23 พ.ย.61 เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ สภ.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ร.ต.อ.สนิท นุ้ยพิน พนักงานสอบสวน สภ.หลังสวน ได้รับแจ้งจากนายเจนณรงค์ พุ่มสุวรรณ อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 88 บ้านหนองเทา หมู่ที่ 5 ต.ท่ามะพลา อ.หลังสวน จ.ชุมพรว่า ถูกข้าราชการฝ่ายการคลังสังกัด อบต.แห่งหนึ่งใน อ.ละแม จ.ชุมพร ฉ้อโกงเงินช่วยคนพิการไปจำนวนมาก
นายเจนณรงค์ กล่าวว่า ตนประสบอุบัติเหตุทางถนนเมื่อปี 2559 เกิดความพิการแขนและขาลีบไม่สามารถเดินได้และไม่สามารถใช้แขนด้านซ้ายได้ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ แพทย์ได้ทำเอกสารยืนยันความพิการเพื่อให้ตน ได้ทำบัตรผู้พิการ จนได้รับเงินเบี้ยความพิการเดือนละ 600 บาทในเขตพื้นที่ อบต.ท่ามะพลา อ.หลังสวน จ.ชุมพร
ต่อมาตนได้รับการช่วยเหลือจากนางสาว แจน (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเพื่อนของญาติที่คุ้นเคยกัน และรับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ อบต.แห่งหนึ่งใน อ.ละแม จ.ชุมพร อีกทั้งเป็นเจ้าหน้าที่ทางด้านการเงิน การคลังของ อบต.แห่งนั้น จึงทำให้ไว้เนื้อเชื่อใจ นางสาว แจน ทราบเรื่องความเป็นมา ในความพิการของตนมาโดยตลอด จึงอาสาในการทำเรื่องขอเงินชดเชยจากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดชุมพรจากกรณีที่ตนประสบอุบัติเหตุจนพิการ
นางสาว แจน ยังอาสาเป็นผู้ช่วยนำตนเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลชุมพรฯ แต่ทุกครั้งตนจะจ่ายค่าตอบแทนให้เสมอ ทำให้ตนเห็นว่าเป็นเพื่อนมนุษย์ที่มีน้ำใจให้ความช่วยเหลือจึงเกิดความไว้วางใจแม้จะได้รับการเตือนจากญาติๆว่าเป็น นางสาว แจน เป็นคนไม่ดีไม่ควรไปยุ่งเกี่ยว
ในวันที่ 17 ก.ย.61 นางสาว แจน บอกกับตนว่ามีเงินจำนวน 159,000 บาท โอนเข้ามาในบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาหลังสวน ของตน และเงินจำนวนนั้นเป็นของนางสาว แจน ที่ไปกู้ยืมมาและผู้ให้กู้โอนมาให้ ตนถามว่าทำไมไม่โอนเข้าบัญชีของนางสาว แจน โดยตรงนางสาว แจน บอกว่าเพราะมีปัญหาหนี้สินบัญชีจึงถูกอายัด ตนถามว่าทำไมจึงไม่ให้ผู้ให้กู้โอนเงินเข้าบัญชีลูกสาว นางสาว แจน บอกว่าไม่ต้องการให้ลูกรับรู้ ด้วยความที่ไว้วางใจจึงเชื่อคำพูดของ นางสาว แจน และเดินทางไปเบิกเงิน 159,000 บาท ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาหลังสวน ในวันที่ 18 กันยายน 2561 และมอบเงินให้กับนางสาวจรรยา
ต่อมาวันที่ 27 ต.ค.61 ตนได้ติดต่อสอบถามไปที่เจ้าหน้าที่ อบต.ท่ามะพลา ถึงเรื่องเงินช่วยเหลือคนพิการอันเกิดจากอุบัติเหตุจากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดชุมพร ได้การว่าสำนักงานยุติธรรมจังหวัดชุมพรได้โอนเงินเข้ามาให้กับตนในบัญชีของตน แล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ก.ย.61 จึงทำให้รู้ว่าโดนนางสาว แจน หลอกเอาเงินไปเสียแล้ว จึงให้เพื่อนติดต่อสอบถามไปยังนางสาว แจน พร้อมกับได้บันทึกเสียงการพูดคุยทางโทรศัพท์ ซึ่งนางสาว แจน ก็ยอมรับว่า ได้หลอกให้ตน เป็นผู้เบิกเงินให้กับนางสาว แจน จริง และยอมรับว่าเงินจำนวนนั้นเป็นของตน ไม่ใช่เงินของนางสาว แจน ตนจึงขอเงินจำนวนดังกล่าวคืน แต่นางสาว แจน ก็ผัดผ่อนมาตลอด จนครั้งสุดท้าย ตนบอกว่าถ้าไม่นำมาคืนภายในวันที่ 22 พ.ย.61 ก็จะแจ้งความดำเนินคดีถึงเวลานางสาว แจน ก็ไม่เอาเงินมาคืน
นายเจนณรงค์ กล่าวด้วยความยากลำบากในการพูด เนื่องจากมีอาการทางสมองด้วยว่า ชีวิตของตนเอง พ่อแม่ เสียชีวิตหมดแล้ว ไม่มีลูก และภรรยา อาศัยข้าว ของพี่สาวที่คอยเลี้ยงดู และให้เงินไว้ใช้เดือนละ 1,000 ถึง 2,000 บาทเท่านั้น เมื่อทราบว่ามีเงินช่วยคนพิการจำนวน 159,000 บาทก็ตั้งใจว่าจะให้ไว้กับพี่สาวเพื่อจะได้ช่วยบรรเทาความยากจนในครอบครัว และจะได้ไว้เลี้ยงดูตนก่อนจะตายจากกัน
"อีกทั้งเงินจำนวนนี้ ถ้าตนเองใช้จะสามารถใช้ได้นานถึง 10 ปี แต่ไม่นึกว่าจะมีข้าราชการระดับสูงขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน จ.ชุมพร มาโกงคนพิการอย่างตน โชคดีทีได้เพื่อนๆ มาช่วยติดตามทวงถามและนำมาแจ้งตำรวจเพื่อดำเนินคดีและจะร้องเรียนไปยังท้องถิ่นจังหวัดชุมพร เพื่อให้ดำเนินการทางวินัยข้าราชการด้วย และทางเจ้าตำรวจได้รับแจ้งความในข้อหาฉ้อโกงและจะได้มีหมายเรียกนางสาว แจน ถ้าไม่มาก็จะออกหมายจับต่อไป" นายเจนณรงค์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี