คลอดแล้ว‘ลูกเต่ามะเฟือง’หาดคึกคัก รังที่3ตาย 7 รอด 40 ตัวปล่อยลงสู่ทะเล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 11.00 น.วันที่ 2 มี.ค.62 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟือง หาดคึกคัก ได้ตรวจพบลูกเต่ามะเฟืองขึ้นมาจากหลุมฟักไข่ 1 ตัว และได้ตายลง คาดว่าสาเหตุเนื่องจากพื้นทรายมีอุณหภูมิสูง จึงนำทางมะพร้าวมาบังแสงบริเวณหลุมเพิ่มเติม และพรมน้ำ เพื่อลดอุณหภูมิ พร้อมสั่งเตรียมพร้อมรอเวลาฟัก
ทั้งนี้ ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน(ภูเก็ต) พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยเอก พงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอตะกั่วป่า นายประถม รัสมี ผอ.สบทช.8 และเจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 8 ได้ช่วยลูกเต่ามะเฟืองได้ขึ้นมาจากหลุม และได้ขุดช่วยเหลือ ปล่อยลงสู่ทะเลได้ทั้งหมดจำนวน 40 ตัว และรอการพักฟื้นจำนวน 4 ตัว จนแข็งแรงสามารถปล่อยคืนสู่ธรรมชาติเมื่อเวลา 21.30 น.และมีลูกเต่าตายจำนวน 7 ตัว เป็นไข่ไม่สมบูรณ์ไม่ได้รับการผสม จำนวน 13 ฟอง ซึ่งหลุมฝักไข่เต่ามะเฟืองนี้เป็นหลุมที่ 3 และหลุมสุดท้ายของแม่เต่ามะเฟืองที่ขึ้นมาว่างไข่ในพื้นที่จังหวัดพังงา จำนวน 64 ฟอง
ดร.ก้องเกียรติ กล่าวว่า สำหรับรางเต่ามะเฟืองรังที่ 3 ถือเป็นหลังสุดท้าย มีอัตราการรอดที่ประมาณ 86% ที่ได้ลูกเต๋าจำนวน 40 ตัว และมีลูกเต่าที่รอการพักฟื้น ที่นำปล่อยลงสู่ทะเล ซึ่งรังเต่ามะเฟืองทั้ง ลังที่ขึ้นมาวางไข่บริเวณชายหาด คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จำนวน 2 รัง และชายหาดวัดท่าไทร อ.ท้ายเหมือง จำนวน 1 รัง ซึ่งมีเต่ามะเฟืองที่สามารถ ลอดลงสู่ทะเลได้ทั้งหมดจำนวน กว่า 100 ตัว ทั้ง 3 รัง โดยเต่าตัวแม่ที่ขึ้นมาวางไข่จะกลับมาวางไข่อีกครั้งในช่วง 2-3 ปี โดยลูกเต่าที่ปล่อยลงสู่ทะเลจะไปโตในธรรมชาติ และจะกลับมา โดยใช้เวลา 15 ถึง 20 ปี
สำหรับเต่ามะเฟือง ถือว่าเป็นทูตทางธรรมชาติ ที่เข้ามาเยือน โดยทุกคนต้องช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเพื่อให้เป็นแหล่งวางไข่ของเต่ามะเฟืองและเต่าทะเลชนิดอื่นๆรวมถึงสัตว์น้ำ เพื่อเป็นแหล่งหากินตามธรรมชาติได้ อย่างไรก็ตาม พบว่า พบอัตราการรอดในรังแรก ประมาณ 72% และหลังที่2 อันตราการรอด 100 % ส่วนรังที่3 อัตราการรอด 86% ซึ่งถือว่ามีอัตรา การรอดมากกว่าธรรมชาติ ที่ไม่ได้รับการดูแล
ด้านนายประถม กล่าวว่า รู้สึกยินดีกับพี่น้องทั้งประเทศและพี่น้องจังหวัดพังงา ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล และชายฝั่งให้มีความอุดมสมบูรณ์ให้เป็นแหล่งหากิน อาศัยของสัตว์น้ำและสัตว์ทะเล จนทำให้เต่า ขึ้นมาวางไข่ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีของประชาชนชาวจังหวัดพังงา ซึ่งเป็นตัวชี้วัด ว่าทรัพยากรทางทะเลของจังหวัดพังงา มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งนี้เกิดจากหลายภาคส่วนโดยเฉพาะภาคประชาชนภาคราชการ และเอกชน ได้ร่วมมือร่วมใจกันรักษา ธรรมชาติ ตามนโยบายของกรม ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในการดูแลชายหาด การเก็บขยะ และสิ่งที่ส่งผลกระทบกับทรัพยากรธรรมชาติ
ทั้งนี้ เมื่อทรัพยากรเหล่านี้มีความอุดมสมบูรณ์ก็ ทำให้เต่าที่ค่อนข้างหายากขึ้นมาวางไข่ โดยขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นฉลามวาฬ โลมา พะยูน หรือปลาที่หายากได้กลับคืนมาสู่ธรรมชาติ ซึ่งขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 8 จังหวัดพังงา ได้จัดกิจกรรมลดละเลิกขยะ และเรื่องน้ำเสียไม่ทิ้งลงสู่ทะเล พร้อมทั้งมีการฟื้นฟูปะการังเทียม ตามนโยบายของกรมฯซึ่งสิ่งเหล่านี้ เป็นการเชื่อมโยงระบบนิเวศให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำกลับขึ้นมาวางไข่และเพาะพันธุ์ออกเป็นตัวอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี