เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2562 ที่วัดเสถียรวัฒนดิษฐ์ ต.บางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีบรรดาคอหวยต่างแห่มาร่วมพิธีบวงสรวง เจ้าแม่ตะเคียนทอง เมื่อวานนี้ (26 ก.ค.) และมารอเลขเด็ด ณ วัดเสฐียรวัฒนดิษฐ์ หลังจากที่เคยมาร่วมพิธีมาแล้ว 5 ครั้ง โดยเลขเด็ดที่ได้ทุกครั้งต่างถูกกันถ้วนหน้าติดต่อมา 5 งวด จนมาถึงครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6จึงมีบรรดาคอหวยให้ความสนใจเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก มีแม่ค้า พ่อค้ามาตั้งร้านขายของหลายร้านบรรยากาศครึกครื้นเหมือนมีงานวัด ซึ่งเจ้าพิธีคือ โหร อาคม จาก ต.เขาพระงาม อ.เมือง จ.ลพบุรี ได้มาทำพิธีขอโชคลาภจาก เจ้าแม่ตะเคียนทอง โดย โหรอาคม ได้ทำพิธีจุดเทียนน้ำมนต์ จนปรากฏเป็นเลขในขันน้ำมนต์ที่ตีกันออกมาเป็น 65780 680 80 70 85 เป็นต้น
สอบถาม นางอารีย์ ปานสุนทร อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 หมู่ที่ 1 ต.บางมัญ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ซึ่งเป็นคณะกรรมการของวัดเสฐียรวัฒนดิษฐ์ เล่าว่า ตนเห็นต้นตะเคียนยืนต้นใหญ่อยู่ในวัดนี้มาตั้งแต่เด็ก โดยมีความสูงประมาณ30 เมตร กว่าๆ ขนาดประมาณ 2 คนโอบ ต่อมาเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วหลังน้ำท่วม ต้นตะเคียนได้หักโค่นล้มลงมา แต่ก็ไม่มีใครขยับ ยังคงตั้งอยู่ที่เดิม และมีชาวบ้านแถวนี้เล่าว่าในเวลาพลบค่ำที่ผ่านมาในวัดได้เห็นผู้หญิงห่มสไบนั่งอยู่บนกิ่งต้นตะเคียนที่ล้ม จนเล่าต่อๆ กันมาจนมีประชาชนเริ่มมากราบไหว้และขอโชคลาภจากต้นตะเคียน
และเมื่อมีคนถูกหวยได้โชคลาภ ก็พากันมาแก้บนและนำชุดไทยมาแขวนไว้จนเต็ม และพูดต่อๆ กันถึงความศักดิ์สิทธิ์ของต้นตะเคียนนี้ เมื่อมีคนที่ได้โชคลาภจากต้นตะเคียนก็มาสร้างศาลาครอบไว้ และมีคนที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาขอโชคลาภจากต้นตะเคียนแห่งนี้ต่อเนื่อง และเมื่อไม่นานนี้มีคนไปเชิญโหรอาคม จาก ต.เขาพระงาม จ.ลพบุรี ที่มีลูกศิษย์ลูกหาเคารพนับถือมาทำพิธีขอโชคลาภจาก เจ้าแม่ตะเคียนทอง โดยจัดมาจนถึงงวดนี้เป็นครั้งที่ 6 แล้ว ซึ่ง 5 งวดที่ผ่านมามีคนถูกล็อตเตอรี่มีโชคลาภกันถ้วนหน้า และในครั้งนี้มีชาวบ้านได้นำรูปภาพต้นตะเคียนเมื่อครั้งที่ยังยืนต้นอยู่มาให้ประชาชนที่ศรัทธาได้ชมอีกด้วย
สำหรับ วัดเสถียรวัฒนดิษฐ์ เดิมชื่อว่า “วัดท่าควาย” เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งสร้างในปลายสมัยอยุธยาเนื่องจากที่ตั้งของวัดเป็นทางผ่านของผู้ใช้เกวียนและล้อเลื่อนต่างๆ มักจะมาพักบริเวณนี้เพราะเป็นที่ร่มรื่น มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมทำให้บรรยากาศรอบๆ วัดเย็นสบาย ประกอบกับชาวบ้านแถบนั้นทั้งหมดมีอาชีพในการทำนา หลังจากไถนาเสร็จและถึงเวลาให้ควายกินน้ำ เจ้าของมักจะพาควายของตนมาที่วัด นานวันไปกลายเป็นแหล่งชุมนุมของชาวนาในพื้นที่ไป อันเป็นที่มาของชื่อ “วัดท่าควาย”
แต่ผ่านมาอีกช่วงระยะเวลาหนึ่งชาวบ้านพร้อมใจกันเรียกชื่อวัดท่าควายเสียใหม่ว่า “วัดท่ากระบือ” ให้ไพเราะและดูสุภาพ หลังจากนั้นได้มีผู้ตั้งชื่อวัดใหม่ให้เป็นมงคลสืบไปว่า “วัดเสฐียรวัฒนดิษฐ์” นอกจากนี้ยังมีพระเถราจารย์ชื่อดังในยุคเก่าอีกรูปหนึ่งแห่งเมืองสิงห์บุรี คือ “หลวงพ่อเชย” เป็นผู้มีเมตตาธรรมสูง มักน้อย ถือสันโดษ มีพลังจิตที่เข้มขลัง และมีพุทธาคมแก่กล้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านได้ศึกษาวิชาจาก หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พระเกจิอาจารย์ชื่อดังในสมัยนั้น ถึงขนาดที่หลวงปู่ศุข ได้กล่าวยกย่องหลวงพ่อเชยว่า เป็นพระเถระผู้มีพลังจิตสูง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี