เสียงจาก‘ไทยพุทธ’รุ่นสุดท้ายแห่ง‘สากอ’ ขอแค่ได้ตักบาตร ฟังพระสวดมนต์
17 กรกฎาคม 2562 นางวานิช อักษรภักดิ์ นายกสมาคมไทยพุทธรักชาติจังหวัดยะลา กล่าวว่า จากการที่ได้รับฟังเสียงจากชาวบ้านไทยพุทธกลุ่มสุดท้ายไม่ถึง 20 คนที่ ต.สากอ อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นผู้สูงอายุ ชาวบ้านสะท้อนว่าเหตุความรุนแรงทำให้ชาวไทยพุทธกลุ่มใหญ่ที่เคยมีมากกว่า 120 ครอบครัว ย้ายถิ่น ทำให้ปัจจุบันเหลือไม่ถึง 20 คน ทั้งที่อยู่ห่างจากวัดประมาณ 10 กิโลเมตร
ทั้งนี้ พื้นที่แห่งนี้อยู่ในเขตรอยต่อระหว่าง อ.รามัน จ.ยะลา กับ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดเหตุการณ์รุนแรง และเมื่อก่อนก็เกิดเหตุการณ์อยู่บ่อยครั้งระหว่างทางจากชุมชนไปวัด จึงไม่มีการยืนบิณฑบาตของพระสงฆ์มาตั้งแต่บัดนั้นจนถึงปัจจุบัน
นายกสมาคมไทยพุทธรักชาติยะลา กล่าวอีกว่า ชาวบ้านจึงขอฝากเรียกร้องให้หน่วยงานด้านความมั่นคง ได้นิมนต์พระมายืนบิณฑบาต และสวดมนต์ เพื่อเป็นที่พึ่งทางใจให้ชาวบ้าน โดยสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวบ้านเพื่อฟื้นฟูวัฒนธรรมความเป็นอยู่แบบครั้งก่อน เพื่อให้ชาวไทยพุทธที่อาจจะเป็นกลุ่มหรือรุ่นสุดท้ายที่มีอยู่ได้มีพระและวัดเป็นที่พึ่งทางใจ สำหรับคนรุ่นลูกหลานคงไม่กลับมาอยู่อีกต่อไปแล้ว ต่างไปอยู่นอกพื้นที่กันเกือบหมด เพราะยังไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัย
ด้าน พ.อ.สิทธิศักดิ์ เจนบรรจง ผบ.ฉก.ทพ.41 สั่งการเน้นย้ำให้กำลังพลเข้าพบปะเยี่ยมเยียน พัฒนาสัมพันธ์กับประชาชนไทยพุทธ เพื่อสอบถามปัญหาความเดือดร้อน ความต้องการเพิ่มเติม และรับฟังปัญหาข้อขัดข้อง ข้อเสนอแนะของประชาชนชาวไทยพุทธในพื้นที่ อ.รามัน เพื่อต้องการให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ว่าศาสนาหรือเชื้อชาติใด ย่อมเป็นประชาชนชาวไทยอยู่ร่วมแผ่นดินไทย อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
ทั้งนี้ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 มีดำริให้หน่วยกำลังในพื้นที่รับผิดชอบ หมั่นลงพื้นที่พบปะประชาชนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชนมีความอุ่นใจและลดความหวาดระแวง เข้าใจการทำงานของภาครัฐอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะร่วมกิจกรรมที่สร้างสรรค์เกิดประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่
พ.อ.สิทธิศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ภารกิจหลักนอกจากหน่วยกำลังต้องดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่รับผิดชอบของแต่ละหน่วยแล้ว สิ่งที่สำคัญที่แม่ทัพภาคที่ 4 กำชับ คือ การสร้างมวลชนให้เกิดพื้นที่สันติสุข ปราศจากปัญหายาเสพติด ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติที่ควบคู่กัน เพราะหากยาเสพติดลดลงและหายไปจากพื้นที่ เชื่อว่าปัญหาอื่นๆ ก็จะหมดไป
“เยาวชนในพื้นที่ถือเป็นจุดอ่อนที่ต้องเฝ้าระวังที่สุด หากต้องพึ่งหน่วยงานภาครัฐอย่างเดียวคงไม่ได้ ฉะนั้นผู้นำท้องที่และผู้ปกครองควรจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังลูกหลานของตนเองด้วย และหากเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนช่วยกัน เชื่อเหลือเกินว่าครอบครัวมีความสุข พื้นที่ชายแดนใต้ กลับมาสันติสุขแน่นอน” ผบ.ทพ.41 กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี