ความคืบหน้ากรณีนางบังอร สิงห์โตทอง ชาวบ้านจาก ต.ตะหลุก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท นำสมุดบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งมีสาขาอยู่บนถนนวงษ์โตในตัวเมืองชัยนาท โดยเป็นชื่อบัญชีของนายทองดี อินทร์ยัง สามีเข้าร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับรายการถอนเงินปริศนาที่เริ่มครั้งแรกเมื่อปี 2554 และมีต่อเนื่องมาทุกปี ปีละครั้งบ้าง 2-4 ครั้งบ้าง รวมๆ แล้ว 11 ครั้งทำให้มียอดถอนออกไปกว่า 85,000 บาท ทั้งๆ ที่นายทองดี ไม่ได้ทำรายการเบิกถอนเลยแม้แต่ครั้งเดียว แถมเมื่อไปสอบถามทางธนาคารก็ถูกข่มขู่ว่าจะฟ้องกลับอีกด้วย จึงอยากให้หน่วยงานที่มีอำนาจได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือและตรวจสอบ
ล่าสุดวันนี้ (18 ก.พ.) นางบังอร สิงห์โตทอง เดินทางไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท พบกับนางสาวพรเพ็ญ โตประเสริฐ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท เพื่อขอคำปรึกษาและหาข้อยุติเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว และขอความเป็นธรรมให้กับตนที่หาเช้ากินค่ำ เงินฝากที่จะเก็บไว้กินตอนแก่ และรักษาสามีที่ป่วยเส้นเลือดในสมองแตกช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แล้วเมื่อปีก่อน แต่เงินกลับต้องมาสูญหายอย่างไร้ร่องรอย
โดยนางสาวพรเพ็ญ โตประเสริฐ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้เชิญทางธนาคารที่สามีนางบังออร เปิดบัญชีไว้ มาชี้แจงข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น โดยทางธนาคารรับปากว่าจะนำเอกสารหลักฐานมาชี้แจง ภายในวันนี้ พร้อมทั้งได้เชิญอัยการคุ้มครองสิทธิมาเพื่อให้ความเป็นธรรม และเป็นตัวกลาง ในการเจรจาหาข้อยุติ คลายข้อสงสัย ในเรื่องนี้ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี