วันอาทิตย์ ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
'ผกก.โชคดี'โพสต์ข้อ กม.ใบขับขี่ อ้างปกป้องลูกน้องเกรงถูกฟ้องร้องภายหลัง

'ผกก.โชคดี'โพสต์ข้อ กม.ใบขับขี่ อ้างปกป้องลูกน้องเกรงถูกฟ้องร้องภายหลัง

วันเสาร์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2562, 17.10 น.
Tag : ใบขับขี่ ผกก.โชคดี อธิบดีผู้พิพากษาศาล
  •  

ความคืบหน้ากรณี ส.ต.ต.เอกพล จุ้ยส่องแก้ว ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.ทุ่งใหญ่ ได้ขอตรวจใบขับขี่ชายคนหนึ่งขณะขับรถผ่านด่านตรวจ เมื่อค่ำวันที่ 2 พ.ค.62 ที่ผ่านมา แต่ ส.ต.ต.เอกพล กลับถูกชายคนดังกล่าวอ้างเป็นอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 และอ้างเป็นเพื่อน ผกก.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ โดยไม่ยอมให้ตรวจใบขับขี่ตามคำขอของ ส.ต.ต.เอกพล จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวขึ้นมาและมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทำให้ ผบช.ภ.8 เรียกตัว พล.ต.ต.ฐากรู เนตรพุกกณะ ผู็บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.โชคดี และ ส.ต.ต.เอกพล มาสอบสวนเพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอน

ต่อมาเมื่อเวลา 22.40 น.คืนวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมาในเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ "โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์" ได้มีการเผยแพร่ข้อความระบุว่า "กฎหมายที่ควรรู้ ถ้าท่านอ่านฎีกานี้เข้าใจแล้วทุกคนจะรู้ว่าทำไมผมจึงแก้ปัญหาให้ลูกน้องแบบนั้น เพราะไม่ต้องการให้เขามาฟ้องร้องตำรวจของตัวเองในภายหลัง โดยเฉพาะผู้ที่ถูกตรวจค้นเป็นนักกฎหมาย แม้ พ.ร.บ.รถยนต์ มาตรา 42 บัญญัติไว้ว่าผู้ขับรถต้องมีใบอนุญาตขับรถในขณะขับ เพื่อแสดงต่อเจ้าพนักงานได้ทันที แต่นั่นมิได้หมายความว่าให้อำนาจเจ้าพนักงานมีอำนาจเรียกตรวจสอบได้ทุกกรณี เจ้าหน้าที่จะเรียกตรวจสอบได้เฉพาะมีเหตุสงสัยเท่านั้น ตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้"


 

 

"การใช้อำนาจเกินเลยของเจ้าพนักงานย่อ, ถูกปฏิเสธได้เทียบตามนับฎีกาที่ 8722/2555 เมื่อไม่มีเหตุอันควรสงสัยตามกฎหมายที่จะทำกรตรวจค้นได้การตรวจค้นจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยที่ถูกกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงมีสิทธิโต้แย้งและตอบโต้เพื่อปกป้องสิทธิของตนเอง ตลอดจนเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งใดๆ อันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบดังกล่าวได้" 

หลังมีการโพสต์ข้อความดังกล่าวได้มีนักกฎหายและชาวเน็ตจำนวนมาก เข้ามาชม แชร์ และแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามโพสต์ดังกล่าวได้ถูกลบไปหลังโพสต์ได้เพียง 1 - 2 ชั่วโมงเท่านั้น

 

 

โดยมีนักกฎหมายบางรายแสดงความคิดเห็นว่า "การที่กฎหมายให้อำนาจเจ้าพนักงานตรวจค้นได้ทันที แต่มิได้หมายความว่าให้อำนาจเจ้าพนักงานมีอำนาจเรียกตรวจสอบได้ทุกกรณี เจ้าหน้าที่จะเรียกตรวจสอบได้เฉพาะมีเหตุสงสัยเท่านั้น ตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้เท่านั้น คือต้องมีเหตุอันควรสงสัย และเหตุอันควรเชื่อว่า ซึ่ง "เหตุอันควรสงสัย - เหตุอันควรเชื่อ" เป็นหลักการครอบจักรวาล และเป็นอำนาจและดุลยพินิจไม่มีขีดจำกัด ขัดหลักสิทธิเสรีภาพของประชาชน สถานการณ์การตรวจค้นยานพาหนะของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในทางกฎหมายถือว่าเป็นการค้นในที่สาธารณะ เพราะมีลักษณะเป็นการจำกัดเสรีภาพของบุคคลในการเคลื่อนไหวร่างกายมากกว่าเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์โดยปกติสุข 

ดังนั้น การค้นในลักษณะนี้จึงไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องขอหมายค้นจากศาล อย่างไรก็ดี แม้ว่าการเรียกหรือสั่งให้รถหยุดเพื่อตรวจค้น จะทำได้โดยมิต้องมีหมายจากศาล ซึ่งพนักงานตำรวจก็อาจกระทำการด้วยการตั้งด่านตรวจค้นได้ แต่เจ้าพนักงานตำรวจผู้ค้นต้องควรให้ความสำคัญกับองค์ประกอบของกฎหมายที่บัญญัติว่า การค้นนั้นต้องมี "ความจำเป็น" กล่าวคือมี "เหตุอันควรสงสัย" หรือ "มีเหตุอันควรสงสัยตามสมควร" และการตรวจค้นยานพาหนะต้องไม่เป็นการกระทบสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติให้การรับรองเอาไว้

 

 

ต่อมาได้มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้การป้องกันปราบปรามยาเสพติดให้โทษมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงได้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 ในมาตรา 49 ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะได้ และในพระราชบัญญัติป้องกันปราบปรามยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2519 (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2545 ในมาตรา 14 ก็ให้อำนาจกรรมการ เลขาธิการ รองเลขาธิการและเจ้าพนักงาน มีอำนาจตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะใดๆ ที่มีเหตุอันควรสงสัยตามสมควรว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ได้เช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทั้งสองนายยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ มีประชาชนใน อ.ทุ่งใหญ่ และใกล้เคียงที่ขับรถผ่าน สภ.ทุ่งใหญ่ ต่างเข้าไปชื่นชมและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ขณะที่ตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย รวมทั้ง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และ ผกก.โชคดี ได้ยุติการให้สัมภาษณ์ และเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้แล้ว 

 


 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เปิดความเสี่ยง‘ไบค์เกอร์’เมืองไทย! ขาดทักษะจำเป็น อึ้งไม่มีใบขับขี่-เมินทำพ.ร.บ. เปิดความเสี่ยง‘ไบค์เกอร์’เมืองไทย! ขาดทักษะจำเป็น อึ้งไม่มีใบขับขี่-เมินทำพ.ร.บ.
  •  

Breaking News

ตร.พังงาลุยจับ3ผู้ค้า-ยึดยาบ้าเฉียดแสนเม็ด

'การ์เซีย'ร่วมงาน! 'หงส์'เปิดตัวสวมชุดอาดิดาสล่าแชมป์

โค่นแชมป์เก่า!'พัณณิน'ผงาดแชมป์หวดไอทีเอฟเวิลด์

คนร้ายกราดยิงดับกำนันคาดปมขัดแย้่งธุรกิจมืด

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved