สมัยท่าน (องค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต) เป็นหนุ่ม ทราบว่าท่านเป็นผู้ปฏิบัติเด็ดเดี่ยวมาก การสั่งสอนก็เผ็ดร้อนมาก พร้อมทั้งปรจิตตวิชชาคือรู้วาระจิตของผู้อื่นด้วย แม้แต่ท่านมีอายุมากย่างเข้า 72 ปี ซึ่งเป็นระยะที่ผู้เขียนไปอบรมกับท่าน ยังรู้สึกว่าเผ็ดร้อนอยู่เลย ไปอยู่และฟังท่านอบรมทีแรกแทบตั้งตัวไม่ติด เพราะกลัวมาก แต่เคารพเลื่อมใสท่านมาก ยอมจำนนต่อความจริงทุกขั้นที่ท่านแสดงออกทุกระยะ หาที่ค้านไม่ได้
เวลาท่านแสดงธรรมเกี่ยวกับวิธีทรมานใจนั้นยิ่งน่ากลัวมาก ทั้งเสียงก็ดังและกังวาน ทั้งมือก็ชี้ด้วยว่า โน้นน่ะป่า โน้นน่ะเขา อันเป็นที่เหมาะกับจิตดวงดิ้นรนกวัดแกว่งทรมานยาก อย่ามัวมามั่วสุมอยู่กับหมู่กับเพื่อนอย่างนี้ ผู้ปฏิบัติต้องรู้จักนิสัยของตัว รู้วิธีการทรมานตัวถ้าไม่รู้นิสัยของตัว แม้ทำความเพียรไปจนถึงวันตาย ก็ไม่ได้รับผลเท่าที่ควร เวลาใจดื้อต้องเด็ดทางความเพียรและทรมานให้หนักมือ
ใครกลัวเสือให้เข้าไปอยู่ในป่าในเขากับเสือ ใครกลัวผีให้เข้าไปอยู่ในป่าช้ากับผีตายชนิดต่างๆ จนใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับผีแล้วนั่นแล จึงจะเรียกว่า จิตยอมตัวต่อการทรมาน
ผู้ที่อยู่ในป่าถ้าใจยังไม่กล้าต่อเสือเมื่อไร อย่ายอมออกมาจากป่า ผู้ที่กลัวผี ถ้าใจยังไม่กล้าต่อผี ก็ไม่ยอมออกจากป่าช้า จงถือเอาป่าและเขาเป็นเรือนตายสำหรับผู้กลัวเสือ และถือเอาป่าช้าเป็นเรือนตายสำหรับผู้ป่วยผี ถ้ายังไม่หายกลัวในสิ่งที่เคยกลัว อย่าออกมาให้ความกลัวมันหัวเราะเย้ยหยัน จะอายตัวเองไปตลอดวันตาย ไม่มีทางแก้ตัวให้หายได้ ถ้าเห็นแก่ตัวและพระศาสนาด้วยใจจริงแล้ว อย่ายอมให้ความกลัวต่างๆขึ้นนอนขับถ่ายอะไรๆลงรดหัวใจได้ รีบคว้ามันลงมาเหยียบย่ำทำลายด้วยความเพียรที่เต็มไปด้วยความทรหดอดทน
ใครกลัวตาย คนนั้นจะได้แต่ความตายติดตัวไปในภพชาติต่างๆไม่มีวันจบสิ้น ใครกลัวเสือ ไปอยู่ที่ไหนก็จะมีแต่ภาพเสือมาหลอกให้กลัวอยู่ตลอดไป ใครกลัวผีก็เช่นกัน ไปอยู่ที่ไหนจะมีแต่ภาพผีลักษณะต่างๆมาหลอกจนถึงกับอยู่กินหลับนอนไม่ได้ แม้ใบไม้ร่วงจากกิ่งตกลงมาก็จะคิดหลอกตัวเองว่าเป็นผีมาหลอกอยู่ร่ำไป เราเป็นคนไม่จริงและขี้ขลาดหวาดกลัวเสียคนเดียว ไปที่ไหนอยู่ที่ใด ก็ต้องพบแต่ความขี้ขลาดหวาดระแวงด้วยความกลัวที่จิตคิดปรุงขึ้นหลอกตัวเองอยู่นั่นแล ไม่พบของจริงได้เลยแม้แต่น้อย
ใจจะกลัวถึงขนาดไหน ต้องเรียนให้ถึงความกลัวด้วยวิธีทดสอบทรมานกันให้ถึงความจริงของความกลัว กลัวเสือก็เรียนให้รู้ถึงความกลัวเสือด้วยสติปัญญา มีความทรหดอดทนเป็นเครื่องหนุนหลัง จนเกิดความกล้าหาญและโดดเข้าหาเสือได้โดยเสือไม่กล้าทำไมเลย กลัวผีก็เรียนให้รู้เรื่องความกลัวของตัว และรู้เรื่องผีว่าอะไรเป็นผีกันแน่ ถ้าไม่ใช่หัวใจตัวเองเป็นผีคิดหลอกตัว ให้กลัวต่างหากเท่านั้น ไม่มีอะไรมาหลอก ผีก็อยู่กับผี เราก็อยู่กับเรา ไม่เห็นยุ่งกัน ถ้าพิจารณาโดยตลอดทั่วถึงแล้ว จงอยู่ให้เป็นสุข อย่าหลุกหลิกทางใจดูสิ จะเป็นสุขไหม
...................
คัดลอกจากหนังสือธุดงควัตร หลวงตาพระมหาบัวญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี