จากกรณีการเสียชีวิตของ ด.ช.ฐปกร ทรัพย์สิน หรือ "น้องชายแดน" อายุ 14 ปีที่ถูกทำร้ายขณะเข้าไปติวสอบเข้าเตรียมทหารที่สถาบันกวดวิชาบ้านพี่ณัฐ โดยแพทย์เผยสาเหตุการตายเกิดจากการบาดเจ็บของตับอ่อน ถูกกระแทกช่องท้องอย่างแรง ทำให้นายพิษณุ ทรัพย์สิน อายุ 47 ปี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ เพราะสงสัยสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย เนื่องจากได้รับบาดเจ็บหลังเข้าไปเรียนและอยู่อาศัยในสถาบันกวดวิชาเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.เมืองนครสวรรค์ ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ โดยผู้เป็นพ่อเชื่อว่าลูกชายอาจถูก "รุมทำร้าย" ขณะที่เจ้าของสถาบันกวดวิชาอ้างว่า น้องหมดสติหัวฟาดราวบันได
ล่าสุดวันนี้ (20 มิ.ย.) นายอรรถพร สิงหวิชัย ผวจ.นครสวรรค์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ดำรงษ์ เพ็ชรพงษ์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ , พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก.สภ.นครสวรรค์ , นิติกรชำนาญการสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครสวรรค์ , ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจชุดสืบสวน ได้เดินทางมายังบ้านของนายณัฐพล ถาวรพิบูรณ์ อายุ 27 ปี ติวเตอร์คนดัง ที่บ้านเลขที่ 999/33 หมู่บ้านไอซ์แลนด์ 6 ต.วัดไทร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นบ้านพักของที่ตั้งโรงเรียนกวดวิชา
พล.ต.ต.ดำรงษ์ เพ็ชรพงษ์ กล่าวว่า การตรวจวันนี้เป็นครั้งแรกที่ตำรวจร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อต้องการหาหลักฐานบางอย่างเพิ่มเติมอย่างละเอียด และที่ผ่านมา ผบ.ตร.กับ ผบช.ภาค6 ได้สั่งการกำชับมาโดยตรงให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างละเอียดรอบคอบให้ครบทุกด้าน โดยการสอบปากคำพยานแวดล้อมนั้นประกอบด้วย เด็กและนักเรียนที่ลาออกไปก่อนหน้านี้นั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวมาให้ปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพ ซึ่งมีทั้งอัยการ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ พยานแวดล้อม
ภายหลังจากประชุมทีมสืบสวนได้นำหลักฐานไม้เบสบอล 8 อันที่ค้นพบใต้สะพานข้ามแม่น้ำปิง พื้นที่ ต.วัดไทร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ส่งตรวจพิสูจน์ ซึ่งพนักงานสอบสวนนำมาประกอบสำนวนน่าจะเป็นหลักฐานสำคัญในคดีนี้ด้วย โดยไม้เบสบอลทั้งหมดนี้มีรายงานจากแหล่งข่าวว่า ได้นำไปทิ้งถึง 2 ครั้ง
"ครั้งแรกหลังทำร้ายน้องชายแดนจนหัวแตก แขนหัก นายณัฐพลได้นำไม้ที่ใช้ทำร้ายไปทิ้งก่อน 4 อัน แต่ครั้งนี้รุนแรงจนน้องชายแดนเสียชีวิต นายณัฐพลจึงได้เด็กชายที่เป็นลูกสมุนนำไม้เบสบอลที่เหลือ ทั้งไม้ที่ใช้ตีและไม้ที่ยังใหม่ไม่ได้ใช้นำไปทำลายหลักฐาน โดยนายณัฐพล เป็นผู้ขับรถพาไปทิ้งบริเวณใต้สะพานแม่น้ำปิง ซึ่งเป็นจุดที่ไม่มีกล้องวงจรปิดและไม่มีบ้านคนพักอาศัย และการที่นายณัฐพล ต้องนำไม้เบสบอลที่มีอยู่ในบ้านทั้งหมดเอาไปทิ้ง เพราะกลัวจะเป็นหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงประเด็นการใช้ความรุนแรงในสถาบันได้ แต่สุดท้ายชุดค้นหา ติดตามหาวัตถุพยานสำคัญจนพบ พร้อมกับมีหลักฐานเป็นป้ายชื่อนายณัฐพล ติดไว้ที่ถุงห่อไม้เบสบอลด้วย"
ส่วนประเด็นร่องรอยอวัยวะที่มีรอยไหม้นั้น เป็นการสั่งการจากนายณัฐพล ไปยังเด็กชายลูกสมุนระดับหัวหน้า ให้ไปบังคับเพื่อนนักเรียนที่เรียนอยู่ด้วยกัน ร่วมกันจับขึงน้องชายแดนไม่ให้ดิ้นหนี จากนั้นจึงจุดไฟแช็กลนที่อวัยวะเพศ ต่อหน้าเพื่อนๆ ที่ร่วมกันทำทั้งที่ไม่เต็มใจ แต่เพราะโดนบังคับ หากไม่ร่วมมือจะถูกรุมทำร้าย ซึ่งสถาบันกวดวิชาเตรียมทหารแห่งนี้ ใช้ความรุนแรงกับเด็กนักเรียนที่มาเก็บตัวเพื่อศึกษาอยู่ตลอด และตัวน้องชายแดนนั้น ไม่ได้แค่ถูกทำร้ายอย่างรุนแรง 2 ครั้ง แต่ถูกกระทำหลายครั้ง
ขณะเดียวกันนายอรรถพร สีหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุม วางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ เช่นเดียวกับสถาบันกวดวิชาเตรียมทหาร "กวดวิชาบ้านพี่ณัฐ" ซึ่งในห้องประชุมกลุ่มโรงเรียนเอกชนนอกระบบ จ.นครสวรรค์ ได้ชี้แจงให้ข้อมูลว่าสถาบันที่เป็นข่าวนั้น ไม่ได้ขอจดทะเบียนจัดตั้งโรงเรียนอย่างถูกต้อง หรือเรียกว่าโรงเรียนเถื่อน จึงไม่มีระบบประกันคุณภาพการตรวจนิเทศจาก ศธจ.แต่อย่างใด ซึ่งได้เข้าแจ้งความดำเนินกับตำรวจที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ไว้แล้ว
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับว่าเป็นเหตุการณ์สะเทือนใจเป็นอย่างมาก ดุเดือดแม้กระทั่งในโซเชียลที่เรียกร้องเป็นเสียงเดียวกันว่าให้ "ประหารชีวิต" เพราะสิ่งที่นายณัฐพลได้กระทำกับน้องชายแดนมันรุนแรงเกินไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี