กิจกรรมเดินเพื่อผู้ป่วยคึกคัก-รณรงค์แยกกัญชาจากบัญชียาเสพติด-คนดังเข้าร่วมอื้อ เจ้าอาวาสวัดป่า-ผู้ป่วยมะเร็งร่วมการันตีน้ำมันสูตร "อ.เดชา"
17 พ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้ากิจกรรม "เดินเพื่อผู้ป่วย" ซึ่งนายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ พร้อมเครือข่ายภาคประชาชนจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 พฤษภาคม-9 มิถุนายน โดยเริ่มต้นจากวัดป่าวชิรโพธิญาณ จังหวัดพิจิตร ไปยังวัดบางปลาหมอ จังหวัดสุพรรณบุรี ระยะทาง 258 กิโลเมตร ว่าขณะนี้มีประชาชนนับร้อยร่วมลงชื่อร่วมขบวนเดินเท้ากันอย่างคึกคัก เพราะเห็นคุณประโยชน์ของกัญชาและต้องการให้แยกออกจากยาเสพติด
นอกจากนี้ในระหว่างทางจะมีการจัดเวทีวิชาการเกี่ยวกับกัญชา โดยขณะนี้มีผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่มีชื่อเสียง แสดงความจำนงค์ที่จะมาให้ความรู้จำนวนมาก อาทิ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิบการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร ประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา ดร.สุภรภรณ์ ปิติพร จากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร นางสายชล ศรทัตต์ ประธานเครือข่ายผู้ป่วยมะเร็งฯ
หลวงพ่อธวัชชัยสิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดป่าวชิรโพธิญาณ ตำบลท้ายน้ำ อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่ยอมให้ใช้พื้นที่วัดป่าวชิรโพธิญาณเป็นจุดเริ่มต้นว่า ได้ร่วมงานแจกจ่ายสมุนไพรน้ำมันกัญชาสูตรของอาจารย์เดชามาแล้วกว่า 2 ปีเพราะเห็นถึงประโยชน์โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ต่างรักษาหาย เมื่อยึดตามคำสอนของพระพุทธเจ้ามาใช้โดยเฉพาะเรื่องความเมตตาโดยประชาชนจำนวนมากไม่มีเงินรักษา ดังนั้นการช่วยเหลือพวกเขาจึงเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งกัญชาเป็นประโยชน์มาช้านานเพียงแต่ไม่มีการศึกษาให้ถ่องแท้และมองข้ามไปคิดว่าเป็นยาเสพติด ทั้งๆที่มีสรรพคุณช่วยปรับสมดุล และทำให้ไม่เครียด
"อาตมาเป็นพระต้องพูดความจริง ไม่เช่นนั้นก็อาบัติ อาตมาศึกษาสมุนไพรชนิดนี้มาพอสมควร ผ่านการพิสูจน์มาแล้ว หลายคนเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย บางคนเป็นมะเร็งลำไส้ บางคนเป็นมะเร็งเต้านม ให้คีโมจนพวกเขาสู้ไม่ไหวแล้ว หมอก็ปล่อยแล้ว แต่พอเขามากินน้ำมันกัญชาของอาจารย์เดชาแล้วเขาดีขึ้น บางคนก็หาย บางคนที่อาการหนักจริงๆเขาก็อยากได้ไปกินเพื่อให้ตายสบาย เพราะกัญชาช่วยให้ไม่เครียด ยังมีผู้ป่วยโรคอื่นๆอีก ก่อนที่จะหยุดแจกเพราะถูกจับ มีผู้ป่วยมารับสมุนไพรที่วัดคราวละ 4,000-5,000 คน พอเราหยุดแจก พวกเขาก็ไม่รู้ไปเอาที่ไหน บางคนร้องห่มร้องไห้กลับไป แต่จะโทษอาตมาก็ไม่ได้ ต้องโทษกฎหมายที่ระบุให้กัญชาเป็นยาเสพติด เราต้องเกาให้ถูกที่คัน" หลวงพ่อ กล่าว
เจ้าอาวาสวัดป่าวชิรโพธิญาณ กล่าวว่า สาเหตุที่ยอมให้วัดแห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการเดินเพื่อผู้ป่วยเพราะรู้ว่านายเดชาไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว แต่ทำเพื่อผู้อื่น ในเมื่อไว้ใจเราก็ยินดีที่จะร่วมมือช่วยเหลือชาวบ้าน ที่ผ่านมาก็แจกจ่ายน้ำมันกัญชาด้วยความซื่อสัตย์และไม่เคยเรียกเก็บเงินใดๆ เพียงแต่ผู้ที่มารับสมุนไพรต้องสมาทานศีล 5 เพราะการเจ็บไข้ได้ป่วยมักเกิดจากการเบียดเบียนกัน การสมาทานศีล 5 อย่างน้อยก็เป็นอาหารทางใจทำให้สุขภาพดีซึ่งเป็นเรื่องทางพุทธศาสตร์ ส่วนเรื่องของวิทยาศาสตร์นั้น เมื่อบริโภคอาหารที่ไม่เจือสารพิษก็ทำให้ร่างกายดีขึ้น
"การเดินครั้งนี้ อาตมามองว่าเป็นเรื่องของความสามัคคี ที่ต้องการให้กัญชาเป็นสมุนไพรรักษาโรคที่ชาวบ้านเข้าถึง แต่รัฐบาลยอมหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้ายอมปลดล็อค กัญชาก็เป็นสมบัติของทุกคน ซึ่งประเทศอื่นๆเขาใช้กันหมดแล้ว มีแต่บ้านเราที่ชอบเอาสารพิษเข้าประเทศ ทั้งสารเคมีปราบศัตรูพืช เหล้า บุหรี่ แต่พอกัญชาซึ่งมีประโยชน์มากมาย ไม่เคยมีใครเอาไปใช้แล้วตาย ของดีๆกลับกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ของเสี่ยงๆกลับถูกกฎหมาย" หลวงพ่อธวัชชัยฯ กล่าว
นายสมจิตร เจริญลิ้ม อายุ 65 ปี ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า ตนป่วยเป็นมะเร็งระยะแรกที่ต่อมลูกหมากตั้งแต่ต้นปี 2561 รู้สึกทรมานมากเมื่อปัสสาวะและต้องลุกขึ้นไปห้องน้ำทั้งคืน และทั้งปู่และพ่อต่างก็เป็นมะเร็ง แต่ตนไม่อยากฉายแสงหรือคีโมเหมือนพวกท่าน ต่อมาเพื่อนได้เอาน้ำมันกัญชาสูตรอาจารย์เดชามาให้ หลังจากกินวันละ 2 เม็ดตลอด 6 เดือน ค่ามะเร็งลดลงจาก 8.5 เหลือ 0.2 ซึ่งเป็นภาวะของคนปกติ
"ผมเชื่อร้อยเปอร์เซ็นว่าที่หายได้เพราะน้ำมันกัญชาเพราะผมไม่ได้กินยาอื่นเลย ผมอยากให้ตรงนี้เป็นทางเลือกหนึ่งของประชาชน เท่าที่เห็นหลายคนอาการดีขึ้น หลายคนหายป่วย แต่สิ่งหนึ่งที่ผมทำสม่ำเสมอคือเข้าวัดถือศีล ทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวร" นายสมจิตร กล่าว
นางณฐา ไพรยนต์ ชาวสุพรรณบุรี อายุ 41 ปี กล่าวว่าตอนแรกคิดว่าป่วยเป็นมะเร็งและแพทย์ให้เตรียมตัวทำคีโมเพราะต่อมน้ำเหลืองโต แต่พอตรวจอย่างละเอียดไม่เจอค่ามะเร็ง สุดท้ายแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง ซึ่งทรมานมากเพราะปวดตามข้อและกล้ามเนื้อ จนกระทั่งเดือนสิงหาคม 2561 ได้เริ่มกินน้ำมันกัญชาแบบหยด โดยใช้ 15-20 หยด ทำให้ดีขึ้นตามลำดับ อาการปวดต่างๆหายไป ล่าสุดเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาได้ไปตรวจร่างกาย แพทย์บอกว่าค่าต่างๆดีขึ้นมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี