17 ธ.ค.61 ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) นักสมุทรศาสตร์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Thon Thamrongnawasawat” ขณะที่เต่ามะเฟือง ที่ได้ชื่อว่าเป็นเต่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นเต่าที่หายากที่สุดในประเทศไทย มาวางไข่บริเวณหน้าหาดที่เขาหลัก จ.พังงา
โดยข้อความระบุว่า เพื่อนธรณ์ครับ ในที่สุด ฝันที่รอคอยก็เป็นจริง คลิปและภาพนี้เป็นหลักฐานที่ดียิ่งว่า #เต่ามะเฟือง เต่าทะเลใหญ่ที่สุดในโลกและหายากที่สุดของไทย เต่าทะเลที่ไม่มีรายงานวางไข่มา 5 ปี กลับมาวางไข่อยู่ที่เขาหลัก พังงา
จากข้อมูล ระบุว่าขึ้นมาตั้งแต่เมื่อคืน จนลงกลับทะเลไปเมื่อเช้าวันนี้ เต่ามะเฟืองเมื่อโตเต็มวัย อาจยาวกว่า 2 เมตร น้ำหนัก 300-500 กิโลกรัม เป็นเต่าใหญ่ที่สุดในโลก เต่ามะเฟืองมีขอบเขตการแพร่กระจายทั่วโลก เป็นเต่าทะเลที่พบในน้ำเย็นได้ ยังเป็นเต่าที่ว่ายน้ำไปไกลมาก บางตัวมีรายงานว่าไปไกลกว่า 20,000 กิโลเมตร
เต่ามะเฟืองกินแมงกะพรุน เป็นสัตว์ทะเลที่ช่วยควบคุมปริมาณของแมงกะพรุนไม่ให้มีมากเกินไป ในระยะหลัง เต่ามะเฟืองจำนวนมากตายเพราะขยะพลาสติกในทะเล เนื่องจากเต่าเข้าใจผิด กินถุงก๊อบแก๊บกินขยะพลาสติกเข้าไปเพราะนึกว่าเป็นแมงกะพรุน ปริมาณเต่ามะเฟืองในโลกลดลงอย่างรวดเร็ว บางพื้นที่เคยมีเต่ามาวางไข่มากมาย
ปัจจุบันเหลือน้อยมาก เต่ามะเฟืองเป็น 1 ในว่าที่สัตว์สงวนของไทย ที่ยังคงจ่อคิวรอการแก้ไขกฎหมายสัตว์สงวนสัตว์คุ้มครอง เพื่อให้สามารถประกาศสัตว์สงวนเพิ่มเติมได้ และในบรรดาว่าที่สัตว์สงวนทั้งสี่ เต่ามะเฟืองคือสัตว์ที่หายากที่สุด สัตว์ที่แทบจะหมดหวังในการเจอ (อีก 3 ชนิดคือวาฬบรูด้า วาฬโอมูระ ฉลามวาฬ) เดิมทีเต่ามะเฟืองเคยขึ้นมาวางไข่ตามหาดต่างๆ ของพังงา-ภูเก็ต แต่ไม่มีรายงานการวางไข่มาแล้วร่วม 5 ปี
มีแต่รายงานเต่ามะเฟืองตาย 2 ครั้ง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เต่ามะเฟืองจึงถือเป็นสัตว์ทะเลหายากที่สุดในไทยชนิดหนึ่ง และเป็นการรอคอยอันยาวนานของคนรักทะเลไทย ว่าสักวันเธอจะกลับมาวางไข่ และการรอคอยอันยาวนานก็สิ้นสุด ภาพนี้เป็นหลักฐานยืนยันว่า เธอยังคงใช้ประเทศไทยเป็นแหล่งวางไข่ เพื่อให้กำเนิดลูกหลานเต่ามะเฟืองไทยต่อไป
แม่เต่ามะเฟืองวางไข่ 60-100 ฟอง ขอบคุณชาวบ้านและผู้ประกอบการที่คึกคักและเขาหลักที่ดูแลเธอเป็นอย่างดี จนเธอวางไข่สำเร็จ ยังรวมถึงกรมอุทยานที่รณรงค์เรื่องขยะพลาสติกและขยะทะเลในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
กรมทะเล กรมประมง จังหวัด ท้องถิ่น อาสาสมัคร ภาคเอกชน และทุกคนที่มาช่วยกัน ไม่แน่ว่าถุงพลาสติก 4-5 ใบที่ไม่ลงทะเลไปเนื่องจากเราช่วยกันวันนั้น ทำให้แม่เต่ามีวันนี้ มันตอบไม่ได้เป๊ะๆ หรอกว่าใช่ แต่มันบอกตัวเองได้ว่า ที่ชั้นไม่ใช้ถุงพลาสติก ไม่ใช้หลอดพลาสติกหรือแก้วใช้แล้วทิ้ง มันมีความหมาย มันเกิดผลในโลกแห่งความจริง...
หาดเขาหลักอยู่นอกเขตอุทยาน แต่เชื่อว่าจะมีการดูแลลูกๆ ของเธอที่อยู่ในหลุมเป็นอย่างดี ยิ่งเมื่อข่าวกระจายออกไป เชื่อว่ากรมทะเล กรมอุทยาน จังหวัด และพี่ๆ ในพื้นที่ จะช่วยกันมาดูแลอย่างถูกต้อง วิธีการดีที่สุดคือรักษาพื้นที่ไว้ไม่ให้มีคนเข้าไป โดยกั้นเชือกอย่างที่เห็นในภาพ และอาจทำรั้ว คอก ฯลฯ เพื่อป้องกันสัตว์ ไม่แนะนำให้เก็บไข่เต่าขึ้นมา เพราะอาจเกิดผลกระทบโดยไม่รู้ตัว
แต่ในกรณีที่จำเป็นจริงๆ เพราะดูแลไม่ไหว แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ชีวะ ภูเก็ต อย่างใกล้ชิด(กรมทะเล) เพราะเต่ามะเฟืองต้องการชายหาดเฉพาะ ซึ่งแตกต่างจากเต่าทะเลชนิดอื่น หากมีการย้ายไปในหาดอื่น ควรเป็นหาดที่มีรายงานว่ามีเต่ามะเฟืองเคยมาวางไข่ หาดท้ายเหมืองหรือหาดไม้ขาว เคยมีรายงาน และอยู่ในเขตอุทยาน แต่หาดท้ายเหมืองจะอยู่ใกล้กว่าสุดท้าย แม่เต่าตัวนี้ เธอคงไม่รู้ว่า เธอสร้างความสุขให้คนรักทะเลไทยขนาดไหน เป็นของขวัญปีใหม่คนไทยที่รอคอยมานาน 5 ปี
และเป็นของขวัญที่คนที่เคยเห็นเต่ามะเฟืองวางไข่ เคยเห็นลูกเต่าออกจากไข่ วิ่งลงทะเล จนกลายมาเป็นบทความเมื่อ 20 ปีก่อน จนกลายเป็นหนังสือ #กำเนิดเต่ามะเฟือง เซ็นหนังสือเล่มนั้นไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยเล่ม บอกให้น้องๆ มีความหวังไม่รู้กี่คนต่อกี่คน รณรงค์เรื่องขยะพลาสติก-ขยะทะเล มาไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปี สารภาพว่าผมน้ำตาซึม เมื่อทราบเรื่องนี้ ความหวังที่ส่งต่อ การรอคอยอันยาวนาน ถึงวันสิ้นสุดลงดีใจ ดีใจมากๆ ไชโย้ !!!
หมายเหตุ - อีก 60 วันเจอกันนะจ๊ะคุณลูกเต่า
ขอบคุณภาพและคลิปที่ส่งกันมาจากเพื่อนธรณ์หลายคน และจากกรมอุทยานครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี