กรมพัฒนาชุมชนชู “ตลาดโอ๊ะป่อย” โมเดลแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่สมบูรณ์แบบ ที่อนุรักษ์ “ใส่บาตรพระล่องแพ” หนึ่งเดียวในประเทศ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ประจา ท้องถิ่นที่หาได้ยาก
10 มี.ค. 62 นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) นำทีมเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนลงพื้นที่ ตามโครงการ “พช.สัมพันธ์สัญจร สมุทรสาคร-ราชบุรี” เพื่อศึกษาความสำเร็จของชุมชน ท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ที่กรมการพัฒนาชุมชนร่วมขับเคลื่อนและให้การสนับสนุน แนวทางการดำเนินงาน จนสามารถสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับชุมชน และเห็นผล ซึ่งได้นำคณะ สื่อมวลชนเดินทางไปยังชุมชนท่องเที่ยวโอทอปนวัตวิถี 3 ชุมชน ใน 2 จังหวัด คือ บ้านเบญจรงค์ ดอนไก่ดี จังหวัดสมุทรสาคร กาดวิถีชุมชนคูบัว บ้านสระโบสถ์ จังหวัดราชบุรี และตลาดโอ๊ะป่อย บ้าน ท่ามะขาม จังหวัดราชบุรี
ซึ่งนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) ได้นำยกตัวอย่างความสำเร็จของตลาดโอ๊ป่อย ซึ่งอยู่ภายในหมู่ที่ 2 ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี “โอ๊ะป่อย” เป็นตลาดริมธาร ซึ่งที่มาของชื่อ “โอ๊ะป่อย” มาจากภาษากะเหรี่ยง แปลว่า พักผ่อน การท่องเที่ยวที่ชุมชนแห่งนี้ นอกจากจะได้สัมผัสวิถีริมน้ำภาชีแล้ว ยังได้ อิ่มบุญกับกิจกรรม “ใส่บาตรพระล่องแพ” หนึ่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์ประจา ท้องถิ่นที่หาได้ยาก ภายในตลาดโอ๊ะป่อยมีสินค้าน่าสนใจหลายอย่าง ประกอบไปด้วยอาหารท้องถิ่นและ ข้าวของเครื่องใช้ รวมถึงสินค้า OTOP โดยเมนูแนะนำของตลาดโอ๊ะป่อยคือ “ข้าวแดกงา” เป็นการนำข้าวเหนียวและงาดำมาตำรวมกัน แล้วนำไปนวดและย่างบนเตา นอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายเมนู ท้องถิ่น อาทิ “ก๋วยเตี๋ยวม่อนไข่” ซึ่งเป็นอาหารร้านดังประจำอำเภอ หรือ “บ้าบิ่นมะพร้าว” ซึ่งเป็นหนึ่งในสินค้า OTOP ของท้องถิ่นนอกจากนี้ยังมีข้าวของเครื่องให้เหลือกซื่ออีกมาก ได้แก่ ตุ๊กตาผึ้งถักไหมพรม ผลิตภัณฑ์จักสานไม้ไผ่ ตุ๊กตาปั้นดินไทย และสบู่สมุนไพร เป็นสถานที่พักผ่อนแบบธรรมชาติ ที่ยังรักษา สิ่งแวดล้อมไว้เป็นอย่างดี เพราะตลาดโอ๊ป่อยแห่งนี้ ไม่ใช้พลาสติก โฟม และวัสดุทำลายสิ่งแวดล้อมทุกชนิด
นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ กล่าวอีกว่า “ตลาดโอ๊ป่อย” ยังเป็นตลาดแห่งการเรียนรู้ มีวินัย เคารพกฎระเบียบ เป็นตลาดคุณธรรมที่มีความเอื้ออาทร ชาวชุมชนช่วยกันพัฒนาสินค้าให้สินค้าขายไม่ซ้ำกัน เป็นตลาดที่สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนและ ชุมชนใกล้เคียง เป็นตลาดที่สนับสนุนให้นักเรียนมีรายได้ มีงานทำ และยังเป็นตลาดที่มีกิจกรรมส่งเสริม พระพุทธศาสนา ในส่วนของนักท่องเที่ยว ถือได้ว่ามีจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับจากวันแรกที่เปิดตัวโดยในวันแรกมีนักท่องเที่ยวเพียง 250 คน แต่ในปัจจุบันจำนวนนักท่องเที่ยวพุ่งสูงถึง 5500 คน สร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยรายได้จาก 1,500 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 25,000 บาท โดยรายได้จาก ร้านค้าทุกร้านต่อสัปดาห์เฉลี่ยอยู่ที่ 250,000 - 300,000 บาท และรายได้ต่อเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 1,100,000 บาท