ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 อีกหนึ่งพระราชพิธีสำคัญ เมื่อวันที่ 4 พ.ค.62 ตามเวลาพระฤกษ์ 13.19-20.30 น. คือพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร ซึ่งเป็นพิธีขึ้นบ้านใหม่ของพระมหากษัตริย์ ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เฉลิมพระราชมณเฑียร ทรงพระสังวาลนพรัตน์ราชวราภรณ์ และพระสังวาลพระนพ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี เพื่อทรงประกอบพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร เนื่องในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ณ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน หมู่พระมหามณเฑียร ในพระบรมมหาราชวัง ในพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร ข้าราชบริพารฝ่ายหน้าได้เชิญเครื่องราชูปโภคและสิ่งมงคล รวมถึงสัตว์ อย่าง วิฬาร์หรือแมว และไก่ขาว เข้าพิธี ด้วย
แมวหรือวิฬาร์ ตามคติโบราณของไทยที่นิยมปฏิบัติกันเมื่อเวลาผู้ใดปลูกบ้านใหม่เสร็จ และเมื่อจะย้ายเข้าไปอยู่นั้น จะต้องมีคนอุ้มแมวนำเข้าไป แล้วให้เจ้าของบ้านตามขึ้นไป เหตุผลที่ทำเช่นนี้ก็มีผู้ให้ข้อคิดต่างๆ ไป บางคนก็ว่าเนื่องจากเป็นการขึ้นบ้านใหม่ จึงต้องมีแมวไว้คอยจับหนู และบ้างก็ว่าจากความเชื่อของจีนโบราณกล่าวว่าแมวเป็นสัตว์ที่สามารถขับไล่ภูติผีปีศาจหรือสิ่งชั่วร้าย เพราะแมวสามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ชัดในที่มืดหรือเวลากลางคืน และเป็นสัตว์ที่ให้โชคลาภด้วย ดังที่คนไทยเราเคยเชื่อว่าแมวหมามาสู่จะมีลาภนั่นเอง และแมวที่อุ้มขึ้นไปก็มีหลายอย่าง บ้างว่าเป็นสีขาว บ้างว่าสีเทา (สีสวาด) บ้างก็ว่าเป็นชนิดลาย เพราะคล้ายเสือจะได้มีอำนาจเป็นที่เกรงกลัว แต่ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเฉลิมพระราชมณเฑียร ท่านเสฐียรโกศศว่าเคยเห็นเป็นแมวสีดำ แต่แมวที่เข้าพระราชพิธีนี้ต้องเป็นแมวคราว และต้องนำมาทาแป้งแต่งตัวลูบไล้ด้วยน้ำหอมให้ทั่ว เมื่อได้ฤกษ์ก็จะอุ้มแมววางลงบนที่ฟูกนอน แล้วกล่าวถ้อยคำให้พรที่ดี ก็จะทำให้เจ้าของบ้านอยู่เย็นเป็นสุข มีโชคมีลาภทรัพย์สินเพิ่มพูน
สำหรับในรัชกาลปัจจุบัน แมวที่ใช้ในการเฉลิมพระราชมณเฑียร เป็นแมวไทยวิเชียรมาศ ซึ่งเป็นแมวมงคลตามตำรา สีน้ำตาลอ่อน มีแต้มสีน้ำตาลไหม้ 9 แห่งทั่วตัว ดวงตาสีฟ้าสดใส เป็นสายพันธุ์แมวไทยที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก อย่างไรก็ดี จากจดหมายเหตุของไทยเรา มีการอุ้มวิฬาร์ (แมว) เข้าในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเฉลิมพระมหามณเฑียร ก็น่าจะมีความหมายเพื่อให้เกิดความโชคดี มีลาภให้อยู่เย็นเป็นสุข ตลอดจนขับไล่ภูติผีปีศาจหรือสิ่งชั่วร้ายต่างๆ และตามความเชื่อดั้งเดิมที่กล่าวว่าแมวมีเก้าชีวิต ซึ่งหมายถึง ความยั่งยืนสถาพรหรือความเป็นอมตะ
ไก่ขาว พบว่าในบันทึกพระราชพิธีบรมราชาภิเษก มีการนำไก่ขาวเข้าในพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียรในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 จึงก่อให้เกิดข้อกังขาว่า เป็นคติความเชื่อที่เกิดขึ้นได้อย่างไร ผู้รู้บางท่านกล่าวว่าน่าจะเป็นประเพณีโบราณของไทย ซึ่งเพื่อนบ้านต้องการช่วยเหลือให้เจ้าของบ้านที่สร้างครอบครัวใหม่มีไก่สำหรับเลี้ยงไว้ขันบอกโมงยาม และเลี้ยงไว้กินไข่ อันเป็นสิ่งที่จำเป็นแก่ชีวิตประจำวันอย่างหนึ่ง นอกเหนือจากเครื่องใช้ในครัวเรือนหรือสัตว์เลี้ยงที่มามอบให้กับผู้ที่ตั้งครัวเรือนใหม่ซึ่งปัจจุบันก็ยังสามารถเห็นได้ และการที่พระมหากษัตริย์องค์ใหม่เฉลิมพระราชมณเฑียรก็คล้ายกับทรงตั้งครอบครัวของพระองค์ใหม่ จึงได้มีการอุ้มไก่เข้าในพระราชพิธีด้วย อย่างไรก็ดี ตามความเชื่อของจีนถือว่าไก่ตัวผู้เ ป็นเครื่องหมายแสดงถึงความอบอุ่นและความมีชีวิตที่มีพลังจากจักรวาล ถ้าเป็นไก่สีแดงจะป้องกันไฟ ส่วนไก่สีขาวจะสามารถขับไล่สิ่งชั่วร้ายและภูติผีต่างๆ เป็นไปได้หรือไม่ว่าเราอาจจะนำความเชื่อทั้งสองอย่างนี้มาผสมผสานกันก็ได้
ส่วนเครื่องราชูปโภคหรือเครื่องใช้ของพระมหากษัตริย์อื่นๆ มี ศิลาบด หรือหินบดยา หมายถึง ความหนักแน่น หรือความไม่มีโรค ,พันธุ์พืชมงคล หมายถึงการงอกเงย ,ฟักเขียว หมายถึง การอยู่เย็นเป็นสุข ,กุญแจทอง หมายถึง กรรมสิทธ์ความเป็นเจ้าของบ้าน และจั่นหมากทอง หมายถึง ความมั่งคั่ง
สำหรับ แมววิเชียรมาศ เป็นแมวไทยโบราณที่มักเลี้ยงกันในวัง ตั้งแต่สมัยอยุธยา และเป็นแมวมงคลตามตำรา มักกล่าวว่าแมวมงคลคนธรรมดาสามัญชนไม่สามารถเลี้ยงได้ เมื่อสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 แมวไทย 17ชนิดในพระราชวังของกรุงศรีอยุธา ได้ถูกพวกพม่า และเชลย ได้นำไปพม่า เพราะพม่าคิดว่า แมวไทยคือทรัพย์สินที่มีค่าชนิดนึง เนื่องจากแมวไทยในอยุธยาสามารถซื้อขายได้ถึง 1แสนตำลึงทอง หากใครมีแมวชนิดนี้จึงนำมาขายแก่วัง ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้แมวไทยสูญพันธุ์ หลังจากนั้น แมววิเชียรมาศก็สาบสูญหายไปจากประเทศไทย ต่อมา สมเด็จพุฒาจารย์ พุทธสโร ได้ไปเที่ยวกรุงศรีอยุธยาร้าง แล้วไปเจอสมุดข่อยที่ไม่ถูกเผา จึงนำสมุดข่อยกลับมา แล้วให้คนไปไล่ต้อนจับแมววิเชียรมาศ จนได้แมววิเชียรมาศกลับมาสู่ประเทศไทยอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี