โรงเรียนยันไม่‘เหยียดเพศ’ ประเมิน‘ครูสาวข้ามเพศ’ตามระเบียบ
จากกรณีที่มีนักสิทธิมนุษยชนด้านสิทธิความหลากหลายทางเพศ โพสต์เรื่องราวของ “ครูบอล” ซึ่งเป็นครูสาวประเภทสอง หรือ “ครูข้ามเพศ” อ้างว่าถูกผู้บริหารกดดันและกลั่นแกล้ง เพียงเพราะเป็นครูข้ามเพศ และเรียกร้องอยากจะแต่งหญิงไปสอนหนังสือ จนถูกเลือกปฏิบัติทำให้ไม่ผ่านประเมิน เพื่อบีบให้ออกจากราชการ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ครูสาวข้ามเพศโวย! ถูกบีบให้ออกจากราชการเพียงแค่แต่งกายตามเพศสภาพ)
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2562 นายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และคณะทำงานเพี่อความเท่าเทียมทางเพศ ได้เดินทางไปพบกับ “ครูบอล” ครูผู้ช่วยโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เพื่อรับฟังข้อมูลและปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อเดินทางไปถึงโรงเรียนก็ได้พบและพูดคุยเพื่อรับฟังข้อมูลจากทั้ง 2 ฝ่าย
นายธัญญ์วาริน กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็น สส.ผู้มีความหลากหลายทางเพศ เมื่อทราบข่าวว่ามีครูข้ามเพศคนหนึ่งถูกเลือกปฏิบัติ จึงได้ลงพื้นที่เพื่อมารับฟังข้อมูลจากครูบอลที่ตกเป็นข่าว แต่พอมาถึงโรงเรียนก็มีได้พบกับทั้งครูบอล และตัวแทนโรงเรียน จึงได้พูดคุยและรับฟังข้อมูลของทั้ง 2 ฝ่ายพร้อมกัน
นอกจากนี้ ยังได้มาโปรโมทหนังสือเรียนวิชาสุขศึกษาของ ป.1-ม.6 ซึ่งได้บรรจุข้อมูลเกี่ยวกับการทำความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศ และมองว่ากรณีของครูบอล อาจจะเป็นกรณีศึกษาหรือจุดเริ่มต้นที่จะต้องให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศในสถานศึกษา เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน และหลังจากรับฟังข้อมูลแล้วจะได้ไปปรึกษาหารือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดความไม่เข้าใจในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก
ขณะที่ “ครูบอล” ยืนยันว่า ที่ตัวเองถูกประเมินให้ไม่ผ่านเพราะการร้องขอแต่งหญิงไปสอน ส่วนที่ทางโรงเรียนพยายามชี้แจงว่าไม่ใช่เรื่องการแต่งกาย แต่เป็นพฤติกรรมมากกว่านั้น ตนยืนยันว่าพฤติกรรมก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เพราะมีความตั้งใจในการทำงานทุกครั้งและทำงานที่ได้รับมอบหมายเต็มที่ และยังมองว่าทางโรงเรียนไม่ได้ยอมรับในเพศสภาพของตัวเอง
“ครูบอล” ยังยืนยันอยากจะแต่งกายตามเพศสภาพของตัวเอง เพราะคิดว่าไม่ได้ไปกระทบหรือทำร้ายสิทธิของใคร ในส่วนของระเบียบเท่าที่ตนเองศึกษามาใน พ.ร.บ.ความเท่าเทียมทางเพศ ไม่ได้มีข้อห้ามเรื่องการแต่งกายตามเพศสภาพ และยอมรับว่าหลังที่มีกระแสในโซเชียลและออกเป็นข่าว ก็มีแรงกดดันจากหลายๆทาง แต่เชื่อว่ายังมีความยุติธรรมอยู่
ด้านนางอาภาภรณ์ แปลงไธสง รักษาการรองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิชาการโรงเรียน ชี้แจงว่า ทางผู้บริหารและคณะครูในโรงเรียน ไม่ได้เลือกปฏิบัติหรือกลั่นแกล้งครูบอล ตามที่ถูกกล่าวหาและยืนยันว่า การประเมินครู หรือบุคลากรในโรงเรียน เพื่อประกอบการเลื่อนขั้นเงินเดือน และประเมินการทำงานเพื่อรับการบรรจุ จะต้องมีการประเมินทุกคน
“ในส่วนของครูบอล ซึ่งเพิ่งบรรจุใหม่ในตำแหน่งครูผู้ช่วยก็ต้องมีการประเมินแบบเข้ม ทั้งในเรื่องจรรยาบรรณครู ระเบียบวินัยข้าราชการครู รวมถึงการปฏิบัติตน การครองตน ครองคน ครองงาน ซึ่งมีการแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินตามระเบียบ โดยมีรองผู้อำนวยการทั้ง 4 ฝ่าย และครูผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งการประเมินจะเน้นเกี่ยวกับเรื่องการปฏิบัติงานและผลงานเป็นหลัก ยืนยันว่าไม่มีการกลั่นแกล้ง แต่สิ่งที่ครูบอล ไปหยิบยกขึ้นมาว่าที่ไม่ผ่านการประเมิน เพราะเรื่องขอแต่งกายตามเพศสภาพเท่านั้น แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ ยืนยันว่าเป็นการประเมินตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่กำหนดตามมาตรฐานเดียวกันทุกคน ซึ่งมีหลายคนที่ประเมินครั้งแรกแล้วไม่ผ่าน แต่หลายคนกลับปรับปรุงแก้ไขจุดบกพร่อง และพัฒนาตัวเองจนผ่านการประเมิน” นางอาภาภรณ์ กล่าว
นางอาภาภรณ์ ยอมรับว่า กรณีที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบกับทางโรงเรียน และคณะครูในโรงเรียนเป็นอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาครูต่างก็ตั้งใจทำหน้าที่ในการจัดการเรียนการสอน และดูแลนักเรียน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็กพิเศษกันอย่างเต็มที่ แต่กลับต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ก็รู้สึกเสียใจ และอยากขอความเป็นธรรมและขอความเห็นใจจากสังคมหรือผู้ที่บริโภคข่าวสาร หรือโซเชียลต่างๆ ขอให้ฟังเหตุผลอย่างรอบด้าน อย่าเพิ่งตัดสินหรือวิพากษ์วิจารณ์ จากการฟังข้อมูลเพียงด้านเดียว ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นก็จะได้หารือไปยังผู้เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาหรือหาทางออกให้ได้ข้อยุติในแนวทางที่ดีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี