14 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 14 ก.ย.60 ร.ต.ท.ยุทธนา เทพสถิตย์ (หมวดท็อป) รอง สว.กก.ตชด.14 จนท.ชุด EOD เก็บกู้ระเบิด ปัจจุบัน อายุ 36 ปี ได้เกิดเหตุโจรใต้ลอบวางระเบิดบริเวณ บ้านลาเตอะ ม.5 ต.กาบัง อ.กาบัง จ.ยะลา จากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ จนท.ได้รับบาดเจ็บหลายรายและมีเสียชีวิต หมวดท็อปเป็นหนึ่งในนั้นที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดนสะเก็ดระเบิด ศรีษะด้านขวายุบ สมองบวม แพทย์ต้องยื้อชีวิตด้วยการผ่าตัดเอาเนื้อสมองที่ผิดปกติออก แล้วใส่กะโหลกเทียม ส่วนกระดูกร่างกายแตกหลายท่อน รักษาตัวในห้องไอซียู ท่ามกลางความเป็นห่วงจากคนไทยทั้งประเทศ
ระหว่างนั้น ภรรยาของหมวดท็อปกำลังตั้งครรภ์ พ่อแม่ ครอบครัวญาติพี่น้องทุกคน ช่วยกันดูแลให้กำลังใจให้หมวดท็อปสู้ต่อ จนผ่านมาร่วม 2 ปีที่หมวดท็อปสู้ต่อจนมีวันนี้ จากรักษาตัวที่ รพ.สงขลานครินทร์ วิทยาเขต หาดใหญ่ และมารักษาต่อที่รพ.ตำรวจ ซึ่งมีครอบครัวคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะนี้ ลูกสาวน้องเอวา วัย 1 ขวบ 7 เดือนแล้ว ส่วนหมวดท็อปกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิด โดยหมวดท็อป เดินทางกลับบ้านเกิดจ.สุพรรณบุรี หลังต่อสู้ยืนหยัดมาเป็นเวลาร่วม 2 ปี โดยที่ไม่ได้ออกมาลืมตาดูโลกภายนอกเลย
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านเกิดของหมวดท็อป ที่บ้านเลขที่ 477/3 ม.3 ต.สามชุก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ซึ่งได้เจอกับครอบครัวของหมวดท็อป โดยนายเทพ เทพสถิตย์ พ่อของหมวดท็อป เปิดใจเรื่องราวทั้งน้ำตานองหน้าว่า ย้อนเหตุการณ์ไปตอนเกิดเหตุ ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลย แต่ก็พยายามเข้มแข็ง ตนจะแอบไปร้องไห้อยู่บ่อยๆ เพราะไม่อยากให้คนในครอบครัวเห็น กว่าจะผ่านมาจนถึงวันนี้ พวกเราทุกคนฝ่าฝันอุปสรรคทั้งหลาย ครอบครัวต้องแข็งแรงทั้งกายและใจ ให้กำลังใจลูกทุกวัน และรู้สึกภาคภูมิใจในตัวลูกชายมากที่สุดที่ทำเพื่อประเทศชาติ
'ถึงแม้ว่าวันนี้ร่างกายท็อปจะไม่ปกติเหมือนเดิม แต่สิ่งสำคัญที่เราทุกคนยังมีความสุขเสมอ นั่นคือคำพูดของท็อป ที่พูดว่า เราต้องรักษาด้ามขวานประเทศไทย หน้าที่ของเค้าคือปกป้องประเทศชาติ นี่คือกำลังใจสำคัญที่สุด ที่พวกเราต่อสู้กันมาจนถึงวันนี้ ส่วนตัวพ่อเอง ทำงานเป็นจ้าหน้าที่ชลประทาน จ.เชียงใหม่ ซึ่งไม่กี่เดือนก็จะเกษียนอายุราชการแล้ว ปัจจุบันก็ต้องเดินทางไปมา เพื่อดูแลลูก ซึ่งที่ผ่านมาก็มีกำลังใจจากทุกคน ส่งมาให้ตนเสมอให้สู้ๆ ก็ต้องขอขอบพระคุณทุกท่าน' คุณพ่อของหมวดท็อป กล่าว
ส่วนคุณแม่พยูร เทพสถิตย์ ได้กล่าวว่า มาถึงวันนี้ตนยังเชื่อในปาฏิหารย์ ว่ามีอยู่จริง เชื่อว่าสิ่งที่หมวดท็อปทำคือการปกป้องรักษาประเทศชาติ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ การเป็นตำรวจ คือความฝันของหมวดท็อป ความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ เวลาหมวดท็อปทำงาน มักจะพูดให้พ่อแม่สบายใจเสมอ ไม่เคยบอกว่าทำงานเสี่ยงแค่ไหน พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วง ท็อปสบายดี จนถึงวินาทีที่เกิดเหตุ ท็อปก็ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถแม้กระทั่งชีวิตของตัวเอง
'แม่รู้สึกภาคภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้มาก แม้ทุกวันนี้ท็อปจะไม่ได้เดินตามฝันเหมือนเดิมแล้ว เราทุกคนในครอบครัว ได้ให้กำลังใจท็อปทุกวัน จะพยายามไม่ร้องไห้ ต้องแอบไปร้องไห้กันทุกวัน ตอนนี้แม่ก็ไม่มีงานทำ ก็อยากทำงานเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว เพราะอีกไม่นานพ่อก็จะเกษียรราชการ คงต้องมีภาระมากขึ้น แม่ก็พยายามหางานเพื่อนำเงินมาเลี้ยงครอบครัวอีกทาง' คุณแม่พยูร กล่าว
สำหรับอาการของ หมวดท็อป ขณะนี้ดีขึ้นมาก ร่างกายเริ่มแข็งแรง ทางครอบครัวได้ช่วยกันกายภาพบำบัด และดูแลกันอย่างเต็มที่ โดยระหว่างการให้สัมภาษณ์นั้น หมวดท็อป ได้พยายามเปล่งเสียงพูดคุยเป็นระยะ ฝากกำลังใจความคิดถึง ถึงเพื่อนร่วมงาน และขอบคุณกำลังใจจากชาวไทยทุกคนที่ร่วมส่งมาให้ตน ทั้งนี้ยังได้พูดเป็นห่วงเรื่องสวัสดิการ ค่าตอบแทนเงินประจำตำแหน่งของ จนท.อีโอดี ในปี 2563
โดยนางสาวอัญพัชญ์ ยอดเกตุ ญาติผู้ดูแลหมวดท็อป ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พี่ท็อปจะพูดเรื่องนี้เป็นประจำ ซึ่งอยากฝากถึงนายกรัฐมนตรี ท่านประยุทธ จันทร์โอชา ขอให้ช่วยดูแลเรื่องนี้ เพราะการทำงานในตำแหน่งนี้ จะต้องมีการตรวจสุขภาพทุกปี และการสอบข้อเขียน หากไม่ผ่านก็จะไม่ได้รับค่าตอบแทนในส่วนนี้ ซึ่งตอนนี้ทางบ้านของท็อปแม่ก็ไม่ได้ทำงาน ส่วนพ่อก็จะเกษียนก็ต้องมาดูแลท็อป ซึ่งหากท็อปไม่ได้รับค่าตอบแทนในส่วนนี้ อาจส่งผลกระทบในเรื่องค่าใช้จ่ายเพราะยังต้องรักษาตัว ทำให้ตนเองก็ยังรู้สึกว่า พอผ่านเหตุการณ์มาแล้ว จนท.ที่เป็นผู้ประสบเหตุจากการปฏิบัติหน้าที่ ก็น่าจะได้รับการดูแลอย่างดีต่อไป เพื่อจะได้เป็นขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อ เพราะเราก็เชื่อว่าสิ่งที่ท็อปทำทำเพื่อส่วนรวม ทำเพื่อประเทศชาติ และเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ จึงอยากฝากเรื่องนี้ให้ทางผู้ใหญ่ได้พิจารณา
จากหนุ่มที่มีความฝันเป็นเด็กดีตั้งใจเรียน เป็นที่รักของครอบครัว อนาคตไกล หลังสอบติดตำรวจ และเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ในชุดEOD เก็บกู้วัตถุระเบิด หลังประสบเหตุ ศรีษะที่ไม่มีกะโหลก ขาและแขนที่ยังไร้เรี่ยวแรงไม่มีแม้กระทั่งแรงเดิน สายตาที่มองเห็นได้แค่ข้างเดียว ถูกพยุงไว้ด้วยความรักของคนรอบข้าง ลมหายใจที่ริบหรี่กลับมามีพลังอีกครั้ง แล้วเราก็ต้องเชื่อว่า “ปาฏิหารย์นั้นมีอยู่จริง”
อย่างไรก็ตาม ยังมีเสียงจากคำพูดเบาๆ ที่พยายามตะโกนออกมาในลำคอของหมวดท็อป สะท้อนสิ่งที่เค้า เป็นห่วงเรื่องสวัสดิการผลตอบแทนที่ตัวเองจะไม่ได้รับ หากตัวเองยังไม่สามารถมีชีวิตเหมือนเดิมที่แข็งแรงตามปกติ ตอนนี้กลัวกับความไม่มั่นคงในชีวิตหลังจากนี้ เราหวังว่าหมวดท็อปจะไม่ถูกทอดทิ้งหรือไร้การเหลียวแล เพราะเชื่อว่า สิ่งที่หมวดท็อปทำคือทำเพื่อประเทศชาติ รักษาผืนแผ่นดินไทย อาจไม่ใช่เพียงการกล่าวถึงกรณีของหมวดท็อปคนเดียว ที่ทำเพื่อประเทศชาติ เพราะยังมี จนท.อีกหลายคนที่ประสบเหตุแบบนี้ อาจสูญเสียหรือยังมีชีวิตอยู่ต่อแบบทุพพลภาพ ตอนนี้พวกเขาเหล่านั้น อาจนั่งร้องไห้ กังวล และพยายามหาหนทาง เรียกร้องในสิทธิของตนที่จะได้รับ เพื่อตัวเขาเองจะได้ไม่ทำให้คนข้างกายเดือดร้อน
ทั้งนี้สิ่งที่ได้เห็นจากครอบครัวของหมวดท็อป น้ำตาที่ไหลจากคนรอบข้างของหมวดท็อป ตลอดการสัมภาษณ์ คือน้ำตาแห่งความภาคภูมิใจและความหวัง ในการช่วยกันสร้างพลังให้หมวดท็อปมีพลังสู้ต่อไป หมวดท็อปบ่นคิดถึงเพื่อนร่วมงาน และฝากขอบคุณคนไทยทุกคนที่ให้กำลังใจเสมอมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี