1 ม.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ศาลปกครองภูเก็ต ได้มีคำสั่งทุเลาการบังคับคดี ในคดีที่นายนิพนธ์ สมเหมาะ แกนนำกลุ่มชมรมผู้ประกอบการทัวร์หมู่เกาะสิมิลัน-สุรินทร์ ฟ้องร้องกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 โดยให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่งของ นายธัญญา เฉพาะประกาศที่พิพาทฉบับแรกตามประกาศกรมอุทยานฯ เรื่องการกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าไปในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ลงวันที่ 9ต.ค.2561 ตามคำขอของผู้ฟ้องคดี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.62-31 มี.ค.62 ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น
และให้ยกคำขอของผู้ฟ้องคดีที่ขอให้ทุเลาการบังคับตามประกาศที่พิพาทฉบับที่ สองตามประกาศกรมอุทยานฯ เรื่องกำหนดอัตราค่าบริการสำหรับยานพาหนะประเภทเรือที่เข้าไปในเขตอุทยานฯ สิมิลัน ลงวันที่ 9ตุลาคม 2561โดยศาลได้พิจารณาให้ทุเลาการบังคับตามประกาศที่พิพาททั้งสองฉบับไม่ให้มีผลบังคับใช้ต่อไป การให้ทุเลาบังคับตามประกาศที่พิพาททั้งสองฉบับไม่ให้มีผลบังคับใช้ต่อไป ย่อมไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือแก่สาธารณะแต่อย่างใด
นายนิพนธ์ สมเหมาะ ประธานชมรมเรือนำเที่ยวสิมิลัน กล่าวว่า จากการที่ศาลปกครองภูเก็ตได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เป็นระยะเวลา 3 เดือน คือ ม.ค. , ก.พ. และ มี.ค. ผู้ประกอบการ พนักงานและชาวบ้าน ต้องขอขอบคุณศาลที่ท่านกรุณาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในตอนนี้ แต่ตนมองจุดนี้เป็นจุดที่เพิ่งจะเริ่มต้น ซึ่งสิ่งที่เรานำไปชี้แจงต่อศาลเป็นข้อเท็จจริงทั้งหมดในทุกๆด้านทั้งในเรื่องของการทำงานวิจัย การมีส่วนร่วม การดูแลทรัพยากร หรือแม้แต่เรื่องของการท่องเที่ยว ต้องยอมรับว่าตอนนี้ภาพของการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบตกต่ำเป็นอย่างมาก
ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศและของประชาชน ถ้าภาพของการคุ้มครองอุทยานแห่งชาติเกาะสิมิลันมันเกิดในมิติของการร่วมมือ ที่เราจะใช้การท่องเที่ยว การดูแลการรักษาร่วมกัน ในวันที่ศาลปกครองภูเก็ตไต่สวน ศาลท่านเองก็ได้ถามว่าถ้าศาลคุ้มครองแล้วมีนักท่องเที่ยวเพิ่มทางผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวจะทำอย่างไร ตนเองก็เรียนต่อศาลว่า งานของการท่องเที่ยวทางทะเลโดยเฉพาะเกาะสิมิลัน ปัจจุบันเป็นที่ได้รับความนิยมและมีหลายหน่วยงานที่มาเกี่ยวข้อง เช่นการคมนาคมทางทะเล ก็มีกรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำ การช่วยเหลือด้านความปลอดภัยในทะเล หรือแม้แต่ตัวทรัพยากรเอง ในพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวมีจำนวนมาก
การดูแลกการตรวจสอบ อาจจะมีหน่วยงานอื่นเช่นกรมทรัพยากรทางทะเล หรือหน่วยงานราชการในท้องถิ่นเข้าไปช่วยอุทยานในเรื่องของกระบวนการท่องเที่ยวทางทะเลและสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในระดับที่พอดี จัดการกับทรัพยากรได้ ในส่วนของการที่อุทยานจะทำการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองนั้น ทางผู้ประกอบการนั้นเมื่อศาลท่านให้ความคุ้มครองหากมีนักท่องเที่ยวเพิ่มเราต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและเกิดผลกระทบรวมทั้งรวบรวมในเรื่องหลักการจัดการเพื่อนำมาศึกษาและปฏิบัติที่ชัดเจน ส่วนในเรื่องของการอุทธรณ์มันเป็นเรืองปกติหากความคิดเห็นต่างๆยังไม่ชัดเจนไม่เหมือนกันก็เป็นสิทธิของทางอุทยานที่จะทำได้
“ตนเองมองว่าในการที่เราร้องศาลปกครองเราก็ได้ทำไปตามขั้นตอนทุกอย่าง ซึ่งความเดือดร้อนของผู้ประกอบการได้ถูกนำเสนอไปถึงฝ่ายบริหาร ฝ่ายสำนักนายกรัฐมนตรี ฝ่ายนิติบัญญัติเรื่องของทางผู้ประกอบการก็ได้เข้ากรรมาธิการ รัฐสภา และศาลท่านดูจากข้อมูลที่ทางเราที่ได้รวบรวมซึ่งเป็นข้อเท็จจริง ซึ่งมองว่าศาลท่านใช้ดุลพินิจในครั้งนี้ได้เหมาะสม ส่วนทางอุทยานจะอุทธรณ์ก็แล้วแต่มุมมอง หากมีการอุทธรณ์จริงตนก็พร้อมที่จะเข้าไปชี้แจงให้ศาลท่านได้ทราบถึงข้อเท็จจริง และไม่ใช่เราไม่ดูแลทรัพยากรแต่เราจะใช้ทรัพยากรที่อยู่อย่างเหมาะสม” นายนิพนธ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี