นโยบายที่ดีเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้ประเทศประสบความสำเร็จในการพัฒนาอย่างยั่งยืน..เมื่อเร็วๆ นี้ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ร่วมกับกลุ่ม the Think Tank Initiative (TTI) ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (IDRC) จัดเวทีแลกเปลี่ยนคลังสมองระดับนานาชาติ 2561 : องค์กรที่ยั่งยืนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Think TankInitiative Exchange 2018: Sustainable Organizations for Sustainable Development) ขึ้นที่กรุงเทพฯ
งานนี้เป็นการเชิญสถาบันคลังสมองในประเทศกำลังพัฒนา 43 องค์กรใน 20 ประเทศ มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทำงานด้านนโยบายสาธารณะกว่า 20 ประเด็นท้าทายในโลกอนาคต ซึ่งสถาบันคลังสมองจะมีบทบาทสำคัญมากในการเสนอแนะนโยบายสาธารณะที่เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ โดย นิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ TDRI กล่าวว่า นโยบายสาธารณะที่ดีเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้ประเทศพัฒนาอย่างยั่งยืน ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี มีงานที่ดีทำ สังคมอยู่กันด้วยความสงบสุข สามารถแก้ไขความขัดแย้งด้วย
สันติวิธี
“บทบาทสำคัญประการหนึ่งของพรรคการเมืองภายใต้ระบอบประชาธิปไตย คือการนำเสนอนโยบายที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน แต่เพื่อให้ได้รับการเลือกตั้ง บางครั้งนโยบายที่ทำให้รัฐบาลได้ชัยชนะในการเลือกตั้งอาจไม่ใช่นโยบายสาธารณะที่ดี นี่จึงเป็นหน้าที่สำคัญของนักวิชาการโดยเฉพาะสถาบันวิจัยด้านนโยบายสาธารณะ หรือที่รู้จักกันในนามสถาบันคลังสมอง ในการช่วยนำเสนอนโยบายสาธารณะที่ดีต่อประชาชนและพรรคการเมือง ตลอดจนการสื่อสารและเปิดโอกาสให้สังคมมีส่วนร่วมวิพากษ์วิจารณ์ข้อดีข้อเสียของนโยบายสาธารณะด้านต่างๆ
กระบวนการวิจัยและจัดทำนโยบายสาธารณะที่วางอยู่บนรากฐานของข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ ตลอดจนกระบวนการที่สังคมมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อนโยบายสาธารณะที่นำเสนอ โดยสถาบันคลังสมอง จะทำให้พรรคการเมืองมีข้อเสนอนโยบายสาธารณะที่ดีให้เลือกใช้ในการรณรงค์หาเสียง และที่สำคัญประชาชนจะมีความรู้เรื่องผลกระทบด้านต่างๆ ของนโยบายของพรรคเมืองต่างๆ ทำให้การตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองเป็นการตัดสินใจแบบผู้รู้เท่ากัน” นิพนธ์ กล่าว
นักวิชาการเกียรติคุณ TDRI ยังกล่าวอีกว่า แม้ประเทศไทยจะมีสถาบันวิจัยที่ทำงานด้านนโยบายสาธารณะ เช่น TDRI ที่เป็นสถาบันวิจัยนโยบายด้านเศรษฐกิจ หรือด้านสิ่งแวดล้อมอย่างสถาบันธรรมรัฐเพื่อการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือด้านการเมืองอย่างสถาบันพระปกเกล้า แต่ยังนับว่ามีจำนวนน้อย หากประเทศมีสถาบันวิจัยในด้านเหล่านี้มากแห่งขึ้น สังคมก็จะมองเห็นข้อเสนอนโยบายสาธารณะที่เป็นทางเลือกใหม่ๆ และมีมุมมองที่แตกต่างจากแนวคิดของสถาบันที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ขณะที่ แชนนอน ซัททัน (Shannon Sutton) เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการเสริมสร้างสมรรถนะและการสาธารณสุขโลกจากกลุ่ม Think Tank Initiative (TTI) กล่าวว่า TTI เป็นการประสานความร่วมมือระหว่างกันของหน่วยงานให้ทุน 5 หน่วยงานโดยอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ IDRC สนับสนุนการดำเนินงานของ TTI ต่อเนื่องมา 10 ปี ซึ่งสิ้นสุดในปีนี้และพบว่ามีผลสำเร็จในหลายประการ
กล่าวคือ กลุ่ม Think Tank Initiative ได้สนับสนุนและเสริมสร้างความศักยภาพขององค์กรคลังสมองกว่า 43 แห่ง ใน 20 ประเทศ ผ่านการให้ทุนเอื้อต่อการสร้างโจทย์วิจัยใหม่ๆ จึงทำให้องค์กรคลังสมองเหล่านั้นสามารถเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพของงานวิจัยในท้องถิ่นได้อย่างมีคุณภาพและเป็นอิสระ การที่TTI สร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจสู่สาธารณชนทำให้มั่นใจได้ว่ากระบวนการจัดทำนโยสาธารณะทั้งในระดับชาติและระดับภูมิภาคนั้นจะตั้งอยู่บนข้อถกเถียงที่สำคัญของผลการศึกษาวิจัย
นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นในแนวทางการสนับสนุนองค์กรคลังสมองเหล่านี้ให้ยืนหยัดได้อย่างยั่งยืน รวมถึงการยกระดับศักยภาพขององค์กรคลังสมอง โดยเน้นการพัฒนาใน 3 ด้าน คือ ด้านระเบียบวิธีวิจัยและทักษะต่างๆ ด้านการงานวิจัยนโยบายสาธารณะและการเสริมสร้างความเข้าใจสู่สาธารณชน และด้านการทำงานขององค์กรคลังสมองเพื่อที่จะบรรลุประสิทธิผลสูงสุด
แชนนอน ระบุว่า TTI ใช้โอกาสการจัดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นครั้งนี้ สนับสนุนผู้เข้าร่วมจากภาคส่วนต่างๆ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ระหว่างกันโดยมีผู้เข้าร่วมจากสถาบันคลังสมองในประเทศกำลังพัฒนากว่า 250 คน ที่มาจากภาคส่วนต่าง ๆ อาทิ ผู้กำหนดนโยบาย หน่วยงานผู้ให้ทุน ผู้กำหนดนโยบาย นักวิจัย รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ
“และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในความสำเร็จตลอดระยะเวลาการทำงานกว่าทศวรรษของ TTI โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการมีองค์กรคลังสมองที่ยั่งยืนเพื่อสอดรับกับการพัฒนาที่ยั่งยืน และคำถามที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือองค์กรคลังสมองจะสามารถยืนหยัดบทบาทที่สำคัญในการเสริมสร้างและสนับสนุนการสร้างสังคมที่มีเที่ยงธรรมและความมั่งคั่งได้อย่างไร? จากความสำเร็จของ TTI จึงเป็นไปได้ที่ในระยะต่อไปจะขยายการสนับสนุนไปในประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ เพิ่มเติม” เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการเสริมสร้างสมรรถนะและการสาธารณสุขโลก TTI ระบุ
ในงานนี้เป็นการรวมตัวของนักวิจัยจากสถาบันคลังสมองหลากหลายภูมิภาคทั้งลาตินอเมริกา แอฟริกา เอเซียใต้และจีน
พูดคุยในหลากหลายประเด็น เช่น สังคมสูงวัย การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ การลดความเหลื่อมล้ำและความยากจน การเข้าถึงน้ำ พลังงาน สิ่งแวดล้อม การพัฒนาเกษตรและการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน การสร้างสถาบันที่มีธรรมรัฐความยุติธรรมและความสงบสุข การเติบโตทางเศรษฐกิจกับการมีงานทำที่ดี สุขภาพและการศึกษา ฯลฯ ที่สถาบันคลังสมองจะต้องเข้าไปมีบทบาทออกแบบและเสนอแนะนโยบาย
แอนเดรีย ออโดเนส (Andrea Ordóñez) ผู้อำนวยการกลุ่มเสียงจากทางใต้ (Southern Voice) ซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรคลังสมองที่อุทิศตนเพื่องานวิจัยในแถบประเทศทางซีกโลกใต้ นำข้อมูลวิจัยเข้าสู่ฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนาในระดับโลก กล่าวว่า ทางกลุ่มได้ร่วมมือกันทำงานอย่างเข้มแข็งเพื่อแสวงหาองค์ความรู้ที่จะช่วยสนับสนุนกระบวนการนี้ ในประเด็นปัญหาที่สำคัญบางประการ เช่น เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการค้า ปัญหาเหล่านี้ต้องการความร่วมมือกันทำงานในระดับโลกจากการประสานความร่วมมือกันเป็นเครือข่าย
เช่นเดียวกับ อเล็กซ์ อะวิติ (Alex Awiti) ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการสถาบันแอฟริกาตะวันออก (the East Africa
Institute) แห่งมหาวิทยาลัย อะกา คาน (Aga Khan University) กรุงไนโรบี ประเทศเคนยา ที่กล่าวว่า การจัดงานใน
ครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างความสามารถหรือสมรรถภาพของสถาบันคลังสมองที่เข้าร่วม เสมือนการได้ร่วมลงทุน
ครั้งใหญ่ของโลก องค์กรคลังสมองทั้งหมดจะมาร่วมกันกำหนดทิศทางในอนาคต และผลักดันให้เกิดการทำวิจัยนโยบายสาธารณะ
เพื่อเป็นคลังความรู้สำหรับนำไปใช้พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในแต่ละประเทศ!!!
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย
(TDRI)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี