ณ วัดถ้ำกลองเพล "พระอาจารย์ทูล ขิปฺปปญฺโญ" ได้ถาม "หลวงปู่ขาว อนาลโย" ว่า ในอดีตที่ผ่านมาในครั้งพุทธกาลนั้นท่านได้สร้างบารมีมาอย่างไร ขอนิมนต์หลวงปู่เล่าความเป็นมาในอดีตให้ฟัง หลวงปู่ก็ยิ้มๆ แล้วเริ่มเล่าความเป็นมาในสมัยครั้งนั้น
หลวงปู่บอกว่าในสมัยนั้น เฮาเป็นพระนวกะเพิ่งบวชใหม่ ยังไม่รู้จักความผิดถูกในธรรมวินัยดี ตลอดจนข้อวัตรปฏิบัติก็ยังไม่เข้าใจพอ แต่มีความหวังดีในการบวช มีความยินดีในการปฏิบัติ และอยากพ้นไปจากทุกข์ทั้งหลาย ในครั้งนั้นมีพระบวชใหม่ด้วยกันประมาณ 500 องค์ ทุกองค์ต่างก็ยังไม่รู้ในพระธรรมวินัยดี แล้วก็มีพระองค์ที่ท่านบวชก่อนมาชักชวนให้ไปเป็นหมู่คณะ โดยพูดว่า มีพระอาจารย์องค์หนึ่งท่านได้เป็นพระอรหันต์ มีความรู้เฉลียวฉลาดเฉียบแหลมมาก แนวทางปฏิบัติตรงต่อมรรคผลนิพพานทีเดียว มีข้อวัตรปฏิบัติเคร่งครัดในพระธรรมวินัย จึงทำให้ผู้ปฏิบัติถึงพระนิพพานได้เร็วขึ้น เฮาเองก็มีความเชื่อ เพราะอยากเป็นพระอรหันต์อยู่แล้ว พระผู้บวชเก่าองค์นั้นก็ได้พูดในลักษณะเดียวกันนี้ให้พระบวชใหม่ฟังอีกหลายองค์ ซึ่งทุกองค์ก็เชื่อแล้วยอมมอบตัวเป็นลูกศิษย์เพิ่มขึ้นมาอีก และพร้อมใจยินยอมตามไปด้วย เมื่อถึงเวลาแล้วก็พากันออกเดินทางพร้อมกัน ทั้งหมดมีพระใหม่ประมาณ 500 องค์ เมื่อไปถึงสถานที่แห่งหนึ่ง มีพระเถระผู้ใหญ่คอยอยู่ในที่นั้นแล้ว
จากนั้น ก็พากันเข้าไปกราบคารวะคอยรับฟังโอวาทต่อไป ขณะนั้นมีประธานสงฆ์ให้โอวาทว่า คณะสงฆ์ทั้งหมดต้องอยู่ในข้อปฏิบัติเดียวกัน 5 ประการ คือ 1) ไม่ฉันเนื้อสัตว์ทุกชนิดเป็นวัตร 2) ต้องอยู่ป่าเป็นวัตร 3) ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร 4) บิณฑบาตเป็นวัตร 5) อยู่โคนต้นไม้เป็นวัตร
ทั้ง 5 ข้อนี้ให้พระสงฆ์ทุกองค์ถือเอาเป็นข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด อาจารย์ใหญ่ที่เป็นประธานสงฆ์นั้นชื่อว่า พระเทวทัต องค์ที่รองลงมาชื่อว่า พระโกกาลิก และยังมีรองลงไปอีกหลายองค์ จากนั้น ก็พากันปฏิบัติในข้อบัญญัติ 3 ประการอย่างจริงจังทีเดียว ต่อมาไม่นานนักได้เห็นพระโมคคัลลาน์และพระสารีบุตรตามไป แล้วทำความสนิทสนมกับพระเทวทัตเป็นอย่างดี ในคืนหนึ่ง พระเทวทัตให้โอกาสแก่พระสารีบุตรได้แสดงธรรมแก่พระบวชใหม่ทั้งหลาย ในขณะนั้น เฮามีความเลื่อมใสในพระสารีบุตรมาก ท่านแสดงธรรมได้ไพเราะมีเหตุผลพอเชื่อถือได้ จึงคิดเปลี่ยนใจว่าเราจะขอติดตามกับท่านสารีบุตรไปอย่างแน่นอน
ในขณะนั้น พระเทวทัตผู้มีทิฏฐิสูงไม่ยอมฟังธรรมของพระสารีบุตร เอาแต่นอนเฉยไม่สนใจในการฟังธรรมเลย พระโกกาลิกก็พากันนอนฟังเช่นเดียวกัน อาจจะเป็นเพราะอำนาจฤทธิ์ของพระโมคคัลลาน์ก็เป็นไปได้ จึงทำให้พระเทวทัตและพระโกกาลิกนอนหลับไปอย่างสนิททีเดียว พระใหม่ทั้งหมดมีความเลื่อมใสศรัทธาในพระสารีบุตรและพระโมคคัลลาน์เป็นอย่างมาก เมื่อพระสารีบุตรพูดว่า จะพาพระใหม่ไปกราบพระพุทธเจ้าเท่านั้น ทุกองค์ก็เตรียมพร้อมทันที เมื่อพร้อมกันแล้วพระใหม่ทั้งหมดก็ออกเดินทางตามพระโมคคัลลาน์และพระสารีบุตรไป
เฮาก็ได้เป็นลูกศิษย์ของพระสารีบุตรองค์หนึ่ง แต่เฮาก็ไม่ได้บรรลุมรรคผลอะไรเลยในสมัยนั้น แต่มีความศรัทธายินดี เชื่อว่าการบวชนั้นอานิสงส์มาก และยินดีในการปฏิบัติ ยอมสละชีวิตอุทิศต่อพระพุทธศาสนาจวบจนวันตาย
จึงเป็นอันว่าหลวงปู่ขาวก็เคยเป็นลูกศิษย์ของพระสารีบุตรมาแล้วในอดีตชาติ ในชาติปัจจุบันของหลวงปู่ที่กำลังภาวนาปฏิบัติอยู่ ก็นิมิตเห็นพระสารีบุตรมาแสดงธรรมให้ฟังอยู่เสมอ นี่คือความเกี่ยวข้องกันมาในชาติอดีต ถึงท่านจะเข้าถึงพระนิพพานไปแล้วก็ตาม คุณธรรมในความเมตตานั้น ยังมาแสดงตนเป็นภาพในนิมิตเพื่อโปรดผู้ที่ยังตกอยู่กับโลกนั่นเอง ก็เหมือนกับท่านที่ไม่เคยเห็นครูอาจารย์มั่นมาก่อน แต่ทำไมท่านจึงมีนิมิตปรากฏเห็นท่านครูอาจารย์มั่นมาแสดงธรรมให้ฟังเป็นประจำเล่า เฮาก็เหมือนกัน ท่านพระสารีบุตรนิพพานไปนานแล้ว แต่เฮาก็เห็นนิมิตเห็นท่านมาสอนเช่นกัน
เรื่องอย่างนี้ท่านผู้อ่านอาจจะสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไร หรืออาจารย์ทูลแต่งขึ้นเอง เพื่อความแน่ใจ ให้ไปถาม "ท่านอาจารย์บุญเพ็ง วัดถ้ำกลองเพล" ดูก็แล้วกัน หลวงปู่ขาวเคยเปรยๆ ให้ฟังมาแล้ว แต่ท่านไม่ได้พูดมาก กลัวพระเณรจะไม่เข้าใจ ตัวอาจารย์ทูลได้ถามเรื่องนี้กับหลวงปู่ขาวโดยตรง หลวงปู่จึงได้เปิดเผยเรื่องนี้ทั้งหมดออกมาอย่างละเอียด และมีอาจารย์ทูลองค์เดียวเท่านั้นที่ได้รับฟังในเรื่องนี้ทั้งหมด
คัดลอกจากหนังสือ อัตโนประวัติพระอาจารย์ทูล ขิปฺปปญฺโญ วัดป่าบ้านค้อ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี