ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาว สภาพอากาศพื้นล่าง ตอนกลางคืนหนาวเย็น ส่วนกลางวันบางวันร้อน บางวันมีกระแสลมพัดแรง สลับฝนตกปรอยๆ โดยเฉพาะบนยอดเขา บริเวณภูสิงห์ ภูผาผึ้ง มีอุณหภูมิอยู่ที่ 15 องศาเซียลเซียส จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบสัมผัสอากาศหนาวและโต้ลมหนาวอย่างยิ่ง
“วนอุทยานภูสิงห์ ภูผาผึ้ง งามซึ้งทุ่งดอกหญ้า ชุ่มชื่นอุราเมื่อได้มาแวะเยี่ยมชม แปลกใจพระลานนาค ไม่อยากจากใจระทม ได้พบใจสุขสม ลานควายตู้คู่ดอย ความหลัง ลานสาวกอด สัญญาบอกให้อ้ายคอย คำมั่นที่เนื้อกอย เคยสัญญาห้วยสีโท”
นั่น คือ คำขวัญ รางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 ของนักเรียนชั้นประถมปีที่ 6 โรงเรียนบ้านสร้างนกทา ต.สร้างนกทา อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ จากการประกวดคำขวัญแหล่งท่องเที่ยวสำคัญใน อ.เมืองอำนาจเจริญ ของวนอุทยานแห่งชาติ ภูสิงห์ ภูผาผึ้ง เมื่อปี 2546จึงเป็นการบ่งบอกภาพรวมแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติได้เป็นอย่างดี
วนอุทยานภูสิงห์ ภูผาผึ้ง ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านบ๋าเจริญ ต.สร้างนกทา อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ และคาบเกี่ยวอีก 3 ตำบล คือ คึมใหญ่,เหล่าพรวน อ.เมืองอำนาจเจริญ รวมถึง ตำบลโนนงาม อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติดงบักอี่ ดงหัวกอง มีเนื้อที่ 10,000 ไร่ กรมป่าไม้ได้ดำเนินการจัดตั้งเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2539
สำหรับ วนอุทยานภูสิงห์ ภูผาผึ้ง ลักษณะภูมิประเทศ เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อนกันเป็นเทือกยาว ในขั้นระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 200 – 300 เมตร บางส่วนเป็นลานหินกว้างและหน้าผาสูงชัน มีถ้ำขนาดกลาง และขนาดเล็ก หลายแห่ง และยังเป็นแหล่งต้นน้ำลำห้วยสีโทและห้วยทรายด้วย
ทั้งนี้ ได้รับการปรับปรุงพัฒนาให้สะดวกสามารถเป็นเส้นทางเดินเท้า ขึ้นเขา ชมธรรมชาติ โดยไม่หลงป่า เพราะมีแนวชี้บอกทางเดินที่แน่ชัด ระยะเวลาในการเดินเท้าท่องเที่ยวชมธรรมชาติโดยรอบจนกลับมาที่เดิม ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง
โดยจุดเริ่มต้นในการเดินทาง เมื่อออกจากตัวเมืองอำนาจเจริญไปตามถนนอรุณประเสริฐ ซึ่งเป็นถนนสายหลัก ทางทิศตะวันออก ประมาณ 17 กิโลเมตร ถึงสามแยกซ้ายมือ จะพบเห็นป้ายทางเข้า วนอุทยานแห่งชาติ ภูสิงห์ ภูผาผึ้ง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสายรองอีก 3 กิโลเมตร ก็จะเข้าสู่ที่ทำการวนอุทยานแห่งชาติ ภูสิงห์ ภูผาผึ้ง ได้ไม่ยาก
การที่จะเข้าไปสัมผัสธรรมชาติอันสวยงาม ก็ต้องเดินเท้าอย่างเดียว โดยเริ่มจากที่ทำการวนอุทยานภูสิงห์ ภูผาผึ้ง ด้านทิศใต้ ประมาณ 5 กิโลเมตร เพื่อเดินทางไปนมัสการพระเทพรัตนโกสินทร์ ปางห้ามญาติ ประดิษฐานอยู่บนหินผาสูง คล้ายหน้าผา พระพักตร์มองไปทางทิศตะวันออก ด้านล่างเป็นลานหินกว้าง ท่ามกลางธรรมชาติสวยงาม เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนชั่วคราวของนักท่องเที่ยว และกราบขอพรบูชาพระรัตนโกสินทร์ เพื่อความเป็นสิริมงคล
ลานควายตู้ อยู่ห่างจากพระเทพรัตนโกสินทร์ ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นลานหินกว้างใหญ่ ว่ากันว่า สมัยโบราณ นายฮ้อยวัว หรือพ่อค้าวัว –ควาย มักจะเดินทางค้าขายข้ามจังหวัด ผ่านป่าเขาลำเนาไพร หากมืดค่ำ ก็จะพักค้างแรม บริเวณนี้จึงเป็นที่สำหรับพักค้างแรมของบรรดานายฮ้อยควาย จึงเป็นที่มาของลายควายตู้ ให้เล่าขานจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน
ห่างกันไม่ไกล ก็จะเป็นลาดหินกว้าง 10 เมตร ซึ่งหินคล้ายตะพาบน้ำตั้งอยู่บนลาน เกิดจากการกัดเซาะของน้ำ ลมและแสงแดด ถัดไปทางทิศเหนือ ก็จะพบเห็น ผาผึ้ง มีลักษณะเป็นหน้าผาสูง มีรังผึ้งอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และอยู่ใกล้กันก็จะเป็นผาส่อง ถือว่า เป็นจุดชมวิวทางธรรมชาติอีกจุดหนึ่ง เพราะผาส่องสามารถมองเห็นทิวทัศน์ทางธรรมชาติได้ใกล้ชิดที่สุด
สำหรับ สถานีอ่างกบ เชื่อว่า เป็นอ่างน้ำสำหรับคน สัตว์ ที่อาศัยอยู่บนภูเขา ใช้ดื่มกิน และมีกบจำนวนมากอาศัยอยู่ จะมีน้ำขังตลอดปี และมีสาหร่ายสีเขียวสดลอยอยู่เหนือผิวน้ำเห็นแล้วสวยงามมาก เมื่อเดินมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ ไม่ถึง 5 กิโลเมตร ก็จะเป็นลานทุ่งหญ้ากว้าง ประมาณ 2 ไร่ ประกอบด้วยดอกหญ้านานาชนิดผุดขึ้นเต็มพื้นที่ ออกดอกหลากสี สร้างสีสันสวยงามมาก โดยจะออกดอกในช่วงปลายฝนต้นหนาว ณ.จุดนี้จัดเป็นแหล่งศึกษาทางธรรมชาติที่สำคัญ เป็นไฮไลท์ ก็ว่าได้ ซึ่งจะให้ความรู้ เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต ที่ช่วยในการย่อยสลายได้เป็นอย่างดี และที่ผ่านมา มีนักเรียน นักศึกษา เดินทางเข้ามาค้นคว้าหาความรู้เป็นประจำ
นอกจากนี้ ยังมีที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น อ่างเก็บน้ำห้วยสีโท ซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในช่วงฤดูร้อน ผาหินวงกต น้ำตกห้วยทราย น้ำตกพญานาค ถ้ำยาว ภูเอ็น เป็นต้น
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปพักค้างแรม ปัจจุบัน วนอุทยานฯยังไม่มีบ้านพักบริการ แต่มีบ้านพักรับรอง และลานกางเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว ก็สารมรถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ นายประสิทธิ์ ชื่นใจ หัวหน้าวนอุทยานแห่งชาติ ภูสิงห์ ภูผาผึ้ง โทร.08 -7199 -4878 ในวันเวลาราชการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี