ช่วงนี้สภาพอากาศร้อนส่งผลให้เจ้าของสวนตาลในพื้นที่อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ต้องเร่งเฉาะลูกตาลที่กำลังให้ผลผลิตส่งให้กับแม่ค้าที่มารับซื้อแบบไม่อั้นถึงบ้านมีเท่าไหร่เอาหมด เพื่อส่งขายทั้งในพื้นที่ราคาถุงละ 20 บาทและส่งไปขายที่มาเลเซียและสิงคโปร์ในราคาส่งถุงละ 25 บาท ซึ่งเป็นลูกตาลที่คัดแล้วและเป็นราคากลาง เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงเริ่มฤดูกาลของตาลโตนด ผลผลิตเพิ่งเริ่มทยอยออกมาจึงทำให้ช่วงนี้ราคาตาลเฉาะขายได้ราคาดี และตาลจะออกมากที่สุดในช่วงเดือนเมษายนตามฤดูกาลของตาลโตนด

สำหรับอำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีต้นตาลโตนดปลูกมากที่สุดในประเทศไทย ในช่วงนี้เดือนมีนาคม เป็นช่วงเริ่มฤดูกาลของตาลโหนด ซึ่งยังให้ผลยังไม่มากจึงทำให้ราคาตาลในช่วงต้นฤดูกาลขายได้ราคาดี แต่หลังจากในเดือนเมษายนเป็นต้นไปลูกตาลจะออกมามากที่สุดราคาก็อาจจะถูกลง ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาลของตาลโตนด

สำหรับสวนตาลของนายวิฑูรย์ แซ่เจ่น อายุ 42 ปี เกษตรกรชาวสวนตาล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ซึ่งมีต้นตาลโตนดประมาณ 100 ต้นปีที่ผ่านมาสามารถเก็บผลผลิตขายได้เป็นกอบเป็นกำ โดยนำลูกตาลมาเฉาะบรรจุใส่ถุงส่งขายให้กับแม่ค้าที่รับออร์เดอร์ส่งขายที่มาเลเซียและสิงคโปร์เป็นจำนวนมากในราคาขายส่งที่ถีบตัวสูงขึ้นถึงถุงละ 25 บาท ซึ่งเป็นลูกตาลที่คัดแล้วและเป็นราคากลาง

นายวิฑูรย์ บอกว่า วันนี้ลูกตาลเฉาะราคาดีมาก โดยในแต่ละวันตนจะใช้ไม้สอยลูกตาลจากต้นที่อยู่ในส่วนวันละประมาณ 200-230 ลูก นำมาเฉาะใส่ถุงๆละ 12 เต้าตาล ประมาณ 30-40 ถุงทุกวัน โดยมีภรรยามาช่วยเฉาะและใส่ถุงให้

"ตอนนี้ลูกตาลเฉาะส่งขายแม่ค้าราคาถุงละ 20 บาท ส่วนลูกตาลที่คัดแล้ว ราคาถุงละ 25 บาท แม่ค้าที่มารับซื้อแบบไม่อั้นถึงบ้านมีเท่าไหร่เอาหมดส่งขายที่มาเลเซียและสิงคโปร์ โดยเฉาะลูกตาลวันละ 30-40 ถุง เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงที่เริ่มฤดูกาลของตาลโตนดที่ออกมายังน้อยอยู่ ราคาก็ดีตามปริมาณ ถ้าของมีน้อยราคาก็จะดี ปีนี้คาดว่าปริมาณลูกตาลจะไม่มากเหมือนปีที่แล้ว เนื่องจากสภาพอากาศร้อนและแล้งตามธรรมชาติ แต่ในช่วงเดือนเมษายนลูกตาลมันจะออกมามากขึ้นเรื่อยๆเพราะเป็นฤดูกาลของตาลโตนด ช่วงนี้จะเก็บลูกตาลทุกวัน"