20 มี.ค.62 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสำรวจราคามะนาวในช่วงหน้าร้อน ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา พบว่าร้านค้าผักที่มีมะนาววางขายอยู่ แต่จะมีการคัดแยกขนาดมะนาวใส่ในแผงวางขาย โดยมีการปักป้ายราคาแต่ละขนาดไว้อย่างชัดเจน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มะนาวที่วางขายเป็นมะนาวแป้น ราคา 3 ลูก 20 บาท และสูงสุดลูกละ 8 บาท แม้มะนาวจะมีราคาสูงขึ้น ผู้บริโภคยังคงนิยมหาซื้อมะนาวหลากหลายขนาดดังกล่าวไปใช้ประกอบอาหารเนื่องจากขาดไม่ได้
ส่วนผู้กระกอบการร้านอาหารประเภทส้มตำ บางรายที่ไม่หาซื้อมะนาวลูกไปใช้ก็จะหาซื้อน้ำมะนาวเทียม ราคาขวดละ 30 บาท ไปใช้ซึ่งจะอยู่นานถึง 6 เดือน โดยไม่ต้องแช่เย็น ส่วนมะนาวแท้ หรือมะนาวคั้นนั้นตกขวดละ 130 บาท แต่ต้องแช่เย็นไปใช้แทนกัน
ขณะเดียวกันราคาที่จำหน่ายเป็น กก.ละ 90 บาท และถ้าเข้าช่วงเดือนเม.ย. พ่อค้าแม่ค้า บอกว่า ราคาจะปรับขึ้นถึง กก.ละ 120-150 บาท นอกจากนี้จากการสอบถามร้านค้าที่จำหน่ายส้มตำ ยำแซ่บ ขายน้ำปั่น บริเวณในเขตเทศบาลเมืองเบตง ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อาจจะมีการปรับราคาสินค้าขึ้นถึงลูกละ 8-12 บาท ในช่วงที่มะนาวราคาสูงตามต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงไม่เช่นนั้นจะขายของขาดทุน และหากมะนาวลงส่วนใหญ่ก็มองว่าต้องปรับราคาสินค้าลง เพราะปัจจุบันร้านขายมีมากกรายการแข่งขันกันสูง
พ่อค้าขายมะนาวรายหนึ่ง ในตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง เปิดเผยว่า ตั้งแต่กลางเดือนต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ราคาขายส่งมะนาวแป้นไทยพุ่งสูงขึ้นถึงกระสอบละ 2,000-3,000 บาท เนื่องจากสวนมะนาวแต่ละแห่งต่างกำลังประสบปัญหาภัยแล้งและสภาพอากาศร้อนจัด จนทำให้ต้นมะนาวไม่ค่อยออกผลผลิต เพราะภาวะภัยแล้งทำให้มะนาวขาดแคลน ขณะที่พื้นที่ปลูกมะนาวในหลายจังหวัดทางภาคกลางกำลังประสบปัญหาภัยแล้งแล้ว เนื่องจากปีนี้ภัยแล้งได้เกิดเร็วกว่าทุกปี ส่งผลให้มะนาวที่นำมาขายในตลาดน้อยลง จึงทำให้ราคามะนาวปรับตัวสูงขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี