nn...มุ่งมั่นทำด้วยใจมาอย่างต่อเนื่องกับรณรงค์ “เลิกทิ้งขยะลงแม่น้ำ”หลังพายเรือเก็บขยะ รณรงค์ให้ประชาชนริมเจ้าพระยา 10 จังหวัด เลิกทิ้งขยะ เลิกปล่อยน้ำเน่าเสีย ลงแม่น้ำเจ้าพระยา...เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดี ฝ่ายความยั่งยืนและบริหาร ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้ไปบรรยาย เรื่อง “จิตสาธารณะและความรับผิดชอบต่อสังคม” ให้นักศึกษาปี 1 คณะสาธารณสุขศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ไปจัดที่ จ.นครนายก ใกล้ๆกับ“เขื่อนขุนด่านปราการชล” และ “แม่น้ำนครนายก” เลยจึงถือโอกาสเอาเรือคยัคผูกติดหลังคารถมาด้วย เพราะมี “แม่น้ำนครนายก” ต้นน้ำอยู่ที่น้ำตกเหวนรก เขาใหญ่ ไหลผ่าน จ.นครนายก ไปรวมกับแม่น้ำบางปะกง ที่ ต.บางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี แม่น้ำนครนายก จึงเป็นต้นน้ำอีกสายหนึ่งของแม่น้ำบางปะกงและเป็นที่มาของขยะในแม่น้ำบางปะกง ซึ่งปล่อยขยะลงอ่าวไทย เป็นอันดับ 4 ด้วย…“ผมอยากพายเรือสำรวจแม่น้ำนครนายก มานานแล้ว ในที่สุด ก็ได้มาพายโดยเริ่มพายตั้งแต่ใต้เขื่อนขุนด่านปราการชล เป็นจุดที่เขาเริ่มพายเรือยาง ล่องแก่งกัน...ผมเริ่มพาย 7 โมงเช้า ในแม่น้ำจึงมีแต่เรือผมลำเดียวที่พายฝ่าคลื่นของแก่งต่างๆที่มีเป็นระยะๆ แต่ก็เป็นแก่งที่ไม่สูงหรือใหญ่มาก พายผ่านไปได้แบบสนุก ตื่นเต้น มีหวาดเสียวหน่อย โดยเฉพาะช่วงผ่านแก่งสามชั้น อันโด่งดัง ผมไม่แปลกใจแล้วว่าทำไม นักพายเรือไวท์วอเตอร์จึงชอบไปพายเรือที่นี่กันมาก”...รองอธิการบดีนักพายเรือ เล่าอีกว่า“แม่น้ำนครนายกสวยจริงครับ แม้จะมีรีสอร์ทมากโดยเฉพาะช่วงใต้เขื่อน แต่ธรรมชาติยังสวยงาม สองฝั่งยังมีต้นยางนาขนาดใหญ่เหลืออีกมาก เสียอย่างเดียวผมเจอขยะมากพอสมควร ตรงกลางแม่น้ำไม่ค่อยเจอหรอกครับ เพราะน้ำไหลค่อนข้างแรง แต่จะเจอริมตลิ่ง ตรงที่กระแสน้ำพัดไปติด ที่เจอมากที่สุดคือกล่องโฟม ขวดน้ำพลาสติกและขวดน้ำอัดลม ส่วนใหญ่ก็คงถูกทิ้งลงมาโดยคนที่มาเที่ยว แล้วก็ยังเจอกระทงโฟม อันใหญ่ๆ อีกหลายอัน…และได้พายไปถึงวัดหนองโพธิ์ เป็นที่ตั้งของ “ตลาดน้ำประชารัฐ” ที่ดูท่าจะร้างไปแล้วเพราะไม่มีคนเลย ทั้งคนขาย คนซื้อ ระยะทางทั้งหมด 21 กิโลเมตร ระหว่างทาง ผมเก็บขยะขึ้นมาได้ไม่ใช่น้อย ที่ติดอยู่ตามกอไผ่ และตามโค้ง ที่เก็บไม่ไหว ก็ยังมีอีกมาก ผมเลยอยากชวนคนนครนายกให้มาช่วยกันเก็บขยะในแม่น้ำนครนายกกันครับ โดยเฉพาะตามกอไผ่ ที่ขยะลอยไปติด ถ้าใครจะจัดบอกมาได้เลยนะครับ ผมจะไปช่วยครับ...แต่เก็บเท่าไหร่ ก็ไม่หมดหรอกครับ ถ้ายังมีคนทิ้งขยะลงแม่น้ำกันอยู่ ดังนั้น เราต้องช่วยกันรณรงค์ให้คนมาเที่ยวแม่น้ำนครนายก รวมถึงคนนครนายกที่อยู่สองฝั่งแม่น้ำด้วย ให้เลิกทิ้งขยะลงแม่น้ำกันครับ”ดังนั้น“ถ้าใครลงมาเก็บขยะสักครั้งหนึ่งแล้ว เขาจะเลิกทิ้งขยะลงแม่น้ำ”ซึ่งเป้าหมายที่แท้จริงคืออยากให้คนไทยเลิกทิ้งขยะลงแม่น้ำ อย่างยั่งยืน...ขอเป็นกำลังใจและร่วมรณรงค์นะครับ...nn

nn...ยืนหยัดเดินตามศาสตร์พระราชาอย่างแน่วแน่ เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่อย่างยั่งยืน “อ.ยักษ์” วิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตรและสหกรณ์ เดินทางร่วมเป็นสักขีพยาน ในการประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือของภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อน “เกษตรอินทรีย์วิถีสำโรง” อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี พร้อมมอบนโยบายการขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืนและ “เกษตรอินทรีย์” ที่วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ บ้านหนองมัง ต.โนนกลาง อ.สำโรง โดยบอกว่าอุบลราชธานี เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทำ“เกษตรอินทรีย์” มีปัจจัยสนับสนุนสามารถส่งเสริมการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ให้สำเร็จได้ มีทั้งสถาบันการศึกษา ที่ให้การสนับสนุน ด้านวิชาการและการบริการด้านเกษตรอินทรีย์ มีผู้ประกอบการที่ผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์ รวมทั้งมีตลาดภายในจังหวัดที่รองรับผลผลิตได้..“ที่สำคัญคือความร่วมมือของทุกภาคส่วนจะเป็นสิ่งสำคัญที่ผลักดันให้อุบลราชธานีประสบความสำเร็จได้ โดยอุบลราชธานีมีพื้นที่ทั้งหมด 10 ล้านไร่ แบ่งเป็นพื้นที่การเกษตร 5.8 ล้านไร่..การส่งเสริม “เกษตรอินทรีย์” เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรฯส่งเสริมและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ให้เป็นรูปธรรม..กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 มี 4 จังหวัด ทั้งอุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร และอำนาจเจริญ ร่วมลงนามความร่วมมือในการเพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ 1 ล้านไร่ ในปี 2564...โดยเฉพาะอุบลราชธานีมีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ 2 แสนไร่ ในปี 2564 พร้อมจัดทำ Road Map การขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ภายใต้ยุทธศาสตร์ “อุบลราชธานีแห่งเกษตรอินทรีย์” เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้...หากได้รับความร่วมมืออย่างจริงจัง “เกษตรอินทรีย์” จะทำให้มีความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน...nn