วินาทีประทับใจหนุ่มขับรถเก๋งชนร้านเฟอร์นิเจอร์และแม่ก้มลงกราบเท้าเจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์ พร้อมนำดอกมะลิมาขอขมา หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายเจอหน้ากันครั้งแรกที่ สภ.คอหงส์ เจ้าของร้านให้อภัยทุกคนด้วยรอยยิ้ม เผยไม่เคยโกรธและให้อภัยตั้งแต่วันแรก ส่วนเรื่องค่าเสียหาย 80 ล้านคงจะให้จ่ายเท่าที่มีความสามารถจะจ่ายได้
ความคืบหน้าคดีรถเก๋งเมาซิ่งชนร้านเฟอร์นิเจอร์บากกอกลิฟวิ่งมอลล์ใน อ.หาดใหญ่ สงขลาเมื่อคืนวันที่ 18 ก.พ.62 ที่ผ่านมาและไฟเกิดลุกไหม้รถและลุกลามไหม้ร้านเฟอร์นิเจอร์และสินค้าเสียหายหมดทั้งร้านมูลค้าประมาณ 80 ล้านบาท
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 17.30 น.วันนี้ (23 ก.พ.) ที่ สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทางพนักงานสอบสวนได้นัดคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาพบกันเป็นครั้งแรกเพื่อเจรจาเรื่องค่าเสียหายโดยนายพฤหัส แซ่จิว อายุ 26 ปี หรือ แบงค์ ได้มาพร้อมกับพ่อและแม่และยังอยู่ในอาการบาดเจ็บมีผ้าพันแผลที่ใบหน้าและที่คิ้วซ้ายที่จมูกและที่มือรวมทั้งสวมหน้ากากอนามัย พร้อมกับเตรียมดอกไม้มาขอขมาเจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์
และวินาทีและความประทับใจและความซึ้งใจก็เกิดขึ้น เมื่อนายอัชอารีย์ วันอับดุลเลาะฮ์ เจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์เดินทางเข้ามายังห้องพนักงานสอบสวนและทั้งสองฝ่ายได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรก ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกได้ยกมือไหว้ นายอัชอารีย์ เพื่อขอโทษ โดยเฉพาะนายพฤหัส กับนางนงลักษณ์ ซึ่งเป็นแม่ถึงกับทรุดตัวก้มลงกราบเท้า นายอัชอารีย์ และร้องให้พร้อมกับคำขอโทษตลอดเวลา
ในขณะที่นายอัชอารีย์ ก็รับคำขอโทษและพยายามที่จะพยุงร่างของทั้งสองแม่ลูกขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และยังบอกว่าได้ให้อภัยตั้งแต่วันแรกแล้วไม่เคยถือโทษโกรธแค้น และความผิดพลาดทั้งหมดก็ได้เกิดขึ้นมาแล้ว และหาวิธีแก้กันต่อไป และบอกให้นายพฤหัส รวมทั้งพ่อและแม่ไม่ต้องเครียดและให้อภัยทุกคนด้วยความเต็มใจ และนายพฤหัส ก็ได้มอบพวงมาลัยดอกมะลิ เพื่อแสดงความขอโทษด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ในขณะที่นายพฤหัส เองก็กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตัวเองเครียดมากทำอะไรไม่ถูกและที่ผ่านมาก็คิดที่จะมาพบและขอโทษแต่เครียดมากไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร และขออภัยทุกอย่างกับสิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะชดเชยความเสียหานที่เกิดขึ้นได้อย่างไร
จากนั้นทั้งสามคนก็ได้มานั่งร่วมโต๊ะเดียวกัน โดยนายอัชอารีย์ เปิดเผยว่า การที่น้องและครอบครัวมาขอโทษตนเองก็อภัยให้ด้วยความเต็มใจ ส่วนเรื่องขอความเสียหายหลังจากนี้ก็จะคุยกันว่าตัวน้องและครอบครัวจะว่าอย่างไร ซึ่งตนเองก็พร้อมที่จะเจรจาตั้งแต่แรกแล้วส่วนเรื่องของการอภัยก็อภัยให้หมดแล้ว เพราะความผิดพลาดมันเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ในขณะที่น้องแบงค์ ได้ยกมือไหว้ และกล่าวว่า ขอโทษในทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น
นายอัชอารีย์ กล่าวว่า ในส่วนของเรื่องค่าเสียหายจำนวน 80 ล้านบาทนั้นก็จะคุยกันก่อนว่าทางครอบครัวนี้มีความสามารถที่จะจ่ายได้แค่ไหน แล้วค่อยมาว่ากันแต่คงจะให้จ่ายเท่าที่จะจ่ายได้ ส่วนเรื่องคดีแพ่งก็ต้องว่ากันอีกทีหลังจากที่ได้ข้อสรุปหลังจากที่มีการคุยกันแล้ว และมีประโยคหนึ่งที่นายอัชอารีย์ บอกกับครอบครัวว่า เราอยู่ในโลกใบเดียวกันก็เหมือนอยู่บ้านเดียวกัน
ส่วนทางคดีพนักงานสอบสวนได้แจ้งดำเนินคดี นายพฤหัส ใน 2 ข้อหาคือ ขับรถประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย และขับรถขณะเมาสุรา ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและจะคุมตัวส่งฟ้องศาลในวันจันทร์ และในวันนี้นอกจากคู่กรณีทั้งสองฝ่ายจะมาพบและคุยกันเรื่องค่าเสียหายแล้ว ยังมีเจ้าของร้านเหล็กที่อยู่ติดกันซึ่งได้รับความเสียหายราว 1 ล้าน5 แสนบาทก็มาเจรจาเรื่องค่าเสียหายด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี