หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ท่านจึงสอนเรื่องดำเนินจิตให้สงบจากอารมณ์เครื่องก่อกวนจิตไว้ดังนี้ (คัดมาเฉพาะบางตอนจากหนังสือศาสนาอยู่ที่ไหน พระธรรมเทศนาที่หลวงตามหาบัว ได้เทศน์ไว้เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2519)
เวลาจิตของเราไม่ดี นี่แหละเป็นเหตุที่เราต้องทรมาน เป็นเหตุที่ต้องบังคับ เป็นเหตุที่ต้องปราบปรามกันให้เต็มที่เต็มทาง ถึงเหตุถึงผล เต็มสติกำลังความสามารถ อุบายสติปัญญาก็ขึ้นช่องนี้ ถึงจะลำบากขนาดไหน ก็ไม่หลบหน้า เพราะทราบแล้วว่า จิตของเราพยศ จิตของเราดื้อด้าน จะทำอย่างไรจิตเราจึงจะสงบตัวลงได้ เราก็ทราบเหตุผลในเรื่องนี้อยู่แล้ว ฉะนั้น ต้องฝึก ต้องทรมาน ต้องบังคับบัญชาเอากันเต็มเหนี่ยวทีเดียวเมื่อจิตมันผาดโผนด้วยอำนาจของกิเลส เราก็ผาดโผนด้วยอำนาจของธรรม คือสติ ปัญญา ศรัทธา ความเพียร ไม่ลดละปล่อยวาง สู้กันจนชนะไปเป็นพัก ๆ ไม่ยอมท้อถอยให้กิเลสหัวเราะเยาะเย้ยได้เป็นอันขาด จะขายหน้าตัวเองให้กิเลสย่ำยี ความชนะเป็นพัก ๆ
นั้นแลคือการแสดงผลงานให้ปรากฏขึ้นมาอย่างประจักษ์ คือจิตหมอบลงไป จิตสงบลงไปด้วยอำนาจแห่งอุบายของการปราบปราม คือทรมานจิตใจ นี่เป็นสักขีพยานขึ้นมาเป็นระยะ ๆ เพราะความชนะเป็นพัก ๆ ไป ผลก็ปรากฏขึ้นมาเป็นระยะเช่นเดียวกัน นี้แลเป็นเหตุให้เรามีความอุตส่าห์พยายาม ไม่ท้อถอย ความยากลำบากไม่ได้ยากเฉย ๆ ไม่ได้ลำบากเฉย ๆ ผลที่เกิดขึ้นมาจากความลำบาก เพราะการฝึกหัดทรมาน การฝืนใจของตนซึ่งเต็มไปด้วยกิเลสนั้น มันแสดงขึ้นมาให้เราเห็นอย่างชัด ๆ ว่าเป็นผลดี เป็นผลดีเรื่อย ๆ
จิตแม้จะผาดโผนขนาดไหนก็ตาม สู้เราไปไม่ได้ เพราะเรามีเครื่องมือได้แก่ธรรมของพระพุทธเจ้าคือ “ขันติ” เอามาใช้ “วิริยะ” เอามาสนับสนุน “สติปัญญา” ไม่ลดละ เพราะเป็นเครื่องมือที่ติดแนบอยู่กับตัวเรา ฟาดฟันลงไป กิเลสจะหาอุบายแสดงกลมารยาออกมาด้วยวิธีใด สติ-ปัญญาเป็นเครื่องปราบกิเลสต้องนำมาปราบจนได้ ปราบกิเลสไม่ได้เราก็แพ้ และขายหน้าไปจนวันตาย และตลอดกัปกัลป์ไม่มีสิ้นสุดยุติได้เลย เราเวลานี้กำลังก้าวขึ้นเวทีต่อสู้กับกิเลสอยู่แล้ว การแพ้กิเลสเป็นของดีแล้วหรือ นี่เป็นอุบายวิธีที่จะนำสติปัญญามาต่อสู้กับกิเลสไปจนมีชัยชนะไม่ได้
การแพ้ไม่ใช่ของดี นอกจากความชนะหรือตายในสนามรบเท่านั้น พระพุทธเจ้าชนะกิเลสทั้งมวลด้วยพระปรีชาสามารถ จึงได้เป็นพระศาสดาของโลก สาวกท่านชนะกิเลสทั้งปวงด้วยความเพียร จึงได้เป็นสรณะของพวกเรา ธรรมจึงปรากฏขึ้นในโลกได้เพราะความชนะของท่าน ส่วนธรรมที่จะปรากฏภายในจิตเราเพราะความแพ้นั้นดีอยู่เหรอ นั่นขัดกันกับศาสนธรรมที่ท่านประกาศสอนไว้ และอุบายวิธีที่พระพุทธเจ้าทรงพาดำเนินมา มันขัดกันถ้าเราแพ้
นี่แหละ ระยะที่เราฝึกอบรมต้องมีความยากลำบากลำบน ทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะกิเลสมีมาก จึงมีแต่เรื่องเล่ห์เหลี่ยมแหลมคม ยั่วอย่างนั้น ยั่วอย่างนี้ หลอกลวงอย่างนี้อยู่เรื่อยภายในใจ ไม่ให้เราประกอบความพากเพียร ตั้งเนื้อตั้งตัวได้เลย มันทำให้เอนไปทางนั้น เอียงไปทางนี้ อยู่อย่างนั้นแล จงทราบว่า สิ่งใดที่เป็นภัยต่อความดี นั้นคือกิเลสทั้งหมด เราอย่าเข้าใจว่ากิเลสตั้งป้อมอยู่ที่ไหน ก็ตั้งป้อมอยู่ที่หัวใจนั่นแล เฉพาะอย่างยิ่งขณะที่จะทำความดีนั้นแหละ กิเลสนั้นนอนหลับอยู่ก็ตาม มันจะพลิกตัวตื่นขึ้นทันทีโดยไม่ต้องไปปลุกมัน
พอคิดว่าเราจะสร้างคุณงามความดีเท่านั้นแหละ กิเลสมันตั้งท่าสู้เราแล้ว แล้วปราบเราอยู่หมัดด้วย เช่น ว่าจะไปทำบุญทำทาน ไปรักษาศีลภาวนา มันจะต้องหาอุบายขึ้นมาอย่างเหมาะ ๆ เดี๋ยวงานอย่างนั้น ยุ่งอย่างนี้ ไม่ได้นะ เดี๋ยวงานอย่างนี้ยุ่งนั้นยุ่งนี้ ไม่ได้นะ จะลำบากลำบน อดข้าวค่ำข้าวเย็นรักษาศีลทำให้ไม่สะดวกสบาย จะไม่สบาย เสียสุขภาพ อายุสั้น เดี๋ยวตาย ยุ่งไปหมด นั่นมันหลอกเรา ก่อนที่เรายังไม่ได้เห็นผลก็ต้องยอมมันแหละ เพราะเราเคยเชื่อมันมานานแล้วจนฝังใจ ไม่คิดนึกบ้างเลยว่ามันเป็นกิเลสจอมต้มตุ๋นทั้งเป็นมาแต่กาลไหน จึงเชื่อเอา ๆ ไม่มีทางฟื้นตัวได้ตลอดไป
ทีนี้พอเราจะเป็น “นักสู้” เช่น ภาวนาต่อสู้กับสัญญาอารมณ์ที่เกิดขึ้นภายในใจ ก่อกวนให้เราวุ่นวายอยู่ตลอดเวลา ก่อนที่จะเกิดความสงบขึ้นมา เมื่อเราชนะมันได้ผลก็คือความเย็นใจ ซึ่งออกมาจากความสงบแล้วปรากฏความมีคุณค่าขึ้นมาภายในตน ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยคิดว่า จิตใจเรา ตัวเรา จะมีคุณค่า มีแต่ความรุ่มร้อน หาแต่ที่เกาะ หาแต่ที่อาศัย ซึ่งส่วนมากก็เป็นยาพิษของกิเลสนั่นแล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี