“เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นแนวพระราชดำริที่ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงวางรากฐานไว้ให้แก่ประชาชนคนไทย โดยนำไปใช้ในชีวิตได้อย่างแท้จริง โดยทีมข่าวแนวหน้าเฉพาะกิจได้พูดคุยกับ น.ส.บุญริตา เถาวัลย์ หรือ “น้องเปรียว” นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ สาขานาฏยศิลป์ (ศิลปิน) ดาวมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ประจำปี 2561 เธอเล่าให้ฟังว่า ได้เดินทางจากบ้านเกิดที่ จ.ร้อยเอ็ด ดั้นด้นมาเรียนในเมืองแต่เธอก็ไม่ลืมคำสอนจากพ่อแม่เรื่องการ “พอมี พออยู่ พอกิน” เพราะหมู่บ้านของเธอมักประสบปัญหา “ภัยแล้ง” ทำให้ข้าวยืนต้นตายเพราะขาดน้ำทุกปี ครอบครัวของเธอจึงหันมาทำ “เกษตรผสมผสาน” ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเตรียมตัวล่วงหน้าในการสำรองน้ำไว้ใช้ โดยการ “ขุดสระน้ำ” ในที่ดินของตนเองเพื่อใช้ในยามแล้ง
“ซึ่งครอบครัวของหนูระลึกถึงพระองค์ท่านอยู่เสมอถึงคำสอนต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งเป็นศาสตร์ของพระราชาที่บริหารจัดการทั้งระบบอย่างการจัดการน้ำ ที่ท่านทรงคิดเรื่อง “ฝนหลวง” เพื่อบรรเทาความทุกข์แก่เกษตรกรที่ไม่มีน้ำกินน้ำใช้ในการทำเกษตร การทำฝาย สร้างแก้มลิงท่านก็ทรงคิดเองทั้งสิ้น” น.ส.บุญริตา กล่าว
น้องเปรียว เล่าต่อว่า “ภัยแล้ง” เป็นภัยจากธรรมชาติที่เราไม่สามารถไปบังคับมันได้ ถ้าถึงฤดูฝนเดือนมิถุนายน จะเป็นช่วงที่ชาวบ้านต้องไถนา หากฝนไม่ตกก็ต้องเลื่อนการปลูกข้าวออกไป เพราะข้าวจำเป็นต้องใช้น้ำ และปัญหาหลักๆของเกษตรกรส่วนใหญ่คือ “หนี้สิน” ที่เกิดจากการขาดทุนในการทำเกษตร เพราะเป็นเรื่องยากที่ทำแล้วจะประสบความสำเร็จมีกำไรกลับมา เช่นเดียวกับครอบครัวของเธอที่เป็นหนี้จากการเกษตร
แต่เราอยู่มาได้เพราะเดินตามรอยพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 เราแบ่งพื้นที่บนที่ดินของตัวเองปลูกข้าวเป็นพืชหลักส่งขาย ปลูกพืชเศรษฐกิจแซมช่วงที่ข้าวยังไม่ออกรวง แต่เราก็ไม่ลืมที่จะปลูกพืชผักสวนครัว เลี้ยงสัตว์ เพราะมูลสัตว์สามารถนำมาทดแทนปุ๋ยเคมีได้ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และหัวใจหลักของการทำเกษตรคือ “น้ำ” พ่อก็ได้แบ่งพื้นที่ทำสระน้ำขนาดใหญ่และปล่อยพันธุ์ปลาลงไป เมื่อมันโตเราก็เอามาทำกินและส่งขายต่อไปได้อีกด้วย ลำพังทำนาเพียงอย่างเดียวมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะขายได้กำไร เพราะสมัยนี้ต่างกับเมื่อก่อนที่ทุกอย่างอุดมสมบูรณ์ไปหมดที่ปลูกอะไรก็ขายได้มีกำไร ซึ่งเราคนไทยโชคดีที่มีในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงวางรากฐานไว้ให้แล้ว ถ้าเราทำตามเราก็จะรู้ว่าความสุขจริงไม่ได้อยู่ที่เงินทองอย่างเดียว แต่มันคือการ “กินอิ่ม-นอนหลับและไม่มีหนี้”
ขณะที่ปัญหาภัยแล้งส่งผลกระทบไปทั่วโดยเฉพาะเกษตรกรที่เป็นสันหลังของชาติ น้องเปรียว (ดาวมหาลัยฯ) จึงอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า อยากให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเมล็ดพันธุ์ ค่าเสียหายจากพืชผลเพราะจากที่รัฐชดเชยคือมันไม่คุ้มกับที่ลงทุนไป จากลงทุนไป 100 รัฐชดเชย 10 เปอร์เซ็นต์ต่อไร่ มันจึงทำให้เกิดหนี้ในเกษตรกรต่อไป อยากให้รัฐใส่ใจคนในภาคอีสานให้มากกว่านี้ ไม่ใช่ละเลยอย่างที่ผ่านมา “ถึงแม้พื้นที่ที่ดินจะแล้ง แต่คนอีสานไม่แล้งน้ำใจ”
ทั้งนี้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลส่งเสริมไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการฝึกฝนอาชีพ การส่งออกผลิตภัณฑ์หมู่บ้านเพื่อผลักดันให้เป็นสินค้า OTOP เพราะในหมู่บ้านก็มีโครงการทอผ้าของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์อยู่แล้ว ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะเพราะทำจากธรรมชาติ ที่หมู่บ้านทำตั้งแต่ปลูกต้นหม่อน เลี้ยงไหม จนถึงปั่นไหมทอผ้า ก็อยากให้รัฐเข้ามาช่วยส่งเสริม เพราะจะเป็นการสร้างรายได้เข้าสู่ชุมชนได้มหาศาล และยังเป็นการอนุรักษ์การทอผ้าไหมโบราณอีกด้วย ส่วนการช่วยเรื่องของเกษตรนาข้าว ซึ่งอยากให้รัฐจัดตั้งโรงสีครบวงจรเพื่อสร้างงานให้คนในพื้นที่ก็จะช่วยลดปัญหาคนว่างงานและลดความแออัดคนในกรุงเทพได้ เพราะเมื่อที่บ้านมีงานทำชาวบ้านที่เข้ามาทำงานในเมืองหลวงก็จะได้กลับคืนสู่บ้านของเขา
น้องเปรียว ยังบอกอีกว่า คำว่า “เศรษฐกิจพอเพียง” ไม่ได้ใช้แค่กับเกษตรกร แต่สามารถใช้ได้กับทุกคน เพียงแต่ทางภาคอีสานส่วนใหญ่เป็นพื้นที่แห้งแล้งไม่ได้อุดมสมบูรณ์เหมือนกับภาคอื่นๆ เราจึงต้องเริ่มพัฒนาที่ดินเพื่อการเพาะปลูกก่อนเป็นอันดับแรก และสำหรับครอบครัวหนูเองถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากที่เดินตามรอยเท้าพ่อมาตลอดซึ่งอาจจะไม่ทั้งหมดแต่ก็ไม่ทำให้เราขัดสน เพราะไม่ว่าจะเป็นการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายตลอดเวลาทำให้เรารู้จักเก็บ รู้จักออมก็ทำให้เรามีการวางแผนการเงินมากขึ้น
"และสิ่งเดียวที่หนูจะตอบแทนในหลวงรัชกาลที่ 9 และแผ่นดินได้ ก็คือการเดินตามรอยเท้าพ่อ ยึดมั่นในคำสอนของพระองค์ท่าน และนำวิชาที่เรียนมาพัฒนาต่อยอดโดยการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย เพราะ “นาฏศิลป์” เป็นสาขาวิชาหนึ่งที่รวมเอาองค์ความรู้ทั้งทางศาสตร์และศิลป์วัฒนธรรมการแต่งกาย ภาษาและสัญลักษณ์ของการสื่อสารของมนุษย์ ศิลปะวิจิตรศิลป์ซึ่งเป็นภูมิปัญญาทางช่างไทยแต่โบราณ มาไว้อยู่ที่เดียวกัน นำมาแสดงโชว์เทิดพระเกียรติตามงานต่างๆที่หน่วยงานจัดการแสดงถวาย นี่คือสิ่งที่นักศึกษาอย่างหนูพอจะตอบแทนได้ในตอนนี้” น้องเปรียวกล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี