การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา! ‘พ่อเมืองลำพูน’ เดินหน้าเมืองสีเขียว ประกาศ ‘ปิดป่า’ แก้ควันพิษเข้มเอาจริงฟันทันที ลั่นปี 62 ทุกพื้นที่ต้องปลอดโฟม ลุ้นคว้าแชมป์ ‘จังหวัดสะอาด’ สมัยที่ 3 ส่งเสริม ขรก.งดใช้รถส่วนตัวมาทำงานวันพุธเพื่อลดมลพิษ หันมาออกกำลังกาย
23 เม.ย.62 นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เปิดเผยกับ "แนวหน้าออนไลน์" ถึงการประกาศมาตรการห้ามเข้าพื้นที่ป่าเพื่อหาของป่า และล่าสัตว์ (ปิดป่า) เพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าว่า ตั้งแต่ต้นปี 2562 จ.ลำพูน และจังหวัดภาคเหนือตอนบนทั้งหมดได้ประสบปัญหาค่าฝุ่นละออง PM2.5 และ PM10 เกินมาตรฐาน จากสาเหตุสำคัญก็คือมีการเผาป่า ทาง จ.ลำพูน จึงได้เริ่มแก้ปัญหาจากการกำหนดช่วงเวลาการเผาก่อน แต่สถานการณ์ก็ยังทวีความรุนแรงมากขึ้น จึงได้หารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในจังหวัด ไม่ว่าจะเป็น นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เมื่อช่วงวันที่ 12-13 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อแลกเปลี่ยน ทำความเข้าใจ และหาสาเหตุของปัญหา ทุกฝ่ายจึงเห็นตรงกันว่าจำเป็นต้องประกาศมาตรการปิดป่า คือห้ามเข้าป่าโดยเด็ดขาดทุกกรณี
"จากการประกาศปิดป่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่าสถานการณ์ดีขึ้น เพราะเรายึด 2 หลักคือบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด กับการปลูกจิตสำนึก หากพบฝ่าฝืนเราดำเนินการทันที มีการกระจายข่าวสร้างความเข้าใจ และเตือนให้ตระหนักว่าเราเอาจริง ใครก็ตามที่เข้าไปในป่า ไม่ว่าจะเข้าไปเก็บของป่า เพื่อดำรงชีพ หรืออะไรก็ตามแต่ หากพบเราจะดำเนินการทันทีไม่ละเว้น จากที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมจังหวัดภาคเหนือในช่วงก่อนสงกรานต์ที่ผ่านมาสถานการณ์ยังวิกฤต พบจุดฮอตสปอตหลายพันจุด แต่จากการที่ทุกคนร่วมแรงร่วมใจ ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชน ล่าสุด จ.ลำพูน เมื่อวานนี้ (22เม.ย.) เหลือเพียง 2 จุดที่ อ.ลี้ และ อ.เมือง ได้คลี่คลายสถานการณ์จนเป็นปกติแล้ว และจุดฮอตสปอตของจังหวัดเราก็ถือว่าน้อยที่สุดแล้ว" นายอรรษิษฐ์ กล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านที่เข้าไปเก็บของป่าหลังจากมีมาตรการปิดป่า เราได้มอบหมายให้เกษตรจังหวัด ไปหาแนวทางว่าจะสามารถหาพื้นที่ส่งเสริมให้ชาวบ้านเพาะปลูกผักหวาน หรือเห็ดเถาะได้อย่างไร เพื่อที่จะไม่ให้พวกเขาต้องฝ่าฝืนเข้าไปในป่าอีก และใช้งบฯพัฒนาจังหวัดผลักดัน แก้ปัญหาให้ถูกทาง ทำให้เกิดเกษตรสีเขียว และจะบรรจุเป็นแผนพัฒนาจังหวัดในปี 2563 ต่อไป ก็เป็นอีกมาตรการที่จะช่วยแก้ปัญหาครั้งนี้ ซึ่งผลตอบรับถือว่าดีมาก
นายอรรษิษฐ์ กล่าวถึงกรณีที่จังหวัดลำพูนได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน "จังหวัดสะอาด" ระดับประเทศ 2 ปีติดต่อกันในปี 2560 และปี 61 ว่า เริ่มมาจากการที่เราเห็นหน่วยงานท้องถิ่นในจังหวัดได้นำร่องดำเนินการเกี่ยวกับการคัดแยกขยะ สิ่งสำคัญคือขยะเปียก ในปี 60 จึงได้เริ่มนำวัสดุเป็นถังตัดก้นฝังลงไปในดินเมื่อทิ้งเศษอาหารลงไป ก็จะย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ย และเริ่มดำเนินการต่อเนื่องทุกชุมชน ทำให้ จ.ลำพูน ไม่มีเศษขยะ เทศบาลฯก็ไม่ต้องมาจัดเก็บขยะด้วย จนได้รับรางวัลชนะเลิศในปี 60 ซึ่งนายกรัฐมนตรี บอกว่า ขอให้รักษามาตรฐานอย่างนี้ต่อไป
ต่อมาในปี 61 เราเน้นรณรงค์งดใช้พลาสติกโฟม (No Foam) ที่ย่อยสลายยาก และเป็นสารก่อมะเร็ง โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงไปสร้างเข้าใจกับผู้ที่ใกล้ชิดชุมชนที่สุด คือบ้าน วัด โรงเรียน หรือ บวร เริ่มจากวัด ที่ถือว่าเป็นสถานที่ที่ใช้โฟมมากที่สุด เพราะมักจัดงานวัด แล้วก็มาปลูกฝังเยาวชนในโรงเรียน จากนั้นได้ประกาศอำเภอปลอดโฟม ดำเนินการจนครบทุกอำเภอ และขณะนี้สามารถปลอดโฟมได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เราได้รับรางวัลในปีที่ 2 ติดต่อกัน
"การเป็นแชมป์ถือว่ายากแล้ว แต่การจะรักษาแชมป์ หรือรักษามาตรฐานเป็นสิ่งที่ยากกว่า สิ่งสำคัญต้องขอบคุณประชาชนที่ช่วยกันระเบิดจากข้างใน ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการสืบสานต่อยอด เพราะทุกคนช่วยกัน บีบคั้นทางสังคมให้เกิดผลสำเร็จ สำหรับในปีนี้ เราตั้งเป้าปลอดโฟมที่ยังเหลืออีก 10 เปอร์เซ็นต์ ให้ครบทั้งหมด ประกอบกับมาตรการเสริม เช่น ห้างสรรพสินค้างดใช้ถุงพลาสติกทุกวันที่ 4 ของเดือน แล้วหันมาใช้ถุงผ้าแทน เพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าว
นายอรรษิษฐ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ในทุกวันพุธของทุกเดือนที่ถือว่าเป็นวันออกกำลังกาย เรายังขอความร่วมมือไปยังข้าราชการในศาลากลางจังหวัดงดใช้รถส่วนตัวเดินทางมาทำงาน แล้วหันมาใช้จักรยาน หรือเดินเพื่อสร้างสุขภาพ อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดมลพิษจากสิ่งแวดล้อม ด้วยการปลอดรถยนต์ แต่ถ้าหากมีความจำเป็นต้องนำรถยนต์ส่วนตัวมาใช้ก็จะมีจุดจอดเฉพาะ แล้วให้เดินเข้ามาทำงาน ซึ่งนอกจากจะทำให้สุขภาพแข็งแรงแล้วยังเป็นการเพิ่มรายได้ทางเศรษฐกิจให้กับพ่อค้าแม่ค้าในบริเวณที่ข้าราชการเดินมาทำงาน และเราจะขยายผลไปยังหน่วยงานอื่นๆ ดำเนินการให้เป็นรูปแบบเดียวกันทั้งหมด
"ปัญหาอุปสรรคในขณะนี้แทบจะไม่มี ต้องขอบคุณทุกคนที่ให้ความร่วมมือ และสะท้อนให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย เห็นได้จากการที่จังหวัดเราได้รับการจัดอันดับในเรื่องการมีส่วนร่วม จากสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ให้เป็นอันดับที่ 1 ก่อนหน้านี้อาจจะมีความไม่เข้าใจ ไม่เห็นด้วยกันบ้าง เราก็ต้องช่วยกันถ่ายทอด เพราะทุกการเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา" ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี