ใครผิดใครถูก! ชาวบ้านอ้าง‘ปลัดอำเภอ’สั่งรื้อท่อสูบน้ำ ขวางขบวนขันหมาก-ขู่ผิดกม.
ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า ได้รับคลิปวีดีโอจาก นางอัมภวา เพ่งพิศ ผู้ใหญ่บ้านว่าน หมู่ 4 ต.บุแกรง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ โดยกล่าวในคลิปวีโอ อ้างว่า “วันนี้เวลา 13.30 น.ตนได้รับแจ้งจากปลัดอำเภอ จ.ลพบุรี เดินทางมางานแต่งงาน ซึ่งจะมีขบวนแห่ขันมากในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ย.61) ที่บ้านสะตาปาน ม.14 ต.บุแกรง จ.สุรินทร์ ห่างจากบ้านว่าน เพียง 1 กม. ได้สั่งรื้อท่อสูบน้ำขวางเส้นทางจราจร โดยปลัดอำเภอคนนี้ อ้างว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ถ้าไม่รีบเอาออกจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งชาวบ้านว่านทุกคนได้ออกมาช่วยกันรื้อท่อสูบน้ำ เพื่อความสุขของปลัดอำเภอ ซึ่งเป็นข้าราชการ สังกัดกระทรวงมหาดไทย”
“แต่กลับไม่เห็นความสำคัญและความเดือดร้อนของชาวบ้าน จึงต้องหยุดเครื่องสูบน้ำ และพากันรื้อท่อสูบน้ำ เพื่อใช้สำหรับทำประปาหมู่บ้าน กักเก็บน้ำในฤดูแล้ง โดยการรับบริจาคจากชาวบ้านในการซื้อน้ำมันใส่เครื่องสูบน้ำ แต่กลับถูกปลัดอำเภอคนนี้ เห็นแก่ความสุขส่วนตัว ไม่ยอมใช้เส้นทางเบี่ยง ชาวบ้านยอมถอย ยอมที่จะเก็บเครื่องสูบน้ำ และท่อสูบน้ำ เป็นเวลา 2 วัน เป็นเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ต้องเดินเครื่องเป็นวันถึงจะสามารถสูบน้ำได้”
“ชาวบ้านว่านทุกคน ย่อมสละ เพื่อความสุขของท่านปลัดอำเภอ ซึ่งอ้างมามาจาก จ.ลพบุรี จึงเรียนผ่านสื่อมวลชน ความทุกข์และความเดือนร้อนของชาวบ้านเอาไว้ที่หลัง ต้องให้ความสุขกับปลัดอำเภอคนนี้ก่อน ตนเป็นผู้นำชุมชน และชาวบ้านทุกคนรู้ว่า มันผิดกฎหมาย แต่มันเป็นความจำเป็นที่ต้องสูบน้ำ เพื่อกักเก็บไว้ในฤดูปีหน้า ปีนี้ฝนไม่ตกไม่มีน้ำสำหรับผลิตประปา ชาวบ้านทุกคนต่างออกมาช่วยกัน แต่กลับสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น”
“ตนในฐานะผู้ใหญ่บ้านก็ยอมรับว่ามันผิด แต่ด้วยความจำเป็นจึงต้องทำ จึงนำเรียนมาเพื่อให้ทุกๆท่านทราบ ว่าทุกข์ของชาวบ้านแต่ความสุขของปลัดอำเภอท่านหนึ่งที่ท่านต้องการใช้ถนนเส้นนี้ โดยไม่ใช้ทางเบี่ยง ซึ่งทางหมู่บ้านว่านได้ทำถนนเส้นทางเบี่ยงอย่างกว้างขวางและสะดวกสบายกลับไม่ใช้”
ต่อมาผู้สื่อข่าวรุดลงพื้นที่ ตรวจสอบที่บ้านว่าน หมู่ 4 พบว่า คณะกรรมการหมู่บ้าน และชาวบ้านว่าน ได้ออกมาช่วยกันรื้อท่อส่งน้ำระยะทาง 800 เมตร และเครื่องสูบ ขนาด 8 นิ้ว ออกจากพื้นผิวถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก เนื่องจากกีดขวางถนน ซึ่งเส้นทางภายในหมู่บ้านว่านไปยังบ้านสะตาปาน หมู่ 14 ต.บุแกรง จ.สุรินทร์ ห่างจากบ้านว่าน เพียง 1 กม. จะมีขบวนงานแต่งงานของญาติ บุคคลที่อ้างตัวเป็น ปลัดอำเภอ จ.ลพบุรี(ว่าที่เจ้าบ่าว) ออกมาข่มขู่ผู้ใหญ่บ้านว่าน และชาวบ้านว่าวางท่อและเครื่องสูบน้ำกีดขวางเส้นทางจราจร และขบวนขันหมากงานแต่งงานที่ บ้านสะตาปาน ในวันนี้ (11 พ.ย.61)
จากการสอบถาม ชาวบ้านว่าน เล่าว่า ชาวบ้านทำทางเบี่ยงให้ แต่ปลัดอำเภอก็ไม่ยอมใช้ ชาวบ้านต่างพากันกลัวมีปัญหาเลยได้ช่วยกันรื้อออก
ส่วนช่างติดตั้งเครื่อง เล่าว่า ตนไม่เข้าใจทำงานติดตั้งเครื่องสูบน้ำมาทั้งวัน ทั้งยกทั้งย้าย ท่อสูบน้ำ 800 เมตรทำงานกันทั้งวัน ตนน้อยใจที่ว่า ปลัดอำเภอคนนี้จะใช้เส้นทาง มีเส้นทางเบี่ยงอยู่แล้ว แต่จะใช้เส้นทางนี้เส้นทางเดียว ทั้งๆที่ทางเบี่ยงทั้งใหญ่กว่า และก็สะดวกเหมือนกัน แต่ไม่ใช้จะใช้เพียงเส้นทางเดียว ตนและชาวบ้านน้อยใจ ทำมาทั้งวันจะให้เรารื้อออก เพื่อที่จะผ่านให้ได้
ส่วนนางอัมภวา เพ่งพิศ ผู้ใหญ่บ้านว่าน เล่าว่า ชาวบ้านไม่ได้มีปัญหาอะไร เป็นความสุขในการออกมาช่วยกันติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และท่อสูบน้ำ พอมีงานแต่งงาน เขาสั่งให้เรารื้อท่อออก เพื่อจะใช้เส้นทางนี้เป็นขบวนแห่งานแต่งเขา อ้างว่าเป็นขบวนรถเพื่อเขาที่จะมาร่วมงาน ตนก็บอกว่าทำไมไม่ใช้เส้นทางเบี่ยง เขาบอกว่าไม่ไป อ้างชาวบ้านวางท่อสูบน้ำขวางถนนผิดกฎหมาย สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้
“ฉันในฐานะผู้นำยอมรับว่าผิดกฏหมาย ก็ไม่รู้จะทำยังไงจำเป็นต้องทำ เพราะความเดือดร้อนของชาวบ้านต้องมาก่อนอยู่แล้ว ถ้าไม่จำเป็นจริงๆชาวบ้านคงไม่ระดมออกเงินเพื่อช่วยซื้อน้ำมันใส่เครื่องสูบน้ำ เขาสั่งให้ชาวบ้านหยุดสูบน้ำ 2 วันให้เปิดเครื่องวันจันทร์ เป็นปลัดอำเภอน่าจะรู้ปัญหาความเดือนร้อนของชาวบ้านและประชาชนมากกว่านี้ อ้างกลัวเพื่อนเจ้าบ่าวหลงทางมางานแต่ง ปลัดอำเภอน่าจะเห็นใจชาวบ้านมากกว่านี้ เขาอ้างว่าเป็นปลัดอำเภอ จ.ลพบุรี” นางอัมภวา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี