ชาวบ้าน "บ้านหัวร้อง" ต.นครไทย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก สืบสานตำนานอาชีพคนแทงหยวกหนึ่งในศิลปะช่างสิบหมู่ ที่เป็นสิ่งที่หาดูได้ยากมากแล้วในปัจจุบัน
"การแทงหยวก" หรือ "การแกะสลักหยวก" ให้มีลวดลายต่างๆนั้นถือเป็นหนึ่งใน "ศิลปะช่างสิบหมู่" ที่หาดูได้ยากมากแล้วในปัจจุบัน โดยมีต้นกำเนิดมาจากคนมอญ การแทงหยวกนั้นจะต้องใช้ต้นตานีสวนที่คัดมาอย่างดี เพราะเนื้อผิวจะสวยเวลาแกะจะเกิดความสวยงาม แต่ใครล่ะจะรู้ว่าในพื้นที่บ้านหัวร้อง ต.นครไทย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก นั้นยังมีศิลปะของดีในชุมชนแบบนี้อยู่และสืบทอดเป็นของดีในชุมชนจากรุ่นสู่รุ่นมานานกว่า 100 ปีแล้ว
โดยผู้ที่ยังคงสืบสานอาชีพนี้ไว้ ก็คือ นายสิทธิศักดิ์ วิเชียรสรรค์ หรือ “อาจารย์เดียร์” อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 312 ม.6 ต.นครไทย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เล่าว่า สืบทอดฝีมือและเอกลักษณ์งานแทงหยวกกล้วย ประกอบแลแห่นาคของชาวนครไทยมาตั้งแต่ปี 2517 เพราะอยากจะสืบสานงานแทงหยวกประดับแลแห่นาค ที่เป็นประเพณีหนึ่งเดียวในประเทศหรือในโลกนี้ก็ว่าได้ และยินดีที่จะสอนแก่เด็กๆเพื่อหารายได้เสริมให้กับครอบครัว เพื่อให้คนรุ่นหลังได้สืบสานอนุรักษ์ไว้ เพราะไม่อยากให้ศิลปะอันดีงามของไทยสูญหายไป จนได้ไปเป็นวิทยากรสอนการแทงหยวกกล้วยให้แก่สถาบันการศึกษาต่างๆ อีกมาก เด็กนักเรียนจะเรียกว่า...“อาจารย์เดียร์ปราชญ์ชาวบ้าน”
อาจารย์เดียร์ บอกอีกว่า ก่อนจะสอนการแทงหยวกให้กับลูกหลานหรือชาวบ้านที่สนใจ ต้องมีการ "ครอบครู" ก่อนจึงฝึกสอนกันได้ โดยในช่วงแรกเป็นการช่วยครูทำสิ่งที่ง่ายๆก่อน ต่อมาเมื่อมีความชำนาญหรือมีลักษณะเพิ่มมากขึ้น จึงสามารถรับงานทั่วไปได้ เช่น นายณัฐวุฒิ นิลผาย และนายสุรเชษฐ์ อิ่มชม เด็กในชุมชนที่เรียนรู้วิธีการแทงหยวกมาตั้งแต่สมัยเรียน ม.4 จนตอนนี้เรียน ปี 2 แล้ว เรียกได้ว่ามีความชำนาญจนสามารถรับงานได้ และสร้างรายได้เสริมระหว่างเรียน ได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีเด็กๆ ในชุมชนที่สนใจอยากเรียนรู้ ก็มักจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาช่วยจัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ บ้างก็ช่วยทากาว ติดผ้า ตัดต้นกล้วยแล้วแต่ว่าเขาอยากทำอะไร
“สำหรับขั้นตอนในการแทงหยวกจะต้องเลือกใช้กล้วยตานีที่ยังไม่ออกผล โดยต้องตัดหยวกกล้วยให้มีขนาดประมาน 30-40 เซนติเมตร ตัดหัว-ท้ายออก เสร็จแล้วก็นำไปยึดกับโครง และต้องลากกาบที่ไม่สวยออกไป แล้วจึงเริ่มการแทงหยวก อุปกรณ์ก็ต้องมีมีดปลายแหลม กระดาษสีที่ใช้รองด้านในให้เกิดความสวยงามมากขึ้น หากมองด้วยตาเหมือนจะง่าย แต่จะบอกว่าไม่ง่ายอย่างที่ตาเห็น เพราะถ้าทำไม่เป็นแกะพลาดไปนึดนึงเละเลย ศิลปะประเภทนี้ต้องใช้ความชำนาญเป็นอย่างมาก และการฝึกฝนเป็นประจำ โดยลายที่นำมาแกะ ก็จะมีทั้งลายฟันสาม ลายฟันปลา ลายหงส์คาบเครือ ลายเครือเถาวัลย์และลายน่องสิงห์ แต่ละลายก็มีความยากง่ายแตกต่างกันไป พอแกะเสร็จเขาก็จะนำไปใช้ในการประดับตกแต่งแลให้มีความสวยงาม” อาจารย์เดียร์ กล่าว
การแทงหยวกนั้นถือเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างรายได้ให้คนในชุมชน โดยใช้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น นำสิ่งที่หาได้ เช่น ต้นกล้วยตานีมาแกะสลัก เป็นลวดลายให้เกิดความสวยงาม นำไปใช้ในงานบุญ งานศพ หรือจะใช้ในงานประเพณีต่างๆก็ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องใช้ความสร้างสรรค์เฉพาะตัวของผู้แกะสลักซึ่งถือว่าเป็นของดีในชุมชนที่หาดูได้ยากมาก และการสืบทอดศิลปะนี้ จะช่วยอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นไปถึงคนรุ่นหลังได้มาเรียนรู้กันต่อไปอีกด้วย สำหรับท่านใดที่สนใจ ในอาชีพคนแทงหยวก หรือต้องการจะสั่งแทงหยวกประดับแล เพื่อใช้ในงานประเพณีต่างๆ ก็สามารถติดต่อได้ที่ หมายเลข 0987728045
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี