ช่วงนี้จะเห็นแต่เรื่องราวของการให้บริการของรถโดยสาร เมื่อเร็วๆ นี้ก็ได้มีการโพสต์เรื่อง "ตั๋วผี" ที่ทำเอาร้อนไปทั้งขนส่งและบริษัทโดยสารรถทัวร์รายดังกล่าวที่ต้องสืบตามหาตัวผู้กระทำผิด
ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 12 สิงหาคม 2562 ซึ่งเป็นวันแม่แห่งชาติลูกๆ ต่างพาแม่และครอบครัวไปฉลองเพราะ 1 ปีมีครั้งเดียว แต่กลับมีแท๊กซี่โดยสารบางคันฉวยโอกาสรับผู้โดยสารจากต้นทางที่รังสิตเพื่อจะพาไปส่งบ้านพักแถวสาทร แต่พาไปส่งไม่ถึงที่โดยอ้างว่าลูกโทร.มาบอกว่ารอพาไปฉลองวันแม่อยู่จึงส่งผู้โดยสารไว้บริเวณป้ายรถเมล์หน้าซอยมหานคร เขตบางเขน
เป็นจังหวะเดียวกับที่ "ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์" กำลังจะเดินไปรอขึ้นรถเมล์พอดี จึงไม่ได้ทันเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรกว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร เพราะพอเดินมาถึงก็เห็นคุณป้า วัย 50 ปี กำลังยืนบ่นเรื่องแท็กซี่ปฏิเสธไม่รับคนอยู่ จึงได้เข้าไปสอบถามทราบชื่อคุณป้ามาลัย (ขอสงวนชื่อจริง และนามสกุล) เดินทางมาจากโคราช เพื่อเอาของกินของฝากมาให้ลูกที่บ้านพักแถวสาทร
คุณป้าบอกว่า ส่วนใหญ่ถ้าจะมากรุงเทพฯ ลูกสาวจะเป็นคนไปรับ เพราะเมื่อหลายปีมาแล้วป้าเคยขึ้นรถทัวร์ไปลงที่ "หมอชิต" แต่ถูกแท็กซี่เรียกเก็บค่ารถแบบ "เหมาจ่าย" กว่า 300 บาทก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะมันคงไกลมาก เมื่อมาถึงที่บ้านแล้วเล่าให้ลูกสาวฟังเขาก็บอกไม่ให้ขึ้นแท็กซี่ที่นั่นอีก เพราะรถพวกนี้เก็บค่าโดยสารเกินราคาจริง
รอบนี้จึงนั่งรถตู้มาลงที่รังสิตและต่อแท็กซี่เพื่อไปหาลูกสาวที่สาทร เพราะลูกติดงานไม่ว่างกลับไปหาที่บ้านป้า จึงลงมาหาเองพร้อมกับของกินที่ลูกป้าชอบ แต่พอขึ้นรถแท็กซี่วิ่งมาได้สักพักคนขับแท็กซี่ก็มีโทรศัพท์เข้า เขาจึงขออนุญาตส่งป้าที่ป้ายรถเมล์นี้และไม่เก็บตัง แต่ป้าก็ให้เพราะเขามีธุระกับครอบครัวเหมือนกับเรา เพราะครอบครัวรอกินข้าวฉลองอยู่และบ้านเขาอยู่คนละทางกับที่ป้าไป จึงตกลงว่าส่งที่ป้ายรถเมล์ที่ปลอดภัยพร้อมกับขอโทษป้าแล้วก็ไม่ได้ติดใจ เพราะนี่ถือเป็นแท็กซี่ที่ดี
"แต่ที่เห็นบ่นโวยวายเมื่อคืนเพราะเรียกแท็กซี่ 3 คัน แล้วแต่ไม่ไปสักคัน เลยคิดว่าและจะมาขับทำไมถ้าเรียกแล้วไม่ไป ถึงป้าจะไม่ได้รีบแต่นี่มันก็มืดแล้วแถมไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนของกรุงเทพฯ อีก เพราะกะจะต่อแท็กซี่อีกกับไม่มีใครไปสักคัน จึงรู้สึกหงุดหงิดแท็กซี่มาก ซึ่งแท็กซี่ที่ดีก็มีมาก แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นมักจะเจอแบบนี้มากกว่า"
จากนั้น "ทีมข่าวฯ" จึงเรียก Grab Car ให้ป้าพร้อมบอกให้ลองนั่งแบบนี้ดูปลอดภัยเหมือนกัน
ขณะเดียวกันเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการเตรียมอนุมัติปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารและค่าบริการแท็กซี่ใหม่ แต่การบริการยังคงเหมือนเดิม ซึ่งมันไม่ยุติธรรมต่อผู้ใช้บริการเสียเลย และเมื่อเช้าวันที่ 13 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา นางสุพรรณี การถาง อายุ 35 ปี ต้องรีบเดินทางไปประชุมในเมืองย่านเพลินจิต โดยยืนรอรถอยู่ที่ปากซอยวัดกก (พระราม2) แต่เรียกรถแท็กซี่แล้วกลับถูกปฏิเสธทุกคัน ซึ่งนางสุพรรณี บอกว่า เจอบ่อยมากจนมันซ้ำซากไปแล้ว เพราะต่อให้แจ้งไปปัญหาแท็กซี่ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสารก็ยังมีอยู่ให้เห็น แต่ก่อนยังไม่มี Grab ก็ขึ้นแท็กซี่เป็นประจำเจอมาหลากหลายรูปแบบ
"บางคันก็พูดจาไม่ดี บางคันนั่งมาก็ชวนดูดวงให้ถามวันเดือนปีเกิด อายุ แต่ก็ถือว่าดูไปแก้เคล็ด แต่ที่รับไม่ได้เลยคือบางคันขึ้นไปก็มีกลิ่นเหล้าคลุ้ง ไม่รู้ว่าไปรับผู้โดยสารดื่มมาหรือว่าตัวโชเฟอร์ดื่มเองไม่รู้ว่านั่งไปจะปลอดภัยกับเราหรือเปล่า จากที่เห็นการให้บริการของแท็กซี่ที่ผ่านมาบวกกับข่าวที่ออกมาว่าจะขึ้นค่าโดยสาร จึงคิดว่ามันไม่ยุติธรรมต่อผู้โดยสารเลย เพราะพวกคุณยังขจัดแท็กซี่บางกลุ่มที่เอาเปรียบผู้โดยสารไม่ได้ ไหนจะพวกปฏิเสธไม่รับผู้โดยสารอีกไม่ว่าจะเรียกไปที่ไหนก็อ้างสารพัด ทั้งรถติด ไกลคนละทางเติมแก๊ส ส่งรถ แก๊สหมด"
"เราฟังกันจนไม่อยากใช้บริการแล้วเพราะตั้งแต่มี Grab ก็หันมาใช้ Grab ตลอด เพราะเราไม่ต้องมาคอยระแวงหรือระวังอะไรมาก แถมบริการสุภาพจึงสนับสนุนถ้าทำถูกกฎหมายได้ก็จะดีต่อตัวคนขับและผู้โดยสารเองด้วย ขณะที่แท็กซี่อยากให้เราเห็นใจต้องทำมาหากินเหมือนกัน แต่คุณยังทำพฤติกรรมเดิมๆซ้ำๆ ก็ไม่รู้ว่าจะเห็นใจไปทำไม นี่แค่แท็กซี่บางกลุ่มที่ไม่ดี เพราะที่ดีก็มีเยอะแต่ต้องมาเสียหมดเพราะคนทำไม่ดีแค่ไม่กี่คน" นางสุพรรณี กล่าว
ด้าน น.ส.กัญภัจญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี กำลังยืนรอรถแท็กซี่อยู่ที่หน้าบิ๊กซีดาวคะนอง เพื่อไปบางแคได้บอกกับ "ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์" ว่า ใช้บริการแท็กซี่ตลอดตั้งแต่เรียนจนทำงาน ก็เจอทั้งดีบ้างไม่ดีบ้างแล้วแต่ดวง ส่วนใหญ่ที่เจอก็จะไม่ค่อยดีเท่าไร โดยคนขับแสดงพฤติกรรมแปลกๆใส่เรา อย่างลดกระจกลงและเอาตัวออกไปนอกรถทำท่ายิงปืนพร้อมทำเสียงประกอบ ด้วยความตกใจในพฤติกรรมของคนขับจึงบอกให้เขาจอดที่ป้ายรถเมล์ด้านหน้าที่กำลังจะถึง พอยื่นเงินให้ 100 บาท ก็บอกไม่มีตังทอน ซึ่งโชคดีที่มีผู้ชายเดินมาจะต่อรถจากเราพอดีและบอกจุดหมายปลายทางที่จะไปแต่แท็กซี่ก็ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสายชายรายนั้น
"เราก็เลยหาเศษจนครบค่ามิเตอร์ให้เขาไปแล้วรีบลงจากรถ พอลงจากรถก็หันหลังกลับไปมองเห็นเขากำลังเดินตามมา จึงรีบเลี้ยวเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่มีป้อม รปภ.และมี รปภ.นั่งอยู่เขาจึงกลับไปที่รถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว" น.ส.กัญภัจญ์ กล่าว
น.ส.กัญภัจญ์ กล่าวต่ออีกว่า เคยเจออีกเคสหนึ่งตอนเรียนมหาวิทยาลัยคือบอกจุดหมายปลายทางที่จะไปคือไปทางปกติที่เราไปทุกวัน แต่คนขับบอกจะพาไปอีกทางหนึ่งที่เป็นทางลัดซึ่งมีแท็กซี่คันอื่นใช้มุกนี้กับเราแล้ว เพราะเมื่อไปกับเป็นทางที่รถติดมาก จึงบอกไม่ไปจะไปทางปกติ
"เถียงกันอยู่พักใหญ่ คนขับก็พูดว่าไม่ไปก็ลง เราเลยบอกถ้าจะให้ลงก็จอดคนขับก็เลยจอดให้ลงกลางถนนเราก็เลยต้องจำใจลง หลังจากนั้นก็ไม่ขึ้นแท็กซี่อีกยอมนั่งรถเมล์ไปเรียนแทนเพียงแต่ออกเช้าหน่อยแต่ไม่ต้องเสี่ยงว่าในแต่ละวันจะเจอแท็กซี่แบบไหนอีก และการที่จะปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่ตนไม่เห็นด้วย ทั้งเรื่องความปลอดภัยจากพฤติกรรมคนขับซึ่งที่ผ่านมาไม่โอเคเลย แต่แท็กซี่ก็เคยเจอแต่ส่วนน้อยมากแค่ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ขณะที่แท็กซี่ที่ต้องเรียกโบกตามข้างทางน้อยมากที่จะดี จนกระทั่งมี Grab เข้ามาจึงกล้านั่งรถโดยสารอีกครั้งซึ่งตอนนี้ก็ใช้บริการเป็นประจำแล้ว" น.ส.กัญภัจญ์ ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี