วันพฤหัสบดี ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
อัศจรรย์!! อัญเชิญพระอุปคุตอรหันต์ฤทธาสูง เปิดงานนมัสการพระธาตุพนม 62

อัศจรรย์!! อัญเชิญพระอุปคุตอรหันต์ฤทธาสูง เปิดงานนมัสการพระธาตุพนม 62

วันอังคาร ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562, 10.29 น.
Tag : งานนมัสการพระธาตุพนม อัญเชิญพระอุปคุต อัศจรรย์
  •  

12 ก.พ.62 เวลา 08.00 น. บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ท่าเทียบเรือข้ามฟากระหว่างประเทศไทย-ลาว อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ของอำเภอ พระเทพวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครพนม และเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.ฯ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ นำพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย-ลาว นับแสน ที่เบียดเสียดกันเต็มริมตลิ่งจนไม่มีที่เดิน ตลอดจน "ข้าโอกาส" พระธาตุพนม ร่วมประกอบพิธีอัญเชิญพระอุปคุตจากใต้บาดาลแม่น้ำโขง หลังอัญเชิญก็จะแห่ไปตามถนนกุศลรัษฎากร เพื่อนำไปประดิษฐาน ณ วิหารหอพระแก้ว ด้านหน้าองค์พระธาตุพนมฯ ซึ่งพิธีดังกล่าวเป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ

 


 

พิธีเริ่มตามฤกษ์เวลา 08.00 น. พระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถา จากนั้น ผวจ.นครพนมกล่าวคำอัญเชิญพระอุปคุต ที่ตามตำนานกล่าวว่าท่านจำศีลภาวนาอยู่ใต้บาดาล โดยมีผู้ดำน้ำลงไปอัญเชิญ จำนวน 5 คน ประกอบด้วย พล.ต.ปราโมทย์ นาคจันทึก ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม(ผบก.ภ.จว.ฯ) น.อ.อภิชาติ แก้วดวงเทียน ผู้บังคับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตนครพนม(ผบ.นรข.เขตฯ) นายชัยวัฒน์ ชัยเวชพิสิฐ นายอำเภอธาตุพนม และนายประสาท ทัศดร รักษาการพัฒนาการจังหวัดฯ เพื่อนำมาส่งให้แก่ ผวจ.นครพนมที่ยืนรออยู่บนปะรำพิธี ซึ่งกลางลำแม่น้ำโขงมีเรือรักษาความปลอดภัยจาก 3 หน่วยงาน คือ นรข. ตำรวจน้ำ และกรมเจ้าท่า

 

 

พิธีสำคัญนี้จะจัดขึ้นทุกปี ก่อนเปิดงานนมัสการองค์พระธาตุพนม (ชาวอีสานเรียกว่างานบุญเดือนสาม) เพื่อขอให้พระอุปคุต พระอรหันต์ผู้มีฤทธานุภาพสูง ในตำนานระบุว่าท่านอยู่ในสมัยแผ่นดินของพระเจ้าอโศกมหาราชขึ้นครองราชย์ หรือหลังพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานไปแล้ว 200 ปี

ตำนานเล่าว่าท่านเป็นพระอรหันต์ที่ลงไปจำพรรษาถือศีลปฏิบัติธรรมอยู่ใต้บาดาล (สะดือทะเล) ดังนั้นการอัญเชิญจึงสมมุติว่าแม่น้ำโขงคือสะดือทะเลที่อยู่ของพระอุปคุตจำศีลภาวนา เพื่อให้ท่านมาช่วยคุ้มครอง ปกปักรักษา ปกป้องภยันตรายไม่ให้เกิดขึ้น จนกว่างานนมัสการองค์พระธาตุพนมจะสำเร็จลุล่วง ซึ่งในปีนี้งานนมัสการฯจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-20 ก.พ. (9 วัน 9 คืน) ในริ้วขบวนแห่บนถนนกุศลรัษฎากร เนืองแน่นด้วยเหล่าพุทธศาสนิกชนทั้งไทยและลาว โรยดอกไม้หอมดอกไม้มงคลตลอดเส้นทางการอัญเชิญ

 

 

ส่วนในช่วงบ่าย เวลา 15.30 น. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน จะเดินทางมาเป็นประธานพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ และพระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมฯ นำประกอบพิธีสักการบูชา เวียนเทียนรอบองค์พระธาตุพนม หลังเสร็จสิ้นพิธีเปิดจะเป็นการรำตำนานพระธาตุพนม ที่ปรับปรุงมาจากการฟ้อนรำแห่กองบุญ ในเทศกาลงานนมัสการพระธาตุพนม โดยนำเอาบทสวดสดุดีองค์พระธาตุพนม ทำนองสรภัญญะ มาประกอบกับวงดนตรีมโหรี ในเนื้อร้องมีการกล่าวถึงตำนานและความพิสดารขององค์พระธาตุพนม ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างปี พ.ศ.8 เป็นต้นมา

พระธาตุพนม ถือเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมายาวนาน มีอายุเก่าแก่ถึง 2,500 ปี ภายในมีการบรรจุพระอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้า ตำนานกล่าวว่าสร้างเมื่อปี พ.ศ.8 โดยพระมหากัสสปะ ผู้เป็นสาวกได้อัญเชิญพระอุรังคธาตุ เข้าบรรจุภายในที่อันสมควร แล้วให้ปิดประตูอุโมงค์ไว้ทั้ง 4 ด้าน โดยสร้างประตูด้วยไม้ประดู่ ใส่ดาลปิดไว้ทั้ง 4 ด้าน แล้วให้คนไปนำเอาเสาศิลาจากเมืองกุสินารา 1 ต้น มาฝังไว้ที่มุมเหนือตะวันออก แปลงรูปอัศมุขี (ยักษิณีหน้าเป็นม้า) ไว้โคนต้นเพื่อเป็นหลักชัยมงคลแก่บ้านเมืองในชมพูทวีป

 

 

จากนั้นได้นำเอาเสาศิลาจากเมืองพาราณสี 1 ต้น ฝังไว้มุมใต้ตะวันออก แปลงรูปอัศมุขีไว้โคนต้น เพื่อหมายมงคลแก่โลก นำเอาเสาศิลาจากเมืองตักศิลา 1 ต้น ฝังไว้มุมเหนือตะวันตก ส่วนพญาสุวรรณพิงคาระให้สร้างรูปม้าอาชาไนยไว้ตัวหนึ่ง หันหน้าไปทางทิศเหนือ เพื่อแสดงว่าพระบรมธาตุเสด็จออกมาทางทิศทางนั้น และพระพุทธศาสนาจักเจริญรุ่งเรืองจากเหนือเจือมาใต้ แล้วพระมหากัสสปะก็ให้สร้างม้าพลาหกไว้ตัวหนึ่งมาคู่กัน หันหน้าไปทางทิศเหนือ เพื่อเป็นปริศนาว่า พญาศรีโคตบูรจักได้สถาปนาพระอุรังคธาตุไว้ตราบเท่า 5,000 พระวัสสา เกิดทางใต้และขึ้นไปทางเหนือ ซึ่งเสาอินทขีลศิลาทั้ง 4 ต้นที่กล่าวมาข้างต้น ยังปรากฏเป็นหลักฐานอยู่ 2 ต้น ทางทิศตะวันออก ส่วนอีก 2 ต้นนั้น ได้ก่อหอระฆังหุ้มไว้ ส่วนม้าศิลาทั้ง 2 ตัว ก็ยังปรากฏอยู่ถึงปัจจุบัน ซึ่งองค์พระธาตุพนมยังเป็นพระธาตุประจำของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ และคนที่เกิดปีวอก

 

 

สำหรับงานนมัสการองค์พระธาตุพนมถือเป็นประเพณีสำคัญสืบทอดมาอย่างยาวนาน  โดยชาวพุทธทั้งไทยและชาวลาวเชื่อถือสืบกันมา กล่าวกันว่าถ้าใครมีโอกาสเดินทางไปกราบไหว้พระธาตุพนม ถวายเครื่องสักการบูชาหน้าองค์พระธาตุด้วยตนเองแล้ว จิตใจจะสงบเยือกเย็นอย่างน่าอัศจรรย์ ถ้ายังไม่บรรลุนิพพานในชาตินี้ เมื่อเสียชีวิตไปแล้ววิญญาณก็จะได้ไปสู่สวรรค์ ชาวพุทธในถิ่นนี้ถือกันว่าองค์พระธาตุพนมไม่เพียงแต่จะเป็นเจดีย์ที่บรรจุพระอุรังคธาตุเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ซึ่งครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเมื่อยังทรงพระชนม์อยู่ ได้เสด็จมาประทับแรมอยู่หนึ่งราตรีอีกด้วย ทำให้ทุกปีจะมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศของไทยและเทศ ต่างดั้นด้นเดินทางกันมาร่วมพิธีมากมายนับแสนคน จัดเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน

 

 

ส่วนคำว่า "ข้าโอกาส” กล่าวกันว่าเกิดขึ้นราว พ.ศ.500 ในสมัยเจ้าพระยาสุมิตตธรรมวงศา ผู้ครองเมืองมรุกขนคร ท่านทรงมีความเสื่อมใสศรัทธาต่อองค์พระธาตุพนมยิ่งนัก จึงเกณฑ์ไพร่พลร่วมกันบูรณะจนแล้วเสร็จ จึงเกิดคำว่า "ข้าโอกาส” เป็นข้าอุปัฏฐากพระธาตุพนม ติดปากมาถึงปัจจุบัน ซึ่งผู้ที่เดินทางไปนมัสการองค์พระธาตุพนม จะเห็นข้าโอกาสสวมชุดสีขาว คอยปัดกวาดเช็ดถูทำความสะอาด เก็บสิ่งของ หรือจัดดอกไม้รอบองค์พระธาตุพนม นั่นคือข้าโอกาสผู้อุทิศตนเป็นสาวกรับใช้ใกล้ชิดกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

พิพิธภัณฑ์เด็กกทม.1 จตุจักร ชวนมาเป็นนักสำรวจตัวจิ๋ว สัปดาห์วิทยาศาสตร์ 12-17 ส.ค.นี้

‘ภูมิธรรม’มอบนโยบายมหาดไทย ลั่นไม่ได้ข่มขู่-อำนาจบาตรใหญ่ แต่มีแกะดำมาเป็นราชการ​

ไม่ใช่ความผิดรัฐบาล! ‘ธีรรัตน์’โยนบาปเป็นความผิดพลาดของ‘จ.อุบลราชธานี’

ยังไม่ย้าย! บุรีรัมย์ยันใช้สนามเดิมแข่งทั้งฤดูกาล

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved