บุรีรัมย์แล้งหนักทั้งคน และวัว ควาย แย่งใช้น้ำสระที่มีสภาพตื้นเขินเป็นขุ่นโคลนที่เหลือแห่งเดียวในหมู่บ้าน หลายครัวเรือนลงทุนเจาะบ่อบาดาลหวังดึงน้ำใต้ดินมาใช้ประทัง แต่ก็ไหลบ้างไม่ไหลบ้าง ล่าสุดต้องซื้อน้ำอุปโภคบริโภคสัปดาห์ละ 200-300 บาท เดือดร้อนหนักวอนรัฐช่วยเหลือนำน้ำสะอาดมาแจกจ่าย และสำรวจขุดลอกเพื่อแก้ปัญหาระยะยาว หลังเดือดร้อนซ้ำซากมา 3 ปี

16 มี.ค.62 กรรมการหมู่บ้าน พร้อมตัวแทนชาวบ้านบ้านกระสังพัฒนา ม.3 และบ้านกระสังสามัคคี ม.7 ต.โคกเหล็ก อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ หลังสระสาธารณะหนองกงปิง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่ใช้ผลิตประปาหล่อเลี้ยงชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน กว่า 350 ครัวเรือน ประชากรกว่า 2,000 คน มีสภาพตื้นเขินใกล้แห้งขอด ซึ่งคาดว่าจะสูบขึ้นไปผลิตประปาได้ไม่ถึงสิ้นเดือนนี้ และที่เป็นปัญหาซ้ำอีกคือขณะนี้ห้วย หนอง คลองบึง ตามธรรมชาติในพื้นที่ก็เหือดแห้ง ทำให้วัว ควาย ของเกษตรกรในหมู่บ้านที่เลี้ยงไว้ประมาณ 200 ตัวก็ขาดแคลนแหล่งน้ำเกษตรกรจำเป็นต้องนำวัว ควาย ลงไปกินน้ำในสระสาธารณะหนองกงปิงที่ใช้สำหรับผลิตประปา เพราะเหลือแหล่งน้ำเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ทำให้ทั้งคน และสัตว์เลี้ยงต้องแย่งใช้น้ำจากสระเดียวกันแม้สภาพจะเป็นขุ่นโคลนไม่สะอาดก็ตาม     

นายสง่า เฉลียวรัมย์ กรรมการหมู่บ้าน บอกว่า ขณะนี้ชาวบ้านในหมู่บ้านหลายครัวเรือนพยายามช่วยเหลือตัวเองด้วยการลงทุนเจาะบ่อบาดาล เพื่อหวังจะดึงน้ำใต้ดินมาใช้บรรเทาการขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้ง แต่ก็ประสบปัญหาน้ำไหลบ้างไม่ไหลบ้าง เนื่องจากสภาพความแห้งแล้งที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกับน้ำใต้ดินเช่นกัน ขณะที่บางครัวเรือนก็ต้องซื้อน้ำจากพ่อค้ารถเร่ไว้ดื่มกิน และประกอบอาหารเฉลี่ยสัปดาห์ละ 200-300 บาท ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก  

จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานภาครัฐนำน้ำสะอาดมาแจกจ่าย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมทั้งอยากให้เข้ามาสำรวจขุดลอกหนองกงปิงดังกล่าว ให้สามารถกักเก็บน้ำได้เพิ่มมากขึ้น เพื่อจะได้มีน้ำอุปโภคบริโภคได้ตลอดทั้งปี เพราะที่ผ่านมาประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซากแบบนี้ต่อเนื่องมา 3 ปีแล้ว

ด้านนายประเทียบ ปลื้มกมล อายุ 54 ปี ตัวแทนชาวบ้าน บอกว่า ตอนนี้ชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้านกำลังประสบปัญหาเดือดร้อนหนัก เนื่องจากหนองกงปิงซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่ใช้ผลิตประปามีสภาพตื้นเขิน ขณะที่วัว ควาย ก็ขาดแคลนแหล่งน้ำ เกษตรกรต้องนำมาปล่อยให้ลงกินน้ำในสระเดียวกัน เพราะในพื้นที่เหลือแหล่งน้ำเพียงแห่งเดียว ทำให้น้ำเป็นขุ่นโคลนและสกปรกแต่ชาวบ้านก็จำเป็นต้องใช้น้ำจากสระดังกล่าวเพราะไม่มีทางเลือก จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐได้หาแนวทางช่วยเหลือชาวบ้านโดยเร่งด่วนด้วย