nn...หลังจากทุกอย่างเรียบร้อย ได้ตัวประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาฯเรียบร้อยแล้ว...ขั้นตอนในการจัดตั้งรัฐบาลก็เริ่มชัดเจนขึ้น โดยพรรคพลังประชารัฐ ที่นำโดย หัวหน้าพรรค “อุตตม สาวนายน” “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” เลขาฯพรรค ได้ฤกษ์นำขบวนยกขันหมากไปสู่ขอพรรคการเมืองต่างๆที่จะมาร่วมจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งคิวแรกช่วงเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา เป็นของพรรคประชาธิปัตย์ และตามด้วยภูมิใจไทยในช่วงบ่ายวันเดียวกัน...งานนี้นักข่าวได้คุยกับ “อาจารย์สุวิทย์ เมษินทรีย์” รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บ่นเสียดายที่ไม่ได้ไปร่วมขบวนขันหมากด้วย เพราะติดภารกิจที่นัดไว้ก่อน เลยไม่รู้ว่าสินสอดมีอะไรบ้าง แต่ถึงแม้ฝ่ายเจ้าสาวทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย จะเรียกมากแค่ไหน อาจารย์สุวิทย์บอกว่า ไม่หวั่นจ้าาา เพราะเรารวย....5555… เจรจาดีดีก็แล้วกัน นะจ๊ะ ไม่อย่างนั้นคงจะจนเอาก็คราวนี้...!!!!!!...nn
ยินดีกับ “สุรินทร์ ตนะศุภผล” ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) หลังจากบอร์ดบริหารตลาดหุ้นไทย มีมติประกาศแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) ทั้งนี้ “ท่านผู้ช่วยฯสุรินทร์ หรือ “พี่เวอร์”ของน้องๆนักข่าว จะทำงานร่วมกับคนดี-เด่น-ดังในแวดวงตลาดทุนอีก 8 ท่าน เช่น “ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์” ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ “สิริวิภา สุพรรณธเนศ” รองเลขาธิการสำนักงาน ก.ล.ต. โดยพ.ร.บ.หลักทรัพย์ ได้กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ CMDF พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ได้กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ CMDF ไว้ดังนี้ 1.กำหนดนโยบายการบริหารงานและให้ความเห็นชอบแผนการดำเนินงาน แผนการเงิน และงบประมาณประจำปีของกองทุน 2.พิจารณาให้ความเห็นชอบโครงการหรือกิจกรรมที่ขอรับการส่งเสริมหรือสนับสนุนจากกองทุน รวมทั้งติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมดังกล่าว 3.ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ 4.ควบคุมดูแลการดำเนินงานและการบริหารงานทั่วไป ตลอดจนออกระเบียบข้อบังคับของกองทุน...nn
nn...ด้วยความเป็นผู้แทนราษฎรมืออาชีพ แม้จะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายหรือไม่ก็ตาม แต่ความเป็นผู้แทนก็ยังเข้มข้น ติดตามความเดือดร้อนของชาวบ้าน รวมถึงงานที่เคยทำไว้ให้เดินหน้าต่อจนสำเร็จ สำหรับ อดีต สส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” อย่างวันก่อนเห็นออกมาโพสต์ทวงถามถึงโครงการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้นักเรียน ตามสโลแกนประจำโครงการ ที่เจ้าตัวผลักดันมาตลอด “เด็กไทยพูดได้สองภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองของคนไทย ที่ดูเหมือนจะหยุดชะงัก ไม่เป็นไปตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น...งานนี้ มิสเตอร์ปราบโกงจำนำข้าวบอกว่า ขอสื่อสารไปยังนายกฯ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”ว่า ยังจำเด็กนักเรียนในโครงการ English for all จากโรงเรียนสะพานที่สามพิษณุโลก ซึ่งเป็นโครงการต้นแบบเพื่อให้เด็กลูกหลานคนจนพูดภาษาอังกฤษได้ ไปพบทั่นนายกฯ ที่ทำเนียบฯ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 นำโดย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ขณะนั้นได้หรือไม่ จากนั้นก็มีข่าวว่า จะมีการขยายโครงการเพิ่มอีก 20 โรงเรียน ได้ประชุมสัมมนาผู้เกี่ยวข้องที่โรงเรียนสะพานที่สาม ซึ่งเจ้าตัวมีโอกาสไปเป็นวิทยากร เผยแพร่แนวความคิดด้วย ตั้งเป้าหมายเริ่มโครงการตอนเปิดเทอมใหม่รอบนี้
...ปรากฏว่า เมื่อถึงกำหนดเวลา ทั่นรมต.ลาออกไปเป็น สว. โครงการดีๆต้องถูกชะลอออกไป ทั้งที่ไม่ได้เป็นเรื่องยากและผู้ปกครองก็รอความหวัง...“ผมได้รับการร้องเรียนจากโรงเรียนต่างๆ และช่วยตามเรื่องดังกล่าวก็ไม่มีความคืบหน้า เพียงจัดงบให้โรงเรียนจ้างครูต่างชาติก็จบ...ดังนั้น ขออนุญาตสื่อสารไปยังนายกฯโปรดสั่งการไปยังกระทรวงศึกษาฯ ให้เร่งดำเนินการตามแผนการที่วางไว้ เพราะขณะนี้เปิดเทอมมาได้เกือบสองสัปดาห์แล้ว ผู้ปกครองเฝ้ารอ แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใน 20 โรงเรียนดังกล่าว…”...สมเป็นนักการเมืองอาชีพ ไม่ว่ามีตำแหน่งหรือไม่ ก็สามารถทำงานเพื่อประชาชนได้เสมอ...ภูมิใจแทนคนเมืองพิษณุโลกซะจริง...nn
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี