อำเภอนาด้วง เป็นอำเภอหนึ่งเล็กๆ ของจังหวัดเลย ที่นี่มีการเลี้ยงด้วงงวงมะพร้าว โดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงด้วง บ้านท่าสวรรค์ ต.ท่าสวรรค์ อ.นาด้วง จ.เลย นำด้วงมาทำเงิน ณ วันนี้ ไปได้ดีและกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดในอาเซี่ยนและตลาดโลก
นางสาวนรีกานต์ แก้วสา หรือ "อ้อย" อายุ 42 ปี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงด้วง ต.ท่าสวรรค์ กล่าวว่า อดีตตนเป็นพนักงานสินเชื่อแบงค์กรุงศรีอยุธยา ที่กรุงเทพมหานคร อยากกลับมาบ้าน เนื่องจากอยากจะมาดูแลครอบครัว ดูแลพ่อแม่และไม่อยากอยู่กรุงเทพฯ เนื่องเบื่อรถติด โดยกลับมาอยู่บ้านได้ 5 ปีแล้ว และมาเริ่มตั้งกลุ่มเกษตรอยู่ที่บ้านท่าสวรรค์ หมู่ 2 บ้านโนนสวาท ต.ท่าสวรรค์ อ.นาด้วง จ.เลย
สำหรับแรงบันดาลใจที่คิดจะมาเลี้ยงด้วงนี้ คือ จากเพื่อนที่จังหวัดพังงาเขาเลี้ยงด้วงสาคูจะดัดแปลงมาเป็นเปลือกมะพร้าวและอ้อย เพราะเราไม่มีต้นสาคูดัดแปลงแล้วก็เอาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มาจากพังงา ของเพื่อนเริ่มจาก 20 กะละมังได้ผลผลิต 12 แต่ไม่ถอย ลองผิดลอง มาจนสำเร็จ
ปัจจุบันกลุ่มเรามีผู้เลี้ยงด้วงด้วยแล้ว 54 ครอบครัวต่อรายใน ต.ท่าสวรรค์ อ.นาด้วง ในช่วงแรกได้รับการสนับสนุนด้านวัสดุอุปกรณ์รับรองจากองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ท่าสวรรค์ อำเภอนาด้วง เกษตรอำเภอนาด้วง มาช่วยอุปกรณ์การเรียนให้แก่ชาวบ้านทุกครอบครัวที่เลี้ยงด้วง จนมีรายได้เพิ่มเป็นอาชีพเสริมเป็นการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนเพิ่มรายได้ในครัวเรือน เจ้าบ้านมีกำลังใจเรียนเพียง 1 เดือนก็ได้เข้าสู่ตลาด และนำมูลหรือขี้ด้วงนั้นมาเป็นปุ๋ยหมักปุ๋ยชีวภาพให้กับเพื่อนและยังและนำไปเป็น อาหารของไก่ สัตว์ปีกได้ด้วย
"วันนี้เราสามารถนำไปจำหน่ายในราคาประมาณ 250 บาทต่อกิโลกรัม มีพ่อค้าจากอุดรธานี และฝั่งลาวทางเวียงจันทร์ข้ามมารับซื้อ มีการส่งไปขายทุกอาทิตย์ และจะนำไปขายที่ฝั่ง สปป.ลาวในราคา 500-750 บาท"
สำหรับแนวคิดในเรื่องการเลี้ยงด้วงมาจากเพื่อนที่จังหวัดพังงา เขาเลี้ยงด้วงสาคูจึงมาดัดแปลงมาเป็นเปลือกมะพร้าวและมาเปลี่ยนเป็นอ้อย เพราะที่จังหวัดเลยนั้นเราไม่มีต้นสาคูดัดแปลงแล้วก็เอาพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์มาจากพังงาของเพื่อนเริ่มจาก 20 กะละมังได้ผลผลิต 12 กะละมัง แต่ได้ลูกด้วงเป็นจำนวนมาก ตลาดพ่อค้ามารับที่ฟาร์ม และการเลี้ยงด้วงนั้นปลอดสารพิษ ยอดจำหน่ายแต่สัปดาห์กว่า 200 กิโลกรัม
ต่อมาได้รับการวิจัยจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นและบริษัทห้องปฏิบัติการกลางประเทศไทยจํากัด หรือเซ็นทรัลแล็ป มีใบรับรองให้ว่าตัวด้วงที่เราเลี้ยงให้คุณค่าทาง อาหารสูงโปรตีน พลังงานสูง มีผลดีต่อสุขภาพให้เกิดความชุ่มชื้นให้คาร์โบไฮเดรต ที่สำคัญปลอดสารพิษรักษาสิ่งแวดล้อมและมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายผู้บริโภคส่วนผลกระทบที่จะไปเจาะต้นมะพร้าวจากพืชและด้วงของเราก็ไม่ไปรบกวนพืชอื่นๆ เพราะเราเลี้ยงในกะละมังมีฝาปิดมิดชิดแน่นหนาและยังเป็นปุ๋ยหมักที่กลุ่มลูกค้าที่ทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ต้องการเป็นอย่างมาก
สำหรับ "ด้วง" ามารถนำมาปรุงเป็นอาหาร มีหลายเมนู ได้แก่แกงหน่อไม้ด้วง ด้วงแช่น้ำปลา ข้าวเกรียบด้วงน้ำพริกร่วง กระเพราด้วงมะพร้าว ด้วงคั่วจิ้มซอส ด้วงทอดสมุนไพร ต้มยำด้วง พริกแกงด้วงผัดพริกเผา ด้วงนึ่งมะนาว ด้วงย่างเกลือและยำด้วงจี๊ดจ๊าด และห่อหมกด้วงผัดก็สามารถทำได้ ซึ่งหากใครสนใจในตัวด้วงหรือสนใจ อยากนำไปจำหน่ายสามารถติดต่อได้ที่ 061 484 3829
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี