24 ก.พ.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเป็นข่าวที่ปรากฏภาพพระภาวนารัตนญาณ (ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต) เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เข้ารับการประกอบพิธียกยอราชครูแห่งเมืองยอง รัฐฉาน ประเทศเมียนมา โดยมีการสวมมงกุฎที่ทำจากทองคำแท้หนัก 32 บาท แผ่นทองคำบริเวณบ่าซ้ายหรือสังฆาฏิหนัก 10 บาท และสุพรรณบัตร 5 บาท โดยปรากฎเป็นภาพในสื่อสาธารณะมากมาย จนทำให้พระรัตนมุนี (ปุณณมี วิสารโท) รักษาการเจ้าคณะ จ.เชียงราย ได้มีคำสั่งให้เจ้าคณะอำเภอแม่สรวย ตั้งคณะทำงานดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงและมีหนังสือชี้แจงโดยให้รายงานผลต่อเจ้าคณะจังหวัดภายในวันที่ 25 ก.พ2562
ล่าสุดทางคณะสงฆ์ จ.เชียงราย นำโดยพระรัตนมุณี ยังคงไม่เปิดเผยเรื่องดังกล่าวใดๆ ต่อสาธารณะโดยให้ทางคณะกรรมการและการชี้แจงไปตามขั้นตอน
ทั้งนี้พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ใน จ.เชียงราย กล่าวว่าสำหรับพิธีดังกล่าวภาพและข้อความที่ปรากฏในสื่อสาธารณะตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.2562 จนกลายเป็นประเด็นขึ้นมาภายหลัง ซึ่งพิธีกรรมดังกล่าวก็เป็นประเพณีปฏิบัติที่กระทำกันในฝั่งของประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงคือในเขตรัฐฉานมานานแล้ว ที่ผ่านมาก็มีการกระทำกันเป็นปกติแต่เนื่องจากไม่มีพระสงฆ์จากฝั่งไทยเข้าไปร่วมจึงไม่เป็นประเด็นขึ้นมา จึงเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหาบานปลายและจะยุติโดยเร็วหลังได้รับการชี้แจงแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศที่วัดแสงแก้วโพธิญานพบว่าบรรดาญาติโยม ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วไปยังคงแวะเวียนไปกราบสักการะและนมัสการครูบาอริยชาติอย่างเนืองแน่นเช่นเดิม ขณะที่มงกุฏและวัตถุอื่นๆ ที่ได้เกี่ยวข้องได้ถูกนำไปเก็บไว้ที่กุฏิของครูบาภายในวัดดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยทางครูบาอริยชาติได้ออกมารับญาติโยมที่มีความเป็นห่วงและมีทั้งผู้เดินทางไปไต่ถามเรื่องราวหรือแม้แต่พระผู้ใหญ่จากเมืองยองหรือในประเทศไทยโทรศัพท์ไปสอบถาม ขณะที่ครูบาอริยชาติ พึ่งออกจากการปฏิบัติธรรมเข้าอธิฐานจิตเข้ากรรมฐานในป่านาน 3 วันทำให้พึ่งทราบเรื่องราวดังกล่าว
โดยครูบาอริยชาติ เปิดเผยว่า พิธีดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมาเนื่องในวันมาฆบูชาและทางวัดพระธาตุเมืองยองได้จัดขึ้นโดยมีเมืองใหญ่จาก 8 เมืองเข้าร่วม เช่น เมืองไฮ เมืองท่าขี้เหล็ก หรือแม้แต่เชียงรุ่ง เขตสิบสองปันนา ประเทศจีน ฯลฯ มีพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมนับหมื่นคน พิธีมีพระสังฆราชาและพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่รวมทั้งผู้บริหารและพุทธศาสนิกชนที่เมืองยองร่วมกันจัดขึ้น และได้เชิญครูบาอริยชาติไปรับมอบสมณะศักดิ์ชั้นราชครู โดยมีการจัดพิธีเป็นพิเศษ ณ วัดพระธาตุเมืองยอง และมีการจัดหอเดื่อ การสรงน้ำ ฯลฯ จากนั้นมีการมอบมงกุฏ สังฆาฏิและสุรรรณบัตรชั้นราชครูให้ซึ่งตามประเพณีดังกล่าวก็จะมีการให้สวมมงกุฏด้วยโดยทองคำทั้งหมดได้จากการร่วมกันบริจาคของพุทธศาสนิกชนที่มีศรัทธาแรงกล้าแม้แต่พระสังฆราชาก็ร่วมบริจาคด้วยทองคำหนัก 15 บาท และหลังจากนั้นก็ไม่ได้มอบให้เพื่อนำไปสวมใส่หรืออย่างไรแต่ให้นำไปต่อบุญและถือเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมานับพันปีแล้วและในอดีตฝั่งภาคเหนือของไทยก็เคยมีแต่ก็ได้เลือนหายไปตามกาลเวลาเท่านั้น ดังนั้นเรื่องนี้จึงเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีและถือเป็นเกียรติของพระภิกษุฝั่งไทยเสียอีกที่ได้รับสมณะศักดิ์ดังกล่าวจากต่างประเทศและหากว่าไม่ศรัทธาเขาก็คงจะไม่มอบให้แน่นอน
ครูบาอริยชาติ เปิดเผยด้วยว่า ตามปกติสมณะศักดิ์ชั้นราชครูดังกล่าวจะมอบให้พระภิกษุที่มีพรรษาตั้งแต่ 40 พรรษาขึ้นไปหรือมีอายุอย่างน้อย 60 ปี แต่ครั้งนี้ทางคณะสงฆ์เมืองยองกลับให้เกียรติสูงสุดมอบให้กับตนทั้งๆ ที่มีอายุพรรษาได้ 18 พรรษา ซึ่งไม่เคยปรากฎมาก่อน เพราะตามปกติผู้จะได้รับสมณะศักดิ์ชั้นต่างๆ 7 ขั้น คือพระภิกษุที่พึ่งบวช ภิกษุที่บวชได้ 10 พรรษาเรียกว่าสาธุ ภิกษุที่บวชได้ 20 พรรษาเรียกว่าสาธิ ภิกษุที่บวชได้ 30 ปีเรียกว่าครูบา ภิกษุบวชได้ 40 พรรษาเรียกว่าชั้นราชครู ภิกษุที่บวชได้ 50 พรรษาก็จะเป็นชั้นสังฆราชาและชั้นสูงสุดซึ่งหาได้ยากคือชั้น 70 พรรษาขึ้นไปซึ่งมีอายุ 90 ปี้นไป สำหรับตนนั้นกลับได้รับสมณะศักดิ์ที่เมืองยองให้เป็นขึ้นราชครูซึ่งต่ำกว่าเพียงชั้นสังฆราชาเพียงขั้นเดียวเท่านั้นจึงแสดงว่าได้รับเกียรติอย่างมาก ดังนั้นเดิมเมื่อได้รับก็จะนำสิ่งที่ได้มาต่อยอดทำบุญเพราะไม่ได้มุ่งหวังสิ่งใดอยู่แล้วแต่บรรดาลูกศิษย์และญาติโยมให้เก็บรักษาเอาไว้เป็นเกียรติประวัติจึงได้เก็บไว้ดังกล่าว
"ฝั่งเมียนมาในพื้นที่ดังกล่าวต่างเป็นชาวไทลื้อ ไทเขิน ไทยอง ฯลฯ ที่เป็นพี่น้องกันและใช้ภาษาคล้ายกันสามารถสื่อสารด้วยภาษาไทยได้ รวมทั้งนับถือพระพุทธศาสนาเหมือนกันแล้วเขาก็มีประเพณีเช่นนี้มานับพันปี แม้แต่พระสงฆ์ฝั่งไทยก็เคยเข้ารับสมณะศักดิ์เช่นนี้มาแล้วหลายท่านแต่จะได้รับถึงชั้นสูงสุดแค่ชั้นครูบาเท่านั้นยังไม่มีผู้ได้สูงถึงระดับราชครู ดังนั้นจึงเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีมากกว่าและสาเหตุที่ตนได้รับเลือกเนื่องจากเคยไปทำบุญที่เมืองท่าขี้เหล็กติดกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และได้รับชักชวนให้ไปเมืองยองซึ่งกำลังจะเปลี่ยนยอดฉัตรจากเงินให้เป็นทองคำพอดีทำให้ได้ร่วมทำบุญและได้รับเชิญให้ไปรับสมณะศักดิ์ดังกล่าว ทั้งนี้ในวันประกอบพิธีก็มีผู้ถวายปัจจัยเป็นเงินบาทกว่า 300,000 กว่าบาทและเงินจั๊ตของเมียนมากว่า 10 ล้านจั๊ตซึ่งก็ถวายทำบุญที่วัดพระธาตุเมืองยองทั้งหมดแล้ว" ครูบาอริยชาติ กล่าว
ขณะที่วัดแสงแก้วโพธิญาณ ได้ออกหนังสือชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า ตามที่ปรากฏว่ามีการสวมมงกุฎทองคำนั้น เป็นการปฏิบัติตามธรรมเนียมประเพณี การถวายสมณศักดิ์ของชาวไทยลื้อเมืองยอง รัฐฉาน ประเทศพม่า จึงขอชี้แจงมาเพื่อโปรดทราบ
ด้านสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย ก็ได้ออกหนังสือชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวด้วยเช่นกัน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี