เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2562 นายมนัส หมวดเมืองผู้จัดการสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านหนองครก อ.รัษฎา จ.ตรัง กล่าวว่า ภายหลังการรับฟังการแถลงนโยบายรัฐบาล เกี่ยวกับการแก้ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะยางพารานั้นนโยบายรัฐบาลเห็นว่า ไม่มีความชัดเจนพอที่จะสร้างความมั่นใจเรื่องการแก้ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำให้แก่ประชาชน ส่วนตัวอยากเห็นนโยบายแก้ปัญหาเชิงพื้นที่ด้วย เช่น จังหวัดตรังการพัฒนาต่อยอดแปรรูปยางพาราปลายน้ำเกิดขึ้นได้ยาก เนื่องจากติดขัดปัญหาเรื่องผังเมืองรวม ติดขัด พ.ร.บ.ผังเมือง และอุตสาหกรรม ทำให้สหกรณ์ต่างๆ รวมทั้งวิสาหกิจ หรือการลงทุนสร้างโรงงานยกระดับหรือพัฒนาแปรรูปยางพารา เพื่อเข้าสู่ตลาดแข่งขันเกิดขึ้นไม่ได้ ควรจะมีการแก้ผังเมืองรวม เพื่อเอื้อให้เกิดพื้นที่การยกระดับสหกรณ์หรือโรงงานได้ ทำ และให้กระทรวงพาณิชย์ส่งเสริมให้เกิดการเจรจาทางการค้ากับต่างประเทศที่สามารถซื้อขายได้จริง ที่ผ่านมาไม่มีทำได้แค่การประโคมข่าว แต่เกษตรกรไม่ได้ขาย
ด้านนายถนอมเกียรติ ยิ่งฉ้วน เลขานุการเครือข่ายสถาบันเกษตรกรเขตภาคใต้ตอนกลาง และทีปรึกษาประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การแถลงนโยบายของรัฐบาลพบว่า เป็นการแถลงในภาพกว้าง แต่นโยบายที่จะนำมาซึ่งการปฏิบัติ เพื่อแก้ปัญหายางพาราทั้งระบบยังไม่มี คิดว่าหลังจากนี้ทางตัวแทนรัฐบาลหรือตัวแทนรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็คงจะเดินสายพบปะกับตัวแทนเกษตรกรแต่ประเภท เพื่อรับฟังแนวทางไปกำหนดเป็นนโยบาย เพื่อแก้ปัญหาสินค้าเกษตรต่อไป
"ในส่วนของยางพาราทางเครือข่ายสถาบันสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ตอนกลาง เตรียมจัดเวทีเสวนาแก้ปัญหายางทั้งระบบในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ ที่ จ.ตรัง ระหว่างตัวแทนรัฐบาลที่มาจากพรรคการเมืองกับเครือข่ายยางพาราภาคใต้ ผู้แปรรูปยาง เพื่อจัดทำข้อเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำไปจัดทำเป็นนโยบายรัฐบาลแก้ปัญหาราคายางพาราทั้งระบบต่อไป" นายถนอมเกียรติ กล่าว
นายถนอมเกียรติ กล่าวอีกว่า ตนเชื่อว่าตัวแทนรัฐบาลที่มีหน้าที่รับผิดชอบยางโดงตรงจะต้องรับฟัง ทั้งเรื่องข้อเสนอให้ขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐอย่างจริงจัง ,การเสนอให้มีการยกระดับราคา แทนการประกันราคาเหมือนที่หลายรัฐบาลทำมา ,การเสนอให้มีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนยางพาราไทย ระหว่าง กยท.กับสถาบันเกษตรกร , การเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการซื้อขายยางในตลาดกลาง โดยให้ยึดกับตลาดล่วงหน้าโตเกียว (TOCOM) เพียงตลาดเดียว เพราะเป็นตลาดสากลที่เปิดซื้อขายกับคู่ค้าและตลาดกลางทั่วโลก เพื่อให้เกิดเสถียรภาพด้านราคาการซื้อขาย และยึดเป็นกำแพงทางการค้า ในฐานะที่ไทยเราเป็นผู้ผลิตยางพารามากที่สุดในโลก เชื่อว่าหากรัฐบาลรับไปทำเป็นนโยบายออกมา จะทำให้แก้ปัญหายางพาราภายในประเทศได้ทั้งระบบ
ขณะที่นายประทบ สุขสนาน ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ตอนกลาง กล่าวว่า รวมทั้งขอให้รัฐบาลกำกับดูแลการทำงานของหน่วยงานการยางแห่งประเทศไทยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะหน่วยธุรกิจของการยาง หรือ BU ที่ผ่านมาทำงานล้มเหลว ดำเนินธุรกิจผิดพลาด เข้าประมูลยางในตลาดกลางไม่ครบทุกตลาด ไร้เสถียรภาพด้านราคา และประมูลยางในราคาที่สูงเกินจริง เป็นผู้ทำลายระบบกลไกของตลาดเสียเอง อยากให้รัฐบาลกำกับดูแลการทำงานของ กยท.และหน่วยธุรกิจการยางอย่างใกล้ชิด นโยบายของ กยท.ก็ต้องชัดเจนและต่อเนื่อง และเลือกคนทำงานที่มีความรู้ความสามารถเรื่องยางพาราอย่างแท้จริงมาทำงาน อย่าให้เหมือนที่ผ่านมาๆมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี