พระ...ผู้มีแต่ให้! เจ้าอาวาสวัดห้วยหมูพระผู้อุปถัมภ์ช่วยเหลือเด็กพิเศษ เด็กออทิสติก และเด็กที่มีฐานะยากจน อีกทั้งยังก่อตั้งศูนย์พัฒนาเด็กพิเศษวัดห้วยหมู ด้วยการสืบสานพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 น้อมนำหลักแนวทางพระราชดำรัสต่างๆมาใช้ อยู่อย่างพอเพียงครองสมณสงฆ์อยู่ในบวรพระพุทธศาสนา จนเป็นที่นับถือของญาติโยม และ เป็นพ่อของเด็กๆพิเศษ
5 ธ.ค.61 ศูนย์พัฒนาเด็กพิเศษวัดห้วยหมู ที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของวัดห้วยหมู หมู่ที่ 9 ตำบลเจดีย์หัก อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี บ้านหลังที่ 2 และเป็นโรงเรียนที่พัฒนาฝึกเด็กพิเศษและเด็กออทิสติกที่มีฐานะยากจน ให้มีพัฒนาการสามารถออกไปใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือนคนปกติทั่วไป ไม่ไปเป็นภาระของสังคม จากความมีเมตตาอุปถัมภ์ของพระครูจันทสีรากร เจ้าอาวาสวัดห้วยหมู ที่นำปัจจัยที่ได้จากญาติโยมถวายให้เพื่อนำไปใช้จ่ายในกิจส่วนตัวของเจ้าอาวาส แต่ก็นำปัจจัยทั้งหมดรวบรวมและบอกบุญกับญาติโยมที่พอมีกำลังทรัพย์มาร่วมกันสร้างศูนย์พัฒนาเด็กพิเศษวัดห้วยหมูจนแล้วเสร็จพร้อมทั้งเปิดดำเนินการมาจนถึงปัจจุบัน
พระครูจันทสีรากร เดิมชื่อนายสมชาติ สิริธร อายุ 60 ปี เป็นบุตรคนที่ 4 จากพี่น้อง 6 คน ของครอบครัวสิริธร เป็นชาวตำบลแม่กลอง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ได้เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ในบวรพระพุทธศาสนาเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์หลังจากที่บิดาได้ถึงแก่กรรมและได้ตัดสินใจที่จะอยู่ในร่มกาสาวภัตรไปจนตราบชั่วชีวิต ณ พัทธสีมาวัดทุ่งตาล ตำบลเจดีย์หัก อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เมื่อปีพุทธศักราช 2523
หลังจากอุปสมบทแล้วได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนด้วยความมุ่งมั่น น้อมนำหลักปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช บรมมาศบพิตร รัชกาลที่ 9 มาใช้ในการดำรงตนอยู่ในบวรพระพุทธศาสนาจนจบนักธรรมเอก จนมีความรู้ความสามารถเป็นครูผู้สอนหนังสือธรรมะให้กับพระภิกษุสงฆ์ จนพระครูจันทสีรากรได้สอบเป็นนักธรรมชั้นตรี ได้รับความไว้ใจจากพระชั้นผู้ใหญ่ได้แต่งตั้งให้เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดห้วยหมู ต่อมาปีพุทธสักราช 2532 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดห้วยหมู มาจนถึงปัจจุบัน
พระครูจันทสีรากร เล่าให้ฟังว่า ตัดสินใจครองผ้าเหลืองเป็นพระภิกษุสงฆ์ในบวรพระพุทธศาสนามาจนถึงปัจจุบันรวมแล้ว 31 ปี ตั้งใจที่จะพัฒนาวัดให้ญาติโยมได้เข้ามาถือศีล และ ทำบุญ ทุกเช้าก็ยังคงเดินออกบิณฑบาตเหมือนพระลูกวัดรูปอื่น พร้อมทั้งทำกิจจวัตรของสงฆ์ทั่วๆไป สวดมนต์ทำวัด
เมื่อ 11 ปีก่อน โรงเรียนวัดห้วยหมูซึ่งอยู่ติดกับวัดห้วยหมู ได้เริ่มเปิดรับเด็กพิเศษและเด็กออทิสติก โดยเป็นเด็กในชุมชนตั้งแต่ชั้น ป.1-ป.6 ในขณะนั้นได้เป็นกรรมการของสถานศึกษาจึงได้สัมผัสกับเด็กพิเศษและเด็กออทิสติก ด้วยความเมตตา ความรักและความสงสารบรรดาเด็กเหล่านี้ที่หลังจากเรียนจบ ป.6 ไม่สามารถออกเรียนต่อที่ไหนได้ทำให้ไม่มีการได้รับการพัฒนาจนให้สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างปกติทั่วไปอีกทั้งห้องเรียนมีน้อย จึงได้บอกบุญถึงสาธุชนผู้ใจบุญมีใจเมตตาได้เข้ามาช่วยกันสร้างอาคารเรียนสำหรับเด็กออทิสติกพร้อมทั้งเป็นอาคารเรียนสำหรับเด็กปกติทั่วไปด้วยจนทำให้โรงเรียนวัดห้วยหมูเป็นโรงเรียนที่สามารถรับทั้งเด็กนักเรียนปกติทั่วไปและเด็กพิเศษได้อย่างเต็มที่
เจ้าอาวาสวัดห้วยหมู เล่าต่อว่า ด้วยความเมตตาต่อเด็กพิเศษและเด็กออทิสติก ที่กังวลใจว่าเมื่อจบออกไปจากโรงเรียนแล้วไม่สามารถไปเรียนต่อที่ไหนได้จึงได้รวบรวมปัจจัยส่วนตนเองที่ได้รับจากการออกกิจนิมนต์ที่ญาติโยมถวายมาให้ พร้อมทั้งบอกบุญไปยังผู้ที่มีกำลังทุนทรัพย์และจากเงินปัจจัยจากงานปิดทองฝังลูกนิมิตรของทางวัดจัดสร้างศูนย์พัฒนาเด็กพิเศษวัดห้วยหมู เพื่อฝึกเด็กพิเศษและเด็กออทิสติกให้มีการพัฒนาทั้งภูมิปัญญา สมาธิ และฝึกอาชีพที่ไม่อันตรายละสามารถทำได้อาทิ ทำดอกไม้จันทน์และขนมจัดเบรก (อาหารว่าง)
ล่าสุดได้ประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์และพวงหรีดที่ทำจากใบสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ไม่ถูกรางวัล มีผู้มาสั่งซื้อกันไม่ขาดสาย ทำให้เด็กๆ สมาธิมากขึ้นได้เรียนรู้การคัดแยกใบสลาก เรียนรู้การพับการขึ้นรูปของพวงหรีด อีกทั้งยังได้อยู่ผู้ปกครองและจิตอาสาที่มาช่วยงานภายในศูนย์ด้วย
จากพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาศบพิตร รัชกาลที่ 9 ที่ทรงเป็นพระอุปถัมภ์ทำนุบำรุงพระพุทธศานา ทรงพระราชทานแนวทางต่างๆ มาให้ประชาชนได้นำมาปรับใช้ พออยู่พอกิน อยู่อย่างพอเพียง รู้จักแบ่งปัน สงสาร และมีความเมตตาธรรม ทุกวันนี้แม้จะเป็นเป็นเจ้าอาวาส ปกครองพระภิกษุสงฆ์ที่มาจำพรรษาภายในวัด 11 รูป จะอยู่กันอย่างเรียบ ไม่ฟุ่มเฟือย น้อมนำมาเป็นแนวทางในการดำรงศีลอยู่ในบวรพระพุทธศาสนา มีความสุขในบั้นปลายของชีวิต
ทุกวันนี้เห็นเด็กพิเศษและเด็กออทิสติกที่มาอยู่ภายในศูนย์พัฒนาเด็กพิเศษวัดห้วยหมู เริ่มมีพัฒนาการมากขึ้น ด้วยความความตั้งใจที่ต้องการช่วยเหลือเด็กพิเศษ เด็กออทิสติก ที่มีฐานะยากจน ไม่มีที่เรียนหรือยังไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตนเองได้ เพราะเด็กพิเศษและเด็กออทิสติกเหล่านี้ เป็นเด็กที่มีฐานะยากจน เมื่อเรียนจบในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แล้ว ไม่สามารถไปเรียนที่ไหนได้ อุปกรณ์การเรียนการสอนและการพัฒนาอาชีพยังมีไม่เพียงพอ รวมไปถึงงบประมาณในการจ้างบุคลากรเข้ามาบริหารศูนย์
เบื้องต้นได้มอบปัจจัยจ้างบุคลากร 1 คน ใช้งบประมาณส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวข้องกับทางวัด เป็นปัจจัยที่ได้จากการออกกิจนิมนต์มาทำการจ้างบุคลากรไปในระยะแรกก่อน นอกจากนี้ อนาคตจะดำเนินการก่อตั้งศูนย์จำหน่ายของฝากของที่ระรึกและร้านค้าจากฝีมือเด็กพิเศษศูนย์พัฒนาเด็กพิเศษวัดห้วยหมู ที่บริเวณด้านหน้าของวัดเพื่อให้เด็กๆที่ได้ฝึกพัฒนาการแล้วสามารถออกมาฝึกประสบการณ์ตรงก่อนจะไปประกอบอาชีพกับครอบครัวที่บ้านต่อไป
ด้วยแบบอย่างจากแนวทางพระราชดำรัสของในหลวง รัชกาลที่ 9 พระครูจันทสีรากร เจ้าอาวาสวัดห้วยหมูได้ยึดนำมาใช้ ทุกวันนี้ยอมสละความสุขและทรัพย์ที่มีจากทางโลกมาอยู่ในทางธรรม อยู่ภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์ในบวรพระพุทธศาสนา คอยดูแลพระภิกษุสงฆ์ที่เข้ามาจำพรรษาภายในวัดห้วยหมูให้อยู่ในระเบียบพระวินัยสงฆ์ คอบพัฒนาวัดเพื่อให้ญาติโยมได้เข้ามาทำบุญและจัดศาสนะพิธีกรรมต่างๆ และประการสำคัญคือการอุปถัมภ์เด็กพิเศษและเด็กออทิสติก รวมไปถึงเด็กที่ยากไร้ในชุมชนรอบวัด ให้มีที่พึ่งเปรียบเสมือนวัดเป็นบ้านหลังที่ 2 ไม่เป็นภาระต่อสังคมต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี