4 ก.พ.62 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังพบปะและเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประกอบการและแรงงานไทยที่ประกอบอาชีพด้านอาหารไทย ณ เมือง Hausach สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีว่า ปัจจุบันในเยอรมนีมีร้านอาหารไทยกว่า 600 แห่ง และอาหารไทยได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังพบด้วยว่าในต่างประเทศยังมีความต้องการในตำแหน่งพ่อครัวแม่ครัวไปทำงานอีกกว่า 4,000 คน
อย่างไรก็ตาม แรงงานไทยที่ทำงานในเยอรมนียังต้องการที่จะพัฒนาทักษะ โดยเฉพาะด้านภาษาเพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างถูกต้อง ซึ่งกระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มีความพร้อมจะขับเคลื่อนตามนโยบาย 3A ของกระทรวงในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ด้วยการสร้างแรงงานคุณภาพ โดยจัดให้มีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานให้กับแรงงานไทยในต่างประเทศ ซึ่งในปีนี้ มีเป้าหมายดำเนินการจำนวน 200 คน ในสาขาที่มีความต้องการในต่างประเทศ ได้แก่ สาขาการประกอบอาหารไทย พนักงานนวดไทย สปาตะวันตกและไทยสัปปายะ
โดยก่อนการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติในแต่ละสาขานั้นจะมีการให้ความรู้เพื่อเตรียมความพร้อม เช่น การให้ความรู้ด้านภาษา กฎหมายแรงงาน และการประกอบธุรกิจในเยอรมนี เป็นต้น จากการติดตามผลผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ระดับ 1 สาขาการประกอบอาหารไทย พบว่าแรงงานไทยมีความก้าวหน้าในอาชีพ มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่าเดือนละ 10,000 บาท
นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กล่าวเพิ่มเติมว่า จำนวนแรงงานไทยที่ผ่านการทดสอบตั้งแต่ปี 2554-2561 มีทั้งสิ้น 2,614 คน สำหรับในปีนี้มีผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาผู้ประกอบอาหารไทยแล้ว 88 คน ประกอบด้วยการทดสอบฯ ในไต้หวันจำนวน 60 คน และเนเธอร์แลนด์อีก 28 คน นอกจากนี้ ยังมีแผนจะไปทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติในประเทศเดนมาร์ก สเปน และญี่ปุ่นอีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี