19 มี.ค.62 ในลำคลองเกาะนก หมู่ 3 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล ภาพคนจำนวนมากนอกหมู่บ้าน ใช้แรงงานคนพร้อมด้วยเครื่องมือตะแกรงตาถี่คราดหอยขาว (หรือหอยตลับ) เดินคราดไปมา แทนใช้เครื่องยนต์ซึ่งมีความผิดกฏหมายโดยตรง โดยคราดเอาลูกหอยขนาดเล็กกว่าเหรียญหนึ่งบาทขึ้นมาด้วยสร้างความสะเทือนใจ ชาวบ้านที่ร่วมกันอนุรักษ์หอยขาว เนื่องจากเครื่องมือคราดหอย ชนิดนี้ทางกฎหมายไม่ได้ผิดโดยตรงแต่ชาวบ้านถือว่าผิดกฎของหมู่บ้าน เนื่องจากอุปกรณ์คราดเก็บหอยตัวเล็กขึ้นมาหมด
ชาวบ้านหลายคนตั้งข้อสังเกตว่าหากมีคนมาหาหอยแบบนี้ หอยขาวในลำคลองที่เพิ่งฟื้นตัวขึ้นมาอาจจะหมดไป และมีโอกาสสูญพันธุ์ได้ ด้านผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านในพื้นที่ต่างเป็นกังวลกับปัญหานี้ เพราะลักษณะการหาไม่ได้เลือกเฉพาะหอยตัวใหญ่ แม้แต่หอยตัวเล็กกว่าเหรียญสตางค์ ก็เก็บขายหมด
จากการสอบถามคนหาหอย บอกว่า หอยตัวเล็กจะขายในราคากิโลกรัมละ 10 บาท ส่วนหอยตัวใหญ่จะขายในราคากิโลกรัม 15 บาท ซึ่งจะขายให้กับพ่อค้าต่างอำเภอ
สำหรับพื้นที่ในลำคลองเกาะนกแห่งนี้ เดิมเคยเกือบจะสูญพันธุ์ไป แต่ทางชาวบ้านในพื้นที่ได้ร่วมกับเทศบาลตำบลคลองขุด ตั้งกฎหมู่บ้านขึ้นเพื่อร่วมกันอนุรักษ์ โดยให้หาได้เฉพาะกับมือ เลือกเฉพาะตัวใหญ่ในพื้นที่ 10 ไร่ เพื่อให้หอยตัวเล็กมีโอกาสโตขึ้นมา แต่ปัจจุบันพบว่ามีกลุ่มคนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมาล่าหอยโดยมีนายทุนว่าจ้าง
นางอำละ สุภาพ อายุ 53 ปี ชาวบ้านเกาะนก กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางชาวบ้านได้ร่วมกับ เทศบาลตำบลคลองขุด ในการร่วมกันอนุรักษ์หอยขาวในลำคลองเกาะนก เพราะใกล้จะสูญพันธุ์ โดยการกำหนดให้หาเฉพาะตัวใหญ่เท่านั้น กระทั่งช่วงนี้ หอยก็มีเยอะขึ้น แต่ปัญหาก็ตามมาเมื่อมีคนออกมาหาหอย เก็บหมดทั้งหอยตัวเล็กในลำคลองที่อนุรักษ์ไว้ทั้งที่หอยยังโตไม่เต็มที่ เขาจะทำเครื่องมือขึ้นมาเองเพื่อทำการคราดลูกหอยโดยการนำตะกร้าของรถจักรยานยนต์มาทำเป็นที่คราดหอยใส่อวนมีความถี่มากในการคราดเก็บหมด
แต่ละวันมีเรือ 40-50 ลำ คราดหอย แต่ละคนมีรายได้ 8,000 - 10,000 บาท โดยไม่คิดว่าทำแบบนี้หอยขาวจะหมดจากคลองไป ซึ่งคนในหมู่บ้านอุตส่าห์ช่วยกันอนุรักษ์ จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ เพราะเนื่องจากเมื่อก่อนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตักเตือนแล้ว แต่ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพคราดหอยก็ไม่ฟัง เขาบอกว่าผู้ใหญ่บ้านทำอะไรพวกเขาไม่ได้ แต่ชาวบ้านคนอื่นเดือดร้อน ถามว่าเราอนุรักษ์ไปไหนเราอนุรักษ์เพื่อให้หอยใหญ่สามารถประกอบอาชีพได้ ไม่ใช่ว่าอนุรักษ์และไม่ให้ชาวบ้านหาเลย และคนที่มาหาต้องหากับมือ
ด้านนายสมนึก สุภาพ ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 3 - 4 ปี หอยก็ได้ขาดไปเลย และชาวบ้านในบ้านเกาะนกก็ได้อนุรักษ์ร่วมกับเทศบาลตำบลคลองขุดมาถึง ณ วันนี้ที่เราอนุรักษ์ไว้เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ก็ได้เกิดขยายปริมาณเพิ่มขึ้น แต่ได้เกิดวิกฤตอีกครั้งหนึ่งคือช่วงนี้ 1 สัปดาห์แล้วคนต่างหมู่บ้านก็มาล่า ขายนายทุนที่เข้ามาซื้อหอยเล็ก
สำหรับแนวทางการอนุรักษ์ ผู้ใหญ่บ้านบอกว่า หอยขาวนี้ตั้งใจอนุรักษ์ไว้เพื่อให้ลูกให้หลานให้คนในหมู่บ้านได้หากิน ได้หากับมือและใช้ประโยชน์อยากให้มีความยั่งยืน ในทุกๆปีเราจะมีการอนุรักษ์หอยอยากจะอนุรักษ์ให้ไปถึงลูกถึงหลาน โอกาสนี้จึงอยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาช่วยดูแล ลงมาช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้กับหมู่บ้านในการอนุรักษ์หอยขาว
หลังการพูดคุยหารือกันระหว่างผู้นำในพื้นที่ ก็ได้ทำหนังสือไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสตูล เพื่อแจ้งร้องถึงความเดือดร้อน ก่อนจะยื่นหนังสือไปยัง พ.อ.สุระ แก้วไพโรจน์ รอง รมน.สตูล (ฝ่ายทหาร)โดย พ.อ. ปัญญ์สวัฒกก์ มาลารัตน์ หน.สง.รอง ผอ.รมน.จังหวัด ส.ต.(ท) มารับแทนเพื่อร่วมแก้วิกฤตหอยขาว ซึ่งทางชาวบ้านได้ตั้งกฎหมู่บ้านในการอนุรักษ์หอยขาวไว้แล้ว ให้สามารถหาหอยขาวได้เฉพาะตัวใหญ่ๆ และใช้มือในการหา บนพื้นที่ 10 ไร่ ที่ชาวบ้านได้กันไว้
ในการนี้ พ.อ.ปัญญ์สวัฒกก์ มาลารัตน์ แนะนำให้ทางผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านในพื้นที่ทำข้อตกลงกันก่อนว่า ในพื้นที่ตรงนี้จะกันเป็นเขตอนุรักษ์ แจ้งกับชาวบ้านช่วยกันเป็นหูเป็นตาร่วมกันอนุรักษ์ไว้ หากฝ่าฝืนแจ้งทางการจับข้อหาบุกรุกที่สาธารณะของหมู่บ้าน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี