5 มี.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีภาพเหตุการณ์มีหญิงสาว อายุประมาณ 35 ปี เกิดอาการประหลาดคลุ้มคลั่ง พูดจาไม่รู้เรื่อง ในพื้นที่บ้านแสงสว่าง ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม และชาวบ้านได้แจ้งมายังศูนย์ วิทยุ 191 สภ.นาแก จ.นครพนม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกไปตรวจสอบ และระงับเหตุ ทาง พ.ต.อ.มานพ มั่นยิ่ง ผกก.สภ.นาแก จึงมอบหมายให้ ร.ต.อ.ภูริทัตต์ ภูริทัตตานนท์ รอง สวป.ฯนำกำลังตำรวจออกไปช่วยเหลือ

บ้านที่เกิดเหตุพบหญิงคนดังกล่าวสวมชุดขาว นั่งอยู่บนเก้าอี้พับปรับเอนนอน ตาขวางใส่กลุ่มคนที่อยู่บริเวณนั้น ร.ต.อ.ภูริทัตต์ ภูริทัตตานนท์ สังเกตลักษณะท่าทางของหญิงคนนี้ เหมือนคนถูกผีเข้าตามคติความเชื่อของชาวอีสาน จึงให้ลูกน้องบันทึกคลิปการทำงาน เกี่ยวกับการใช้ยุทธวิธีจากพื้นฐานความสามารถส่วนตัว ในการระงับเหตุ ควบคุมเหตุการณ์ เจรจากับคนที่มีอาการผิดปกติคลุ้มคลั่ง โดยงดการใช้ความรุนแรงจนสำเร็จ เนื่องจาก รอง สวป.สภ.นาแก ได้ใช้ความสามารถที่เคยร่ำเรียนมาตั้งแต่เด็ก ก่อนจะสอบเข้ารับราชการตำรวจ จึงนำวิชาความรู้ทางธรรมมาเป็นส่วนหนึ่งในการออกทำงาน ก่อนมีการเผยแพร่ภาพการทำงานออกไป จนเป็นข่าวดังทางโซเชียล  โลกออนไลน์ต่างออกมาชื่นชมในความสามารถของผู้กองท่านนี้

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามพูดคุยที่มาของเหตุการณ์ดังกล่าว กับ ร.ต.อ.ภูริทัตต์ ภูริทัตตานนท์ รอง สวป.สภ.นาแก ก็ได้เล่าถึงที่มาของภาพเหตุการณ์ ว่า การเผยคลิปภาพการทำงานดังกล่าว ไม่ได้มีเจตนาหลบหลู่ความเชื่อ หรืออวดใคร แต่อยากสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนว่า การทำงานของตำรวจเจอทุกรูปแบบ ทุกสถานการณ์ หากเราเอาสติ ความสามารถที่มีอยู่มาใช้ จะทำให้ทุกอย่างจบด้วยดี ปราศจากการสูญเสีย หรือเหตุการณ์รุนแรง หลังแจ้งเหตุมีหญิง ที่มีอาการผิดปกติ คลุ้มคลั่ง  ใส่ชุดขาว เนื่องจากเคยมีอาการป่วยทางประสาท ชาวบ้านเชื่อว่า มีผีเข้าตนจึงได้ร่วมกับทีมงานตำรวจออกไปตรวจสอบ เกรงว่าจะเกิดปัญหาวุ่นวาย เพราะหญิงผู้นี้เข้าไปโวยวายในบ้านของฝรั่ง

เบื้องต้นใช้วิธีเจรจาต่อรองสอบถาม ซึ่งพบว่าไม่สามารถพูดคุยรู้เรื่อง มีอาการขาดสติ ตามความเชื่อและศึกษาทางธรรมมา น่าจะมาจากผีเข้า ซึ่งเป็นความเชื่อส่วนบุคคล จึงได้ใช้หลักธรรมะที่ร่ำเรียนมาพูดคุยให้เกิดสติ และมีการสวดมนต์เป็นบทแผ่เมตตา สวดสาธยายธรรม ตามตำราพระไตรปิฎก เรียกบทสวด ปฏิจจสมุปบาท  ที่พระพุทธเจ้าเคยสวดให้พระสาวกฟังที่เกี่ยวกับอริยสัจ 4

โดยหลักคำสอนพระพุทธเจ้า คือความจริงอันประเสริฐ ทุกข์ มรรค สมุทัย นิโรธ ทำให้เกิดเรื่องแปลก จากหญิงที่พูดจาไม่รู้เรื่องเหมือนผีเข้า มีอาการสงบ และทำให้สถานการณ์คลี่คลาย  ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของความเชื่อที่ต้องใช้วิจารณญาณ โดยการทำงานของตำรวจ ในการดูแลประชาชน อยากให้ประชาชน ต้องเข้าใจว่าไม่ได้ ใช้เฉพาะหลักกฎหมาย หรือความรุนแรง จะต้องมีการพิจารณานำหลักธรรมะ หรือหลักความเป็นจริงเกี่ยวกับความเชื่อ ความศรัทธา เข้ามาใช้ด้วย จึงจะทำให้การทำงานเกิดความสงบสุขในสังคม ซึ่งส่วนตัวทุกวันนี้ ยังชอบเข้าวัดปฏิบัติธรรมตลอด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับประวัติเส้นทางการทำงานของ ร.ต.อ.ภูริทัตต์ ภูริทัตตานนท์ หรือผู้กองภู รอง สวป.สภ.นาแก จ.นครพนม ปัจจุบันอายุ 49 ปี พื้นเพเป็นชาวจังหวัดอุดรธานี จบ นพต.รุ่น 68 กองร้อย 3 โรงเรียนตำรวจนครบาล เข้ารับราชการครั้งแรก เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2538 ที่กองกำกับการป้องกันและปรามปราบจราจล กองบังคับการสายตรวจปฎิบัติการพิเศษ หลังจากนั้นย้ายไป สน.พระราชวัง สน.พลับพลาไชยเขต 2 เเละ สน.บางรัก จากนั้นย้ายมาที่ สภ.นาแก ตั้งแต่ปี 2552 ในตำแหน่ง ผบ.หมู่ป้องกันปราบ เนื่องจากภรรยาเป็นชาว อ.นาแก จ.นครพนม  

ต่อมาสอบเลื่อนตำแหน่งชั้นสัญญาบัตรได้เมื่อปี 2556 ที่สำคัญชีวิตในช่วงเด็ก ถือว่าครอบครัวลำบาก ต้องบวชเรียน ตั้งแต่อายุ 13 ขวบ และอุปสมบทเป็นพระภิกษุในเวลาต่อมา รวมบวชเรียนในร่มผ้ากาสาวพัสตร์ 9 ปี 9 เดือน ศึกษาความรู้ถึงหลักธรรมมะ จนเป็นพื้นฐานมาช่วยในการทำงานจนถึงปัจจุบัน  ที่สำคัญผู้กองภู ยังถือว่าเป็นตำรวจต้นแบบ เป็นที่ชื่นชอบของประชาชนในพื้นที่ และทำงานมีผลงานดีเด่นมาตลอด ในเรื่องของการดูแลประชาชน และเคยได้รับผลงานดีเด่นมากมาย  อาทิ มีรางวัลเกียรติบัตรตำรวจสีขาว จริยธรรมดีเด่น และรางวัลดาวคุณธรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปี 2561