5 มิ.ย.62 ว่าที่ร้อยตรี ภูมิศักดิ์ ขำปู่ นายอำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม นำเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ อบต.ฯ ลงพื้นที่บ้านห้วยพระหมู่ 9 และ หมู่ 14 ต.ท่าจำปา เพื่อดูการทำงานของเจ้าหน้าที่รังวัดที่ดิน สำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนม สาขาท่าอุเทน หลังมีกลุ่มชาวบ้านร้องเรียนผ่านสื่อว่า มีนายทุนรุกล้ำที่ดินสาธารณะหลายแห่ง โดยที่ดินได้ถูกปรับสภาพจากป่าบุ่งป่าทามจนราบเรียบ เพื่อจะปลูกยางพาราแทน
นายมานิต มีใหญ่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายรังวัด ได้รับมอบหมายจากนายพงษ์สุวัจน์ ไชยต้นเทือก เจ้าพนักงานที่ดิน สาขาท่าอุเทน ส่องกล้องหาแนวเขตการรุกล้ำ โดยฝ่ายปกครองมอบอำนาจให้นายพันธ์ ชมภูพระ ผู้ใหญ่บ้านห้วยพระหมู่ 9 ขณะที่ทางนายวรลภย์ ศรีบุญเรือง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าจำปา(อบต.ฯ) มอบหมายให้นายเตียง ชมภูพระ สมาชิก อบต.ฯ บ้านห้วยพระหมู่ 9 เป็นผู้นำชาวบ้านร่วมกันชี้แนวเขต
นายมานิต กล่าวว่า หลังจากรังวัดปักแนวเขตที่สาธารณะได้รูปแผนที่พิพาทแล้ว ก็จะนำไปทำการสอบสวนไกล่เกลี่ยตามประมวลกฎหมายที่ดินต่อไป โดยตนได้รับมอบอำนาจให้ดำเนินการออกรังวัดเป็นเวลา 4 วัน นับตั้งแต่วันที่ 4-8 มิ.ย.นี้ และเมื่อพ้นวันดังกล่าว ห้ามชาวบ้านที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่พิพาท เพราะอาจจะถูกนายทุนผู้ถือโฉนดครอบครองอย่างถูกต้องแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาบุกรุก
ด้านนายพันธ์ ผญบ.ม.9 และ นายเตียง ส.อบต.ท่าจำปา หลังได้นำชาวบ้านปักหลักเขตด้วยไม้ไผ่ผูกด้วยถุงพลาสติก เพื่อแสดงว่าบริเวณดังกล่าวเป็นที่ดินสาธารณะ ก็ได้ลงลายมือชื่อ ระบุว่าได้ในการรังวัดสอบเขตของบริษัทเกษตรปิยมิตรฯ ปรากฎว่ามีการนำรังวัดทับที่สาธารณประโยชน์ และทำเลเลี้ยงสัตว์ ประกอบด้วยห้วยหลง ห้วยบ่อ และห้วยล่องจ้อง รวม 3 แปลง จึงขอคัดค้านการรังวัด พร้อมปักหลักไม้ทำแนวเขตที่รุกล้ำ เพื่อแสดงเป็นแผนที่พิพาท และดำเนินการตามระเบียบกฎหมายต่อไ ป
ส่วนชาวบ้านบอกว่าหลังรู้แนวเขตที่ดินสาธารณะเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีหนังสือยื่นตรวจสอบใบโฉนดที่นายทุนครอบครองอยู่ เพราะมีอีกหลายแปลงที่มีการออกโฉนดทับที่ทำกินเดิมของชาวบ้าน เช่น นส.3 หรือใบจอง
ทั้งนี้ มีการรังวัดแนวเขตพื้นที่ห้วยหลง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่ถูกรุกล้ำนี้ มีป่าบุงป่าทามขึ้นหนาแน่น ซึ่งในฤดูน้ำหลาก จะเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำในวัยเจริญพันธุ์ใช้หลบซ่อนสัตว์ที่ใหญ่กว่า และยังเป็นที่หากินของชาวบ้านมาแต่บรรพบุรุษ เมื่อถูกบุกรุกที่ดังกล่าว ป่าบุงป่าทามก็ถูกทำลายลง ทั้งที่ควรจะอนุรักษ์ไว้ เพราะในภาคอีสานเหลืออยู่ไม่มากนัก ส่วนวันที่ 6 มิ.ย. จำดำเนินการรังวัดแนวเขตพื้นที่ห้วยบ่อแหล่งน้ำธรรมชาติอีกแห่ง ที่ถูกนายทุนรุกที่สาธารณะ เหิมเกริมถึงขั้นทำลายคันกั้นน้ำ ระบายน้ำออกเพื่อให้เกิดการตื้นเขิน แล้วก็จะรังวัดเพื่อออกโฉนด และยังมีบางองค์กรอำนวยความสะดวก ด้วยการนำงบหลวงเอาเสาไฟฟ้ามาปักให้อย่างดี
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับหนังสือชี้แจงของบริษัทดังกล่าว อ้างว่าที่ดินที่กำลังพิพาทกัน ยังเป็นชื่อบุคคลอื่นเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ และอยู่ในระหว่างฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้บุกรุก โดยบริษัทก่อนจะซื้อที่ดินแต่ละแปลง ต้องขอดำเนินการตรวจสอบเอกสารหลักฐานทางที่ดิน ณ สำนักงานที่ดิน ว่าเอกสารหลักฐานทางที่ดินถูกต้องหรือไม่ ในการทำสัญญาจะซื้อจะขาย จะมีข้อตกลงกันว่าทางบริษัทจะเข้าดำเนินการทำประโยชน์ในที่ดินก่อน โดยการปรับพื้นที่เพื่อเตรียมแปลงปลูก จากนั้นจึงจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์กัน ส่วนแปลงไหนหลังบริษัทเข้าไปปรับพื้นที่แล้ว มีบุคคลภายนอกซึ่งไม่ใช่เจ้าของที่ดินตามกรรมสิทธิ์หรือผู้บุกรุก บริษัทจะแจ้งให้เจ้าของที่ดินเดิมไปเจรจาไกล่เกลี่ย หรือไปดำเนินการทางศาล เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ชี้ขาด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี