชาติ ดังนั้นการทำกระดาษสาจึงน่าจะเป็นภูมิปัญญาที่มีการสืบทอดกันมาหลายช่วงอายุก่อนที่จะอพยพ แต่ได้นำภูมิปัญญาการทำกระดาษสานี้ติดตัวมาทำต่อที่บ้านต้นเปา ซึ่งจำนำเอาไว้เขียนยันต์ ห่อของ ทำดอกไม้ ไส้เทียน ตุง คัมภีร์ โคมลอย กระทั่งในต่างประเทศเริ่มมีความนิยมใช้ผลิตภัณฑ์กระดาษสาทำให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ระหว่างชุมชนกับพ่อค้าคนกลาง
ทางด้านนายวิศิษฏ์ ทวีสิงห์ นายอะเภอเมืองพะเยา กล่าวว่า สำหรับโครงการ OTOP ในพื้นที่เมืองยะเยา นั้นตอนนี้ได้มีกลุ่มที่ผลิตสินค้า OTOP ที่สำคัญหลายรายการ ถ้าพูดถึงรายได้ของชาวบ้านในอำเภอเมืองพะเยานั้น ถือว่าค่อนข้างที่จะน้อยพอสมควร สิ่งหนึ่งที่จะช่วยทดแทนรายได้จากตรงนี้ก็คือสินค้าของประชาชนที่ผลิตขึ้นมา ซึ่งการจักสานเป็นสินค้าสำคัญ ตอนนี้ได้มีการขยายกลุ่มไปอีกหลายกลุ่ม ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้เน้นย้ำให้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยว ตอนนี้เรากำลังพิจารณาจัดกิจกรรมที่จะมาส่งเสริม ซึ่งจะมีกลุ่ม OTOP กลุ่มครกหิน กลุ่มผลิตปลาส้ม และอีกมากมาย ซึ่งหวังว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสามารถทำรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชนได้อย่างดีอีกด้วย
ทั้งนี้กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินโครงการหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว (OTOP Village) เพื่อเชื่อมโยงสินค้า OTOP ที่สะท้อนอัตลักษณ์ ศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตเข้ากับแหล่งท่องเที่ยวและบริการ โดยเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมในชุมชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนอย่างยั่งยืน และจากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง พบว่าโครงการนี้เป็นกลยุทธ์ในการส่งเสริมให้ชุมชนได้ตื่นตัวและเกิดการรวมพลังชุมชนในการคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาทรัพยากรของชุมชนให้มีคุณค่า ช่วยสร้างงานและรายได้แก่ชุมชน สามารถจูงใจให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้และท่องเที่ยวในชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจและสังคมภายในประเทศอันเป็นการดำเนินการที่มีกลไกการขับเคลื่อนตั้งแต่ระดับชาติสู่ระดับพื้นที่ มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนในรูปแบบประชารัฐตามโครงการไทยนิยมยั่งยืนของรัฐบาล
ที่หมู่บ้านต้นเปา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ "มหัศจรรย์แห่งการสร้างสรรค์กระดาษสาบ้านต้นเปา"ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านน้อยคนที่จะไม่รู้จักหรือไม่เคยเห็นกระดาษสา เนื่องจากกระดาษสาเป็นภูมิปัญญาที่มีการทำมาช้านาน แต่บ้านต้นเปาเป็นแหล่งผลิตกระดาษสาที่มีชื่อเสียงของเชียงใหม่และทำมานานกว่า 100 ปี สืบทอดมาจากชนเผ่าไทยเขิน ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวต้นเปาที่อพยพมาจากสิบสองปันนา เชียงตุง และเชียงรุ้ง เมื่อสมัยก่อตั้งอาณาจักรล้านนา มีหลักฐานเกี่ยวกับบรรพบุรุษหลงหลืออยู่ในปัจจุบันคือ สำเนียงภาษาพูดของคนเฒ่าคนแก่ในชุมชนที่พูดสำเนียงเขิน ซึ่งในอดีตอาณาจักรล้านนานั้นประกอบด้วยผู้คนหลากหลายชนเผ่า แต่ละชนเผ่าก็จะมีสำเนียงการพูดที่แตกต่างกันออกไป
ทางด้านนายวิศิษฏ์ ทวีสิงห์ นายอำเภอเมืองพะเยา กล่าวว่า สำหรับโครงการ OTOP ในพื้นที่เมืองยะเยา นั้นตอนนี้ได้มีกลุ่มที่ผลิตสินค้า OTOP ที่สำคัญหลายรายการ ถ้าพูดถึงรายได้ของชาวบ้านในอำเภอเมืองพะเยานั้น ถือว่าค่อนข้างที่จะน้อยพอสมควร สิ่งหนึ่งที่จะช่วยทดแทนรายได้จากตรงนี้ก็คือสินค้าของประชาชนที่ผลิตขึ้นมา ซึ่งการจักสานเป็นสินค้าสำคัญ ตอนนี้ได้มีการขยายกลุ่มไปอีกหลายกลุ่ม ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้เน้นย้ำให้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยว ตอนนี้เรากำลังพิจารณาจัดกิจกรรมที่จะมาส่งเสริม ซึ่งจะมีกลุ่ม OTOP กลุ่มครกหิน กลุ่มผลิตปลาส้ม และอีกมากมาย ซึ่งหวังว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสามารถทำรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชนได้อย่างดีอีกด้วย
ทั้งนี้กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินโครงการหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว (OTOP Village) เพื่อเชื่อมโยงสินค้า OTOP ที่สะท้อนอัตลักษณ์ ศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตเข้ากับแหล่งท่องเที่ยวและบริการ โดยเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมในชุมชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนอย่างยั่งยืน และจากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง พบว่าโครงการนี้เป็นกลยุทธ์ในการส่งเสริมให้ชุมชนได้ตื่นตัวและเกิดการรวมพลังชุมชนในการคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาทรัพยากรของชุมชนให้มีคุณค่า ช่วยสร้างงานและรายได้แก่ชุมชน สามารถจูงใจให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้และท่องเที่ยวในชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจและสังคมภายในประเทศอันเป็นการดำเนินการที่มีกลไกการขับเคลื่อนตั้งแต่ระดับชาติสู่ระดับพื้นที่ มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนในรูปแบบประชารัฐตามโครงการไทยนิยมยั่งยืนของรัฐบาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี