ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์การเก็บกู้เคลื่อนย้ายและทำลายวัตถุระเบิดในแม่น้ำแม่กลอง ยุติการปฏิบัติการลงสำรวจหาวัตถุระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตาม Road Map หลังหน่วยประดาน้ำและถอดอมภัณฑ์ กรมสรรพวุธทหารเรือ ปูพรหมอย่างละเอียด ยืนยันพบระเบิด 7 ลูก หัวรถจักร และ กระจังหน้ารถไฟ หลังจากนี้เตรียมทำพิธีขอขมาพระแม่คงคาพร้อมทำเวิร์กช๊อป วางแผนการเก็บกู้ระเบิด คาดเริ่มได้ 21 ธ.ค.นี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับชาวจังหวัดราชบุรี
5 ธ.ค.61 นายวีรัส ประเศรษโฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน เปิดเผยว่า หลังจากที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์การเก็บกู้เคลื่อนย้ายและทำลายวัตถุระเบิดในแม่น้ำแม่กลอง ได้วางแผน Road Map ในการลงสำรวจหาวัตถุระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 28 พ.ย.– 4 ธ.ค.61 หน่วยประดาน้ำและถอดอมภัณฑ์ กรมสรรพวุธทหารเรือ ลงสำรวจและปักหมุดโดยใช้ชุดสำรวจและค้นหาดำเนินการใช้เครื่องมือ SIDE SCAN SONAR, ECHO SOUNDER, Navieator sonar, Mine detector, เครื่องวัดความลึก เครื่องระบุตำแหน่งวัตถุใต้น้ำ ทำการแสกนบนผิวน้ำ ตรวจหาระเบิดอย่างละเอียดในทุกจุด ในใต้น้ำบริเวณตอหม้อใต้สะพานจุฬาลงกรณ์ และสะพานธนะรัชต์ แม่น้ำแม่กลองกลางเมืองราชบุรี
จากการลงไปสำรวจอย่างละเอียดมีการสรุปยืนยันว่าพบระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จำนวน 7 ลูก หัวรถจักร และกระจังหน้ารถไฟ โดยทางผู้บัญชาการเหตุกาณ์ นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้ลงนามประกาศออกแถลงการณ์สรุปผลปฏิบัติงานฉบับที่ 5 ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2561 ว่านักประดาน้ำและถอดทำลายอมภัณฑ์ กรมสรรพาวุธทหารเรือ ได้ดำสำรวจบริเวณพื้นที่ครบทั้ง 8 โซน ในแม่น้ำแม่กลองเรียบร้อยแล้ว โดยพบลูกระเบิดอากาศรวม 7 ลูก หลังจากนี้จะนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์ขนาด ชนิด ประเภทของลูกระเบิดอากาศ เพื่อใช้ประกอบการวางแผนเก็บกู้วัตถุระเบิดต่อไป
ทั้งนี้ หากมีกำหนดการเก็บกู้ระเบิดจะมีประกาศแจ้งเตือนให้ทราบล่วงหน้า และขอให้รับฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น พร้อมงดเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน อันอาจก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่สาธารณชน
นายวีรัส ประเศรษโฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวต่อว่า ผลการสำรวจเป็นที่น่าพอใจ และยืนยันจากผลสำรวจของเจ้าหน้าที่ชุด EOD จากการประชุมสรุปผลการดำเนินการ และยุตติการปฏิบัติการสำรวจ ตามภารกิจงาน จากนี้ไปจะเริ่มดำเนินการในขั้นที่ 2 คือการวิเคราะห์ชนิดของวัตถุระเบิดโดยผู้เชี่ยวชาญทั้งจาก 3 เหล่าทัพ เบื้องต้นทราบในรายละเอียดจากการวิเคราะห์เทียบจากภาพถ่ายระเบิดใต้น้ำ กับข้อมูลชนิดระเบิดจากกองทัพ พบว่า 3 ลูก เป็นระเบิดของประเทศอังกฤษ ส่วนอีก 4 ลูก มีลักษณะยาว หัวแหลม น่าจะเป็นของสหรัฐอเมริกา หรือฝ่านสัมพันธมิตร อื่นๆ ตรงนี้ต้องรอสรุปจากผุ้เชี่ยวชาญอีกครั้ง
จากข้อมูลและภาพถ่ายใต้น้ำ ที่ชุดประดาน้ำและถอดทำลายอมภัณฑ์ กรมสรรพาวุธทหารเรือ ได้เก็บรายละเอียดมาพบว่า ระเบิดมีความพร้อมทำงาน เป็นระเบิดที่ใช้เกรียวและกลไกรเวลาในการทำงาน โดยทั้ง 7 ลูกอยู่บริเวณไกล้เคียงกันเป็นแนวจากการทิ้งระเบิดโดยเครื่องบิน บางลูกแฉลบใต้น้ำ จมทรายไปครึ่งจากการดูดทราย และมีสภาพสนิมจับเนื่องจากจมอยู่ภายในน้ำมายาวนานกว่า 70 ปี ส่วนขนาดต้องรอสำรวจ จะเป็นชนิด 500 หรือ 1,000 ปอนด์ ส่วนหัวรถจักรก็มีสภาพเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา บางส่วนมีนักดำลงไปนำเหล็กและทองเหลืองไปขาย
นายวีรัส กล่าวอีกว่า การเก็บกู้หลังจากนี้ทางกองทัพ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการเก็บกู้วัตถุระเบิดจะทำการวางแผนอย่างรอบคอบอย่างระเอียด มีการทำเวิร์กช๊อปการซักซ้อมการเก็บกู้เพื่อนำขึ้นมาเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายในระหว่างการเก็บกู้ เพราะระเบิดมีสภาพพร้อมทำงาน ในวันที่ 14 ธ.ค.61 จังหวัดราชบุรีจะประกอบพิธีบวงสรวงสักการะศาลหลักเมืองและขอขมาต่อพระแม่คงคา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชาวจังหวัดราชบุรี โดยจะเป็นการขอว่า "พวกเราจะรักษาเมืองของเราให้ดีที่สุด ให้พี่น้องประชาชนเราเดือดร้อนน้อยที่สุด" และในวันเดียวกันจะมีการแถลงข่าวการเตรียมเก็บกู้วัตถุระเบิดสมัยสงครามโลกที่สำรวจเจอแล้วจำนวน 7 ลูกโดยจังหวัดราชบุรี กองทัพทั้ง 3 เหล่าทัพ ตำรวจ เทศบาลเมืองราชบุรี และเทศบาลตำบลหลักเมือง อาจจะมีความจำเป็นต้องมีการเคลื่อนย้ายประชาชน
ส่วนแนวทางในการเก็บกู้ เบื้องต้นจะทำเวิร์กช๊อป เดิมที่เราจะทำการเคลื่อนย้ายไปและเก็บกู้ขึ้นมาวันละลูก แต่จากการดูของสภาพวัตถุระเบิดแล้วถ้าทำวันละลูกและเคลื่อนย้ายไปอาจจะมีผล อาจจะปรับแผนเคลื่อนย้ายไปยังจุดที่ใกล้คลังแสง หรืออาจจำเป็นต้องทำทั้งหมดและเคลื่อนย้ายไปยังทะเลที่อ่าวไทย แต่ก็กลัวจะส่งผลกระทบต่อประชาชนไปตลอดเส้นทาง แต่ก็เป็นหนึ่งในทางเลือก
"เราต้องทำทางเลือกไว้ทั้งหมด หลังจากการทำเวิร์กช็อปเสร็จแล้วในวันที่ 20 หรือ 21 ธ.ค.61 น่าจะเป็นวันเริ่มต้นของการเก็บกู้ โดยจะเริ่มต้นให้ความมั่นใจแก่ประชาชน กำหนดพื้นที่ปลอดภัย การกำหนดพื้นที่สำหรับสื่อมวลชนในการเก็บภาพทำข่าวให้ปลอดภัย" นายวีรัส กล่าว และว่า
ตัวอย่างการกำหนดแนวทางในการเก็บกู้คือ วิธีที่ 1 การลงไปล้อมกรอบเพื่อที่จะทำลายที่ละลูก แต่ก็กังวลว่าจะระเบิดพร้อมกันทั้ง 7 ลูก จะส่งผลอันตราย แต่ก็อยู่ในแนวทาง วิธีที่ 2 นำระเบิดขึ้นมาที่ละลูกและก็เคลื่อนย้ายไป หรือจะนำขึ้นมา 2 ลูกเคลื่อนย้ายไปพร้อมกัน โดยจะต้องคำนึกถึงรถไฟที่วิ่ง แต่รัศมี 1 กิโลอาจจะต้องเคลื่อนย้ายประชาชน วิธีที่ 3 เคลื่อนย้ายไปทางน้ำ โดยเคลื่อนออกนอกเมืองไปและนำขึ้นและนำไปคลังแสง แต่ตรงนี้มีความเสี่ยงคือเจ้าหน้าที่ทหารเรือที่ต้องทำการขนย้ายระเบิดไป และบริเวณทางน้ำต้องเตือนวัดเตือนคนที่อยู่สองฝั่งแม่น้ำต้องระวัง
ส่วนวิธีที่ 4 รวมกันทั้งหมดและนำไปออกที่ทะเล ตรงนี้ตนเองมองว่ายาก เพราะเหมือนพลักภาระไปที่จังหวัดอื่นต้องแจ้งเตือนประชาชนตลอดเส้นทางไปจนถึงอ่าวไทย ซึ่งจากการประเมินจะมีวิธีที่ 2 และที่ 3 ที่น่าจะเป็นไปได้ ส่วนจะเป็นไปตามกำหนดการก่อนปีใหม่นั้นตรงนี้เราจะพยายามทำให้ได้ตามที่เราได้วางกำหนดไว้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนและนำมาใช้ประโยชน์เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัด และยืนยันว่าเราจะทำทุกอย่างด้วยความปลอดภัย และจะแจ้งให้ประชาชนทราบตลอดเพื่อไม่ให้เกิดข่าวลือ ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ หรือจากผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ในฐานะผู้บัญชาการเหตุกรณ์
ด้านพระมหาผ่อง ผลิตตธมโม เจ้าอาวาสวัดเกาะนัมมทาปทวลัญชาราม เปิดเผยว่า ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เมื่อปี 2486 ถึงปี 2488 บรรยากาศในช่วงนั้นเป็นไปด้วยความน่ากลัวและที่ระเบิดยังคงจมมาถึงทุกวันนี้ไม่เกี่ยวกับไสยศาสตร์ และไม่มีวิญญาณของทหารมาบังตาแต่อย่างใด แต่เป็นเพียงที่คนจะลงไปเก็บกู้ จึงแนะนำให้ขอขมาต่อพระแม่คงคาเพื่อให้เปิดทางจะทำให้เกิดการมีกำลังใจ และขอให้เก็บกู้ขึ้นมาได้สำเร็จและปลอดภัย
ทางด้าน แฟนเพจของประดาน้ำและถอดทำลายอมภัณฑ์ กองทัพเรือ ได้ออกมาเปิดเผยภาพชุดการลงปฏิบัติภาระกิจการเก็บกู้วัตถุระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ระบุข้อความว่า “ ???อะไรนะ???...ผ่านมาแล้ว 6 วัน..#ภารกิจยังคงดำเนินต่อไป..กับการ #สำรวจ #ค้นหา #และพิสูจน์ทราบ วัตถุอันตรายใต้น้ำของเมื่อ 70 ปีก่อน ถามว่า #เหนื่อยมั๊ย ..(มาก) #อยากกลับบ้านมั๊ย...(อยาก) #คิดถึง พ่อ แม่ ลูก เมียมั๊ย...(คิดถึง...มาก)..#และที่สำคัญ...ท้อมั๊ย...(เราไม่ท้อ)...เรา...จะยังไม่กลับ จนกว่าภารกิจจะเสร็จสมบูรณ์ 100 % ...
ข่าวที่ออกไปสู่ประชาชน พ่อ แม่ พี่ น้อง เราขอให้เป็นหน้าที่ของพ่อเมืองราชบุรีแต่เพียงผู้เดียว เรา มีหน้าที่ #ที่จะต้องปฏิบัติให้ภารกิจเสร็จสมบูรณ์.....NAVY EOD ถูกฝึกและร่ำเรียนมาเพื่อปฏิบัติภารกิจแบบนี้....วัตถุที่อยู่ใต้น้ำ เมื่อพบเจอหรือทำลาย #บนบกว่ายากแล้ว แต่นี่ กลับอยู่ในน้ำ และทัศนวิสัยในการมองเห็นใต้น้ำเพียงแค่ 2 ฝ่ามือ มีทั้งความลึก กระแสน้ำและวัตถุใต้น้ำที่เราต้องเผชิญ .#นั้นยากกว่าหลายเท่า....ภารกิจยังคงต้องดำเนินต่อไปและใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ 100 % เพราะเราคือ NAVY EOD” โดยข้อวความและภาพชุดดังกล่าวได้มีการแชร์ออกไปจำนวนมาก พร้อมทั้งให้กำลังใจในการทำงาน โดยเฉพาะชาวราชบุรีที่เข้ามาแสดงความขอบคุณและให้กำลังในในงานทำงานของเจ้าหน้าที่จำนวนมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี