แม่น้ำโขงที่ทอดยาวกินพื้นที่หลายประเทศตั้งแต่จีน ลาว เมียนมา ไทย กัมพูชา ไปจนถึงเวียดนาม รวมระยะทาง 4,880 กิโลเมตร ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของทุกประเทศ ที่มีแม่น้ำโขงนี้ไหลผ่าน และแม่น้ำสายยาวสายนี้ยังคงอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติอยู่ในทุกตารางนิ้วทั้งในน้ำและสองฟากฝั่ง คนริมโขงจึงได้ใช้สอยทรัพยากรจากแม่น้ำเสมอมาหลายชั่วคน และทรัพย์ที่มีอยู่หนึ่งในนั้นคือ "ทองคำ" ที่ปะปนอยู่กับหินทรายในแม่น้ำโขงและปัจจุบันมีคนที่มีอาชีพร่อนทองหลงเหลือ อยู่ไม่กี่คนแล้ว ในพื้นที่ อำเภอปากชม จังหวัดเลย 

นางอำนวย บุญกว้าง ชาวบ้านศรีภูธร เลขที่ 206 หมู่ที่ 3 ตำบลปากชม อำเภอปากชม จังหวัดเลย ซึ่งมีอาชีพร่อนทองในแม่น้ำโขงสายนี้มานาน เปิดเผยว่า การร่อนทองคำบางครั้งได้ทองคำขนาดเท่าเม็ดไม้ขีด หรือเป็นก้อนประมาณ 2 มิลลิเมตร บางวันก็ได้มาก บางวันก็ได้น้อยแล้วแต่จังหวะและโอกาสของแต่ละคน เมื่อได้มาแล้วก็จะรวบรวมไปขายให้กับร้านทองในพื้นที่

ส่วนขั้นตอนการร่อนทองคำนั้น นางอำนวย กล่าวว่า เริ่มจากการนำหินแห่ ก้อนหินที่จะต้องขุดจากธารน้ำขึ้นมาโดยใช้จอบเล็กขุดเอามาใส่ถัง และตระกร้าจากนั้นก็จะนำไปร่อนแยกในน้ำก่อน 1 รอบ จากนั้นก็นำไปร่อนในน้ำไปเรื่อยๆ แล้วค่อยๆ มาคัดแยกทองออกหิน เมื่อได้ทองมาแล้วก็จะนำมาเก็บรวมกันไว้ เมื่อได้ปริมาณพอก็จะนไปขาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามชาวบ้านที่อาชีพร่อนทองคำ ทราบว่า ทุกวันนี้ได้มีพ่อค้าคนกลางเดินทางมารับซื้อทองคำจากชาวบ้านที่ร่อนทองได้จนถึงที่โดยรับซื้อในราคากรัมละประมาณ 950-1,000 บาทหรือแล้วแต่ราคาทองคำขึ้น-ลงในเวลานั้น ส่วนการร่อนทองคำนั้นชาวบ้านจะออกร่อนช่วงที่น้ำโขงลด แต่ถ้าหากน้ำขึ้นชาวบ้านก็จะหยุดร่อน ซึ่งก็จะทำให้ชาวบ้านที่มีอาชีพร่อนทองคำเป็นหลักขาดรายได้