เค้า....ฆ่า‘ม้าเทวดา’! หมอล็อตโพสต์ใกล้สูญพันธุ์ น่าสงสารเพราะเป็นมิตรต่อคน
น.สพ.ภัทรพล มณีอ่อน หรือ “หมอล็อต” นายสัตวแพทย์ชำนาญการ ประจำกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คถึงสถานการณ์ของ “เลียงผา” ซึ่งเพิ่งมีข่าวถูกล่าและชำแหละ เมื่อรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า
Lotter:"เค้า....ฆ่าเลียงผา"
เลียงผาเป็นสัตว์ป่าสงวนที่ใกล้จะสูญพันธุ์ น่ากังวลที่สุด น่าสงสารที่สุด เพราะเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างเป็นมิตรต่อคน เป็นสัตว์ที่เสียสละ ไม่มีปากมีเสียง ไม่ค่อยหวาดระแวงเมื่อเจอคน ถ้ารู้พฤติกรรม เป็นสัตว์ที่ล่าง่ายมาก ภูมิใจในตัวเอง ชอบยืนโชว์ความหล่อความงามบนยอดเขาหรือโขนหินปูนในยามเช้าและยามเย็น (บางท้องถิ่นจึงเรียกอีกชื่อว่า “ม้าเทวดา”) และมักอยู่อย่างสงบไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร แต่
เค้า...บอกว่า น้ำมันเลียงผา รักษาอาการฟกช้ำ ดำเขียว สมานกระดูก เพราะเห็นเลียงผามักเลียขาหรือลำตัวเพื่อรักษาแผล ทั้งๆที่ การเลียขาของเลียงผา ก็แค่กินน้ำ เพราะพื้นที่เขาหินปูนไม่มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ เลียงผาจึงกินน้ำค้างจากใบไม้ และกินน้ำจากขาที่เดินบนซอกหลุมหินปูน ที่มีน้ำขังอยู่ (หากเป็นเช่นนี้ น้ำลายเลียงผาสิที่มีสรรพคุณรักษาแผล ไม่ใช่หัว กระดูก หรือไขมัน)ในขณะเดียวกันเลียงผาที่เดินตามซอกเขา จะค่อยๆเดินช้าๆด้วยความระมัดระวัง เวลามันบาดเจ็บ มาก็แค่ค่อยๆเดิน หรือลดการเคลื่อนไหว จึงทำให้ไม่ค่อยเกิดการบาดเจ็บในการดำรงชีวิต
เค้า...เล่าว่า เพราะเลียงผา เป็นสัตว์ที่ปีนป่าย ตามภูเขาหินปูนหรือที่สูงชันเก่ง แทบจะไม่มีใครได้เห็นมันตกเขา หรือตกเหวตาย (ผมเจอบ่อยเวลาตกใจอะไร ก็เตลิดตกเขา เจ็บมาเยอะ) เค้าจึงเชื่อว่าในตัวเลียงผา ต้องมีสารหรืออะไรที่ทำให้เลียงผา มีความสามารถในการปีนป่าย และต้องมีคุณสมบัติในการรักษา บาดแผลรักษาข้อ กระดูก ได้อย่างดีคนจึงเอาไขมันเลียงผามาใช้เอากระดูกมาบด เอาเลือดมาเข้ายา เพื่อการรักษา....ถ้าน้ำมันเลียงผามันดีจริง มันคงไม่ต้องมาให้หมอรักษาหรอกครับ ยังเอาตัวเองไม่รอด
เค้า...คิดว่า ตัวเลียงผามีความสามารถในการรักษาตัวจากการตกเขา รักษากระดูกหักได้เอง เพราะโดนยิงแล้วหาตัวไม่เจอ ทั้งๆที่เลียงผาเดินบนพื้นที่เขาหินปูนที่เป็นซอกหินที่แหลมคมได้ดี และมักหลบซ่อนรักษาตัวในพื้นที่ถ้ำหรือโพรงที่ห่างไกลคนติดตาม เค้า...จึงเอาหัวและเศษชิ้นส่วนมาต้มกับน้ำมันมะพร้าวทำเป็นยา
เค้า.... ไม่รู้ว่า น้ำมันเลียงผา ที่เป็นหม้อๆแล้วมีหัวหรือขาเลียงผาต้มอยู่หรือไขมันเลียงผานั้นมีสรรพคุณจริง แต่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการสมานแผลหรือสรรพคุณใดเลย ที่ใช้แล้วมันดีตามที่ว่าก็เพราะ ในน้ำมันเลียงผาที่อวดอ้างนั้น ประกอบด้วยน้ำมันมะพร้าวหรือนำมันมะกอกมาเป็นตัวสื่อ พอเอามาถูนวดจะเกิดความร้อนบริเวณนั้นและดูดซึมเข้าผิวหนังได้ดี พระเอกตัวจริงคือ ว่านไพล ต่างหาก โดยส่วนเหง้าหัวใต้ดิน เอามาฝนทาแก้เหน็บชา เมื่อยขบ แก้เคล็ดขัดยอก ฟกบวม ใช้นำมันมะพร้าวผสมน้ำมันไพล ทาแก้อาการเคล็ดขัดยอก หรือใช้น้ำมันไพลผสมแอลกอฮอล์ทากันยุง แก้โรคผิวหนัง แก้ฝี ทาเคลือบแผล ป้องกันการติดเชื้อ ดูดหนอง สมานแผล พอมาทำละลายกับน้ำมันมะพร้าว ก็จะนำพาสรรพคุณจากสมุนไพรต่างๆดูดซึมเข้าผิวหนังเวลาถูนวด ทำให้หายเร็วขึ้น ซึ่งอวัยวะหรือซากเลียงผานั้น คือ พร็อบหรือองค์ประกอบทางการค้า เท่านั้นเอง สรุปคือน้ำมันเลียงผาดีจริง แต่เลียงผาไม่เกี่ยว
เค้า...หลงลืมไปว่า เลียงผา คือสัตว์ตระกูลเดียวกับแพะ เนื้อเลียงผาจึงไม่ได้มีความแตกต่างใดใดในเรื่องโภชนาการ หนำซ้ำ สัตว์เหล่านี้จะมีเชื้อโรคอยู่ในตัว ไวรัส แบคทีเรีย เป็นตัวอมโรค ซึ่งเชื้อโรคเหล่านี้ไม่ก่อให้เกิดการเจ็บป่วยแก่เลียงผา แต่หากเค้าชำแระ สัมผัสกับเลือด น้ำลายหรือสารคัดหลั่งต่างต่างก็เสี่ยงติดโรคได้ และที่สำคัญสัตว์พวกนี้พยาธิเยอะมาก อย่าคิดว่ากินสุกและจะช่วยได้ ส่วนใหญ่กินดิบ กึ่งสุกกึ่งดิบ หลายรายที่เค้าตายไป พอไปสอบประวัติเชิงลึกแล้ว มีรสนิยมกินเนื้อสัตว์ป่าทั้งนั้น ถ้ามันดีจริงอย่างเค้าว่า เราก็กินไปนานแล้วววววว
ถึงตรงจุดนี้ คุณยังจะเชื่อเค้า....คนที่ฆ่าเลียงผา ในการสนับสนุนการทำผิดกฎหมายและสร้างเวรกรรมตามที่เค้า...(ที่คุณไม่รู้ว่าใคร) กันอีกเหรอ หวิบ!!!!
เค้า....อย่าทำร้ายพี่น้องเราอีกเลย
เห็นเยอะ ไม่ได้หมายความว่ามาก และมีมาก ไม่ได้หมายความว่า...ต้องฆ่า
มาปลูกมะพร้าวกันครับ
#SurvivalTogether.
#ภาพเก่าเล่าปัจจุบัน
ฝ่ายสุขภาพสัตว์ป่า กลุ่มงานเพาะเลี้ยง สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี