21 ก.พ.62 พล.อ.ต.วันชัย บุญภักดี ที่ปรึกษา ผอ.รมน.ภาค 4, พ.อ.นุกูล ดำสุวรรณ หัวหน้าชุดกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 4 พื้นที่เกาสมุย, นายณะรบ ทวยเจริญ ประธานสภาเทศบาลนครเกาะสมุย, พ.ต.ท.ศุภสัณห์ สุขแก้ว สารวัตร(สอบสวน) สภ.เกาะสมุย นำกำลังเข้าตรวจสอบโรงแรมมูนฮัท พื้นที่ ม.1 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หลังถูกร้องเรียนว่ามีการก่อสร้างอาคารรุกล้ำพื้นที่และลำรางสาธารณะและไม่มีใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจโรงแรม
จากการตรวจสอบทราบว่าโรงแรมดังกล่าวมาก่อสร้างในที่ชายหาดสาธารณะบนเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ และเปิดกิจการเป็นโรงแรมให้บริการแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ มีที่พักเป็นอาคารไม้ยกพื้นสูง เรียงรายกันถัดจากชายหาดทะเลจำนวน 20 หลัง และอาคารชั้นเดียวติดชายหาดเปิดเป็นร้านอาหารจำนวน 1 หลัง ทางด้านหลังของอาหารร้านอาหารมีร่องน้ำคล้ายลำรางมีน้ำขัง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พบกับนางขวัญเรือน แบนน็อค อายุ 53 ปี รับเป็นเจ้าของกิจการโรงแรมมูนฮัท โดยจดทะเบียนบริษัทในชื่อ บริษัท เอ.เค.เอ.เทรดดิ้ง จำกัด และเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ให้การว่าตนได้ทำสัญญาเช่าที่ดินโฉนดเลขที่ 4886 พร้อมสิ่งปลูกสร้างจากนางชีพ ภู่ศิริวัฒน์ เจ้าของที่ดิน โดยตนได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจโรงแรมชื่อ มูนฮัท ตามใบอนุญาตเลขที่ 50/2556 ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2556 ถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2561 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการยื่นคำขอต่อใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ณ ที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย
นางขวัญเรือน ยังบอกอีกว่า ตอนทำสัญญาเช่าที่ดินก็รู้ว่าที่ดินแปลงนี้เป็นที่งอกส่วนเกินติดกับที่ดินโฉนดก็เลยมาทำบังกะโลและร้านอาหารในที่ดินแปลงนี้ ส่วนที่ดินที่เช่าตามโฉนดตนไม่ได้เข้าไปทำธุรกิจในที่ดินแปลงนั้น
ด้านเจ้าหน้าที่ได้แจ้งกับนางขวัญเรือนว่า ในสัญญาเช่าที่ดินของนางขวัญเรือน กับเจ้าของที่ดินที่ทำสัญญาเช่า 15 ปีนั้นจะเป็นที่ดินที่เป็นเอกสารสิทธิ์โฉนด แต่นางขวัญเรือน กลับมาสร้างบังกะโลประกอบกิจการในที่ดินที่อยู่นอกโฉนด ซึ่งที่ดังกล่าวยังเป็นชายหาดสาธารณะ ซึ่งเป็นคนละแปลงกัน
ด้านนายณะรบ ทวยเจริญ ประธานสภาเทศบาลนครเกาะสมุย เปิดเผยว่า อันดับแรกในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเทศบาลก็คือเรื่องใบอนุญาตก่อสร้างตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 พบว่ามีการก่อสร้างผิดสถานที่ โดยสถานที่ขออนุญาตก่อสร้างจะอยู่ในที่ดินอีกฝั่งหนึ่งจะมีคลองกั้นอยู่ แต่ได้มาก่อสร้างในฝั่งที่ติดกับทะเล และใบอนุญาตประกอบกิจการร้านอาหาร หรือสถานที่อันเป็นที่น่ารังเกียจต่างๆ เหล่านี้ ตามกฎหมายจะต้องยื่นขออนุญาตต่อทางเทศบาล ร่วมถึงการปล่อยน้ำเสียตรงลงชายหาดที่เป็นสถานที่สาธารณะ
และที่ดินแปลงนี้เดิมเป็นพื้นที่เป็นชายหาดมีคลองกั้นกลางระหว่างที่ดินที่ชาวบ้านอาศัยอยู่กับชายหาดสาธารณะ หลังจากนี้ทางเทศบาลนครเกาะสมุยจะให้ทางนิติกรไปประสานทางสำนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย เข้ามาสำรวจรังวัดแนวเขตที่ตั้งของมูนฮัทบังกะโล ให้แน่ชัดอีกครั้งว่าอยู่ในที่ดินโฉนดเลขที่ 4886 หรือไม่ ภายในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ หากพบว่ามีการก่อสร้างรุกล้ำเข้าไปในที่สาธารณะให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี