เมื่อเวลา 06.50 น.วันนี้ (2 ก.พ.62) นายมงคล ลิ่ววิริยกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง ได้รับแจ้งจากราษฎร หมู่ที่ 7 บ้านในไร่ ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ว่า มีเต่าทะเลขึ้นวางไข่บริเวณหาดบ่อดาน (หินช้าง) ไปทางทิศใต้ประมาณ 200 เมตร จึงได้ประสานงานกับนายปรารพ แปลงงาน หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จังหวัดภูเก็ต ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 8 (พังงา) นายประภาส ขุนพิทักษ์ นายอำเภอท้ายเหมือง และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาเตย เข้าร่วมตรวจสอบ
พบมีร่องรอยการขึ้นวางไข่ของเต่าทะเลที่พิกัด UTM 0419385 E 0919814 N (นอกเขตอุทยานฯ) จึงได้ทำการตรวจวัดขนาดความกว้างของพาย วัดได้ 78 เซนติเมตร และประเมินแล้วว่าหลุมไข่เต่าน้ำทะเลท่วมถึง จึงได้ทำการขุดเปิดหลุมลึกลง 25 เซนติเมตร พบไข่เต่าทะเลชนิดเต่าหญ้า ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไข่เต่าประมาณ 3-4 เซนติเมตร จึงทำการเคลื่อนย้ายใส่ภาชนะนับจำนวนได้ 81 ฟอง และได้ทำการเคลื่อนย้ายไปทำหลุมฟักใหม่ ที่ศูนย์เฝ้าระวังและติดตามการขึ้นวางไข่ของเต่าทะเลที่บริเวณหน้าวัดท่าไทร เพื่อทำการเพาะฟักตามธรรมชาติ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 45 วัน และได้ส่งมอบให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งดูแลต่อไป
จากการตรวจสอบสถิติการขึ้นวางไข่ของเต่าหญ้าในเขตอุทยานฯ ย้อนหลัง พบว่ามีบันทึกเต่าหญ้าขึ้นวางไข่ครั้งสุดท้าย เมื่อปี พ.ศ.2539 หลังจากนั้นไม่มีสถิติพบการขึ้นวางไข่อีกเลย
ในการนี้มูลนิธิอนุรักษ์เต่าทะเลหาดไม้ขาวและกองทุนอนุรักษ์เต่าทะเลและถิ่นอาศัย ได้มอบเงินรางวัลค่าตอบแทนให้กับผู้แจ้งการพบรังไข่เต่าทะเล โดยมอบให้กับนายส้าหาด สีระยาชาวบ้านในพื้นที่เป็นจำนวน 10,000 บาท
สำหรับ เต่าหญ้า หรือ เต่าสังกะสี หรือ เต่าหญ้าแปซิฟิก (อังกฤษ: Olive ridley sea turtle, Pacific ridley) เป็นเต่าทะเลชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lepidochelys olivacea เป็นเต่าทะเลขนาดเล็ก มีความยาวเต็มที่ประมาณ60-70 เซนติเมตร น้ำหนักเมื่อโตเต็มที่ประมาณ 30-40 กิโลกรัม กระดองมีสีเขียวมะกอกหรือสีน้ำตาล เกล็ดบนกระดองมีลักษณะซ้อนกันเหมือนสังกะสีมุงหลังคา อันเป็นที่มาของอีกชื่อเรียกหนึ่ง
ส่วนท้องมีสีเหลืองออกขาว หัวค่อนข้างโต ดวงตาปูนโปนออกมา กระดองมีความแข็งมาก ริมฝีปากสั้นทู่และคมแข็งแรงมากเพื่อใช้สำหรับขบกัดกินสัตว์มีกระดองซึ่งเป็นอาหารหลัก ส่วนของกระดองและท้องเชื่อมต่อกัน เป็นเต่าทะเลที่ว่ายน้ำได้เร็วมาก โดยอาจว่ายได้ถึง 35 กิโลเมตรต่อหนึ่งชั่วโมง ในน่านน้ำไทยจะพบได้ในฝั่งทะเลอันดามัน ในอ่าวไทยจะพบได้น้อยกว่า จัดเป็นเต่าทะเลอีกชนิดหนึ่งที่พบได้น้อยมากในน่านน้ำไทยจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี