วันที่ 20 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟสบุ๊ก "kt-phimmipat" ได้โพสต์ภาพและข้อความลงในเฟสบุ๊กเกี่ยวกับโบราณสถานภายในวัดไชยวัฒนาราม ซึ่งป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
โดยมีข้อความระบุว่า "กรมศิลป์ฯไปไหน!!! เกิดอะไรขึ้นครับกับวิธีการฝังและเดินสายเคเบิล วัดไชยวัฒนาราม พวกออเจ้ารู้หรือไม่ว่า ทำไม ถึงเลือกที่จะทุบ-ทำลายกำแพงวัด ทำไมช่างรับเหมาถึงไม่เลือกที่จะสกัดอิฐออกทีละก้อน หรือ ทำไมไม่เจาะอุโมงค์ลอดใต้กำแพง
คนคุมงานกรมศิลปากรหายไปไหน ไกด์ตอบลูกค้าไม่ได้ เห็นทีแรกก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น นี่หรือคือวิธีการทำงานของประเทศไทย ทำไมไม่เคารพโบราณสถานบ้าง ทำลายโบราณสถาน ตอบลูกค้าไม่ได้จริงๆ งง....ใครตอบคำถามนี้ทีครับ
หลังจากนั้นไม่นานเพจ #ที่นี่อยุธยา ได้โพสต์ข้อความการชี้แจงของกรมศิลป์ โดยระบุว่า ล่าสุดทางกรมศิลป์ออกมาชี้แจง บอกว่า กำแพงนี้เป็นแนวใหม่ อายุไม่ถึง 30 ปี พังได้ ไม่กระทบของเก่าจ้ะ
แต่ยังมีคำถามตามมาอีกว่า "นักท่องเที่ยวเขาไม่รู้กับคุณหรอกว่ามันกำแพงใหม่หรือเก่า แล้วที่ทำออกมาแบบนี้มันสวยงามเหรอ? มันควรทำในสถานที่ประวัติศาสตร์จริงๆเหรอ ให้ภาพลักษณ์ของโบราณสถานออกมาแบบนี้?"
จริงๆถ้ามีความจำเป็นต้องรื้อเพื่อวางระบบไฟลงดิน คิดว่าควรมีการปิดป้ายประกาศรายละเอียดการดำเนินการให้ นักท่องเที่ยวเข้าใจหรือปิดพื้นที่ไม่ให้ นักท่องเที่ยวผ่านเข้าไป จนกระทบต่อภาพลักษณ์ของโบราณสถานได้ แต่ทั้งนี้คงต้องรอกรมศิลป์ชี้แจงต่อไป .... เพื่อนๆชาวอยุธยาคิดเห็นแบบไหน คอมเม้นแลกเปลี่ยนความคิดกันค่ะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี