3 ม.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่ได้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปเที่ยวชมถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย กันอย่างคับคั่ง จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนไปเยือนเขตอุทยานแห่งชาติและวนอุทยานมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย พบว่าในปัจจุบันได้มีผู้เคยจับจองที่ดินบริเวณถนนติดทางเข้าถ้ำหลวงทั้ง 2 ฝั่ง นำที่ดินที่เคยใช้ปลูกพืชผลทางการเกษตร เช่น ข้าวโพด สับปะรด ฯลฯ หันมาเปิดให้ร้านค้าจำหน่ายสินค้าต่างๆ เข้าไปจับจองเพื่อจำหน่ายสินค้าให้กับนักท่องเที่ยวกันหลายราย หลังจากก่อนหน้านี้ร้านค้าเหล่านี้เริ่มตั้งกันบริเวณถนนสายขุนน้ำนางนอน-ปากทางถ้ำหลวง-ดอยผาหมี กระทั่งปัจจุบันมีอยู่เต็มบริเวณ และล่าสุดยังขยายเข้าไปในเขตถนนทางเข้าสู่ถ้ำหลวงระยะทางประมาณ 800 เมตร ที่ใช้เป็นทางเดินไปชมถ้ำหลวงอีกด้วย
โดยจากเดิมร้านค้าเหล่านี้เป็นเพียงแค่รถเข็นหรือรถลากชั่วคราวก็หันมาสร้างเป็นเพิงไม้ไผ่กันมากขึ้น กระทั่งล่าสุดพบว่าทางตรงเข้าสู่ถ้ำหลวงมีการสร้างเพิงไม้ไผ่ร้านค้าแล้วหลายราย โดยเปิดให้จองเพื่อให้ผู้สนใจเข้าไปจำหน่ายถึงขั้นมีการติดป้ายห้ามบุกรุกไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินคดี โดยอ้างว่าเป็นที่ส่วนบุคคลอีกด้วย นอกจากนี้ยังพบว่ามีอีกหลายพื้นที่บริเวณปากทางเข้าที่พัฒนาเป็นสถานที่จอดรถและร้านค้า เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกเนื่องจากบริเวณด้านหน้าทางเข้าคับแคบและเมื่อมีผู้คนและยานพาหนะไปเยือนเป็นจำนวนมากทำให้เกิดความแออัด
นายสมศักดิ์ คณาคำ นายอำเภอแม่สาย กล่าวว่า พื้นที่บริเวณถ้ำหลวงดังกล่าวถือว่าเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยมีทั้งหมดประมาณ 5,000 ไร่ และอยู่ภายใต้การดูแลของโครงการพัฒนาดอยตุงฯ และได้มีการอนุญาตให้ประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์จากบ้านผาหมีที่อยู่ข้างเคียงเข้าไปจับจองเพื่อทำกินได้ในบางส่วน โดยที่ผ่านมาไม่มีการเก็บค่าเช่าใดๆ อย่างไรก็ตาม พบว่าภายหลังได้มีผู้ที่เข้าไปทำกินบางรายนำพื้นที่บางส่วนดังกล่าวไปขายสิทธิ์ให้กับบุคคลอื่น ทำให้มีสภาพเหมือนในปัจจุบัน
"การจับจองพื้นที่เพื่อเปิดร้านค้าอาจเกิดจากความเห็นแก่ตัวและพยายามจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์มากจนเกินไป ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้คณะทำงานถ้ำหลวง นำโดย นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธาน ก็ได้มีมติให้จัดสถานที่เพื่อเปิดให้มีตลาดชุมชนของชาวบ้านบริเวณพื้นที่ด้านนอกใกล้เคียง เช่น หนองน้ำพุ ฯลฯ เพราะพื้นที่ที่ติดกับถนนทางไปยังถ้ำหลวงแล้ว เมื่อมีการสร้างเป็นเพิงไม้ไผ่ดังกล่าว จะบดบังความสวยงามของธรรมชาติ และต่อมายังมีการล้อมรั้วลวดหนามทั้ง 2 ฝั่งถนนอีก จึงเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยวได้ จึงจะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขต่อไป" นายสมศักดิ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี